ร่วมบุญใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” อายุกว่า 105 ปี
ดารานักแสดง พร้อมใจ ร่วมบุญใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” อายุกว่า 105 ปี มหากุศลครั้งหนึ่งในชีวิต เชิญชวนพุทธสานิกชนร่วมถวายทองคำ เสาร์ที่ 26 สิงหาคมนี้ โดยสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศ เป็นประธานสงฆ์รับมอบทองคำ
ศิริลักษณ์ ผ่องโชค พร้อมดารานักแสดง อาทิ เจมี่ บูเฮอร์, ชิน – ชินนวุฒ อินทรคูสิน, โอ๊ต – สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์, น้ำฝน – ทวีพร อารีย์สวัสดิ์, บี – เชษฐ์สิษฐ์ สายอุบล ฯลฯ พร้อมใจร่วมโครงการบุญครั้งประวัติศาสตร์ โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” พระพุทธสารีริกธาตุเจดีย์ ริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.นครพนม สัญลักษณ์แห่แรงศรัทธาของสองแผ่นดิน ไทย~ลาว อายุกว่า 105 ปี เชิญชวนสาธุชนทั่วประเทศ ร่วมกันนำทองคำอันบริสุทธิ์สูงค่า น้อมถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่เจริญรุ่งเรือง และเป็นผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน เสาร์ที่ 26 สิงหาคมนี้ ดีเดย์นัดสาธุชนร่วมถวายทองคำที่วัดบวรนิเวศ
พระธาตุท่าอุเทน คือ พระพุทธสารีริกธาตุเจดีย์ที่สำคัญ สัญลักษณ์แห่งการเคารพบูชาของสองแผ่นดิน ไทย~ลาว เพราะตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขงของสองฝั่งประเทศ ณ วัดพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม และเป็นพระธาตุประจำวันเกิด (วันศุกร์) ที่มีความสูงที่สุด และอยู่ติดริมแม่น้ำโขงที่สุด มีอายุกว่า 105ปีแล้ว สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2454 โดยการนำพาของ “พระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน” พระอริยสงฆ์ผู้ทรงบารมี เป็นผู้ที่คนไทยและลาว มีความเคารพศรัทธาสูงยิ่ง พระอาจารย์สีทัตถ์ได้ชักชวนพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ได้แก่ ชาวจังหวัดหนองคาย จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม ประชาชนไทย และประชาชนชาวลาว ร่วมกันก่อสร้างขึ้นไว้ใกล้แม่น้ำโขง เพื่อเป็นที่กราบสักการะของชาวไทยและชาวลาว ภายในพระธาตุเป็นที่บรรจุพระพุทธสารีริกธาตุ ที่หลวงปู่สีทัตถ์ ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อครั้งที่ท่านถือธุดงค์กรรมฐานจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ รวมทั้ง พระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายไว้” ด้วยเหตุที่องค์พระธาตุได้มีความชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุท่าอุเทน ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการบูรณะซ่อมแซม และทาสี โดยนอกจากตัวองค์พระธาตุแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของพระธาตุท่าอุเทนนี้ คือ ยอดฉัตรพระธาตุท่าอุเทน ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่สูงสุดของพระธาตุ ก็ได้เกิดความสึกกร่อนเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” จึงเกิดขึ้น โดยมาจากความร่วมมือของ 3 ภาคส่วน อันได้แก่ ภาครัฐ ภาคคณะสงฆ์ และภาคประชาชน นำโดยมูลนิธิธรรมดี, กองทุนสืบสานธรรม และวัดพระธาตุท่าอุเทน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำนุบำรุงและรักษายอดฉัตรพระธาตุท่าอุเทน ให้คงสภาพสมบูรณ์แข็งแรง สง่างามสมพระบารมี และนับเป็นครั้งสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนชาวไทย ชาวลาว และพุทธศาสนิกชนทั่วโลก จะได้ร่วมกันนำทองคำอันเป็นธาตุบริสุทธิ์สูงค่าไปหุ้มยอดฉัตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของพระธาตุ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
โดยโครงการฯได้รับอนุมัติจากกรมศิลปากร ให้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ และได้รับเมตตาจาก สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นอกจากนี้ ยังได้รับเมตตาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ สนับสนุนโครงการฯ อีกมากมาย ได้แก่ หลวงปู่สอ ขันติโก อายุ 112 ปี วัดโพธิ์ศรี จ.นครพนม, พระราชภาวนาโกศล (อนันต์ พุทธญาโณ) เจ้าอาวาสวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี, พระครูบริหารบรมธาตุ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม, พระภาวนารัตนญาณ วิ. (ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย, พระอาจารย์พบโชค ติสฺสวํโส เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย, พระครูสุตาลงกต เจ้าอาวาสวัดหนองโค้ง จ.เชียงใหม่, พระณัธสร คุณธัมโม สำนักสงฆ์สำมานะ จ.เชียงใหม่, พระเกจิอาจารย์อีกมากมาย และได้ร่วมอธิษฐานจิตบนแผ่นทองคำเพื่อหล่อยอดฉัตรทองคำนี้
โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” ขับเคลื่อนโดยภาคประชาชนผู้มีจิตศรัทธาอย่างแรงกล้า อาทิ คุณสุรภีร์ โรจนวงศ์ ประธานอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส, ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานดำเนินงานโครงการ, คุณสมาน คุณากรไพบูลย์สิริ ประธานอำนวยการกิตติมศักดิ์, อาจารย์เสวก สงเคราะห์ ประธานกรรมการฝ่ายวิศวกรรมและศิลปกรรม, คุณสุภาพ คลี่ขจาย ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ และเรืออากาศโท วิจักษณ์ สองจันทร์ ผู้ริเริ่มและเลขานุการโครงการ เป็นต้น
“อันว่ายอดสูงสุดของพระธาตุ แสดงถึงความหมายของพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของคำสอนและการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา” จึงเป็นวาระสำคัญ ที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายจะได้ ร่วม “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” 26 สิงหาคมนี้ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ขอเชิญชวนสาธุชน ร่วมกันนำทองคำอันเป็นธาตุบริสุทธิ์สูงค่าไปหุ้มยอดฉัตร อายุกว่า 105ปี ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของพระธาตุ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทั้งนี้ กิจกรรมหลักของโครงการฯ คือ กิจกรรมรับบริจาคทองคำ โดยขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ร่วมใจกันนำทองคำมารวมกันไว้ ณ จุดสูงสุดของยอดพระธาตุ เพื่อเป็นมหามงคลที่สุดแห่งชีวิต โดยใน วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2560 ตั้งแต่ 14.00 น. สมเด็จพระวันรัต เมตตาเป็นประธานรับการถวายทองคำ จากสาธุชนทั่วประเทศ ณ อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร โดยหากรวบรวมทองคำได้ครบ 18 กิโลกรัม และเพชรแท้ครบ 2,049 เม็ด จะปิดรับบริจาคทันที โดยปัจจัยและทองคำที่ได้รับจากผู้ร่วมบุญครั้งนี้ จะนำไปซื้อทองคำและใช้เป็นค่าแรงผลิตชิ้นงานเท่านั้น พร้อมทั้งได้ประสานงานกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในการเข้ามาตรวจสอบบัญชีทั้งหมด เพื่อความโปร่งใส ของโครงการฯ
สำหรับรายละเอียดการหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชรพระธาตุท่าอุเทน มีการออกแบบตามโครงเดิมเพื่ออนุรักษ์พุทธศิลป์แบบดั้งเดิม โดยมีทรวดทรงฉันทลักษณ์งดงามตามสถาปัตยกรรมไทย รวมความสูงของฉัตรคือ 4 เมตร 50 เซนติเมตร จะมีการนำทองคำไปหุ้มฉัตรทั้ง 5 ชั้น จนถึงยอดฉัตรบนสุดทรงดอกบัวที่เป็นจุดสูงสุดของพระธาตุ ใช้ทองคำทั้งหมดประมาณ 18 กิโลกรัม และฝังเพชรแท้ที่ยอดฉัตรบนสุดทรงดอกบัวประมาณ 2,049 เม็ด โดยกระบวนการหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร เริ่มต้นจากการรับบริจาคทองคำ 96.50% ขึ้นไป จากนั้นจะนำทองคำที่ได้มาทั้งหมด ไปตรวจสอบคุณภาพ และคัดแยกตามประเภททอง ทั้งทองคำแท่ง และทองรูปพรรณ เพื่อนำมาหลอมรวมทองเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นจะส่งทองที่หลอมรวมกันเรียบร้อยแล้วนำไปรีดเป็นแผ่น เพื่อผลิตเป็นชิ้นงานฉัตรทั้ง 5 ชั้น รวมถึงยอดทรงดอกบัว จากนั้นจึงอัญเชิญขึ้นไปหุ้มยอดฉัตรเดิม
26 สิงหาคมนี้ จึงเป็นวาระสำคัญยิ่ง ที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ จะได้ร่วมบุญครั้งประวัติศาสตร์ด้วยการนำทองคำ มาถวาย โดยมีสมเด็จพระวันรัต เมตตาเป็นประธานรับการถวายทองคำ ณ อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งการหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชรพระธาตุท่าอุเทนในครั้งนี้ จะเป็นประวัติศาสตร์ของยุค และเป็นมงคลสูงสุดแห่งชีวิต สิ่งที่ได้กระทำนี้ จะอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาไปตราบนานเท่านาน อานิสงส์ผลบุญที่เกิดขึ้นย่อมเป็นพลังอันยิ่งใหญ่แด่พระพุทธศาสนา แผ่นดินไทย และผู้ที่ได้ร่วมบุญกุศล อนึ่งในพระไตรปิฎกได้กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าปทุมุตระได้ตรัสถึงผลแห่งการถวายฉัตรเป็นพุทธบูชาด้วยใจอันบริสุทธิ์ว่า
“…ผู้ใดถวายฉัตรอันประดับแล้วเป็นที่รื่นรมย์ใจนี้…”
“…ด้วยความเลื่อมใสแห่งจิตนั้น ผู้นั้นจะไม่ไปสู่ทุคติเลย…”
“…จักได้เสวยเทวรัชสมบัติในเทวดา 3 ครั้ง…”
“…จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช 32 ครั้งในแสนกัลป์…”
“…ผู้นั้นจักเป็นโอรสผู้รับมรดกในธรรมของพระศาสดาพระองค์นั้น..”
“…กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักเป็นผู้ไม่มีอาสวะนิพพาน…”
ประชาชนสามารถ ร่วมโครงการฯ ด้วยทองคำ ในวันและเวลาดังกล่าว หรือ เป็นเงินปัจจัยได้ที่ บัญชีการร่วมบุญ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 111-430611-9 , ชื่อบัญชี เงินกองทุน สืบสานธรรม ตั้งแต่วันนี้ – 9 ตุลาคม 2560 ***ซึ่งผู้ร่วมบุญทุก 5,000 บาท คณะกรรมการโครงการ จะเขียนชื่อ นามสกุล หรือ ชื่อตระกูล (จำนวน 1 ชื่อ) ลงในแผ่นทองคำแท้ที่จะนำไปหล่อเพื่อหุ้มยอดฉัตร
###
ร่วมบุญหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร 098-945-4265 หรือ 086-982-2915 Official Line @dfoundation