เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ แกล้งดิน เป็น ผู้ให้ และ ลงมือทำ
เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ ประทับใจ โครงการ แกล้งดิน ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช การแก้ปัญหาดินเปรี้ยว หรือดินเป็นกรด โดยการ ” แกล้งดินให้เปรี้ยวสุดขีด ” จนกระทั่งถึงจุดที่พืชไม่สามารถเจริญงอกงามได้ จากนั้นจึงหาวิธีการปรับปรุงดินดังกล่าวให้สามารถปลูกพืชได้
พระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ – โครงการแกล้งดิน เมื่อ วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๒๗ ทรงมีพระราชดำริ ว่า “...ให้มีการทดลองทำดินให้เปรี้ยวจัด โดยการระบายน้ำให้แห้ง และศึกษาวิธีการแก้ดินเปรี้ยว เพื่อนำผลไปแก้ปัญหาดินเปรี้ยว ให้แก่ราษฎรที่มีปัญหาในเรื่องนี้ในเขตจังหวัดนราธิวาส โดยให้ทำโครงการศึกษาทดลองในกำหนด 2 ปี และพืชที่ทำการทดลองปลูกควรเป็นข้าว...”
และ เมื่อ วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๓๕ ทรงมีพระราชดำริ ว่า “…โครงการแกล้งดินนี้เป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่พูดมา 3 ปีแล้วหรือ 4 ปีกว่าแล้ว ต้องการน้ำสำหรับ มาให้ดินทำงาน ดินทำงานแล้วดินจะหายโกรธ อันนี้ไม่มีใครเชื่อ แล้วก็มาทำที่นี่แล้วมันได้ผล ดังนั้น ผลงานของเราที่นี่เป็นงานสำคัญที่สุด เชื่อว่าชาวต่างประเทศเขามาดูเราทำอย่างนี้แล้วเขาพอใจ เขามีปัญหาแล้ว เขาก็ไม่ได้แก้ หาตำราไม่ได้…”
ด้วยการให้ และการทุ่มแทแรงกายแรงใจของพระองค์ท่านเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนอย่างยั่งยื่น จนเป็นที่ยอมรับในระดับสังคมโลก The International Union of Soil Sciences (IUSS) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม (The Humanitarian Soil Scientist) สดุดีพระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555
และ องค์การสหประชาชาติหรือ UN ได้กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น #วันดินโลก (World Soil Day) ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสดุดีพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงตระหนักในการพัฒนาดินอย่างต่อเนื่องและยาวนานวันดินโลก โดยได้มีมติสนับสนุนและร่วมกัน ในการประชุมขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ครั้งที่ 144 ระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ณ สำนักงานใหญ่องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ดังนั้น “วันดินโลก” (World Soil Day) ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2555 เป็นต้นมา
เพลงพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ลำดับที่ 2 มี 2 คำร้อง คือ เพลง ยามเย็น และเพลง LOVE AT SUNDOWN
ทรงพระราชนิพนธ์ ใน พ.ศ. ๒๔๘๙ ขณะยังทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช เป็นงานทดลองของพระองค์ในจังหวะฟ็อกซ์ทร็อต ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย และท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาอังกฤษ แล้วพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีคำถูกต้องสมบูรณ์ให้นายเอื้อ สุนทรสนาน นำออกบรรเลงในงานของสมาคมปราบวัณโรค ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันเสาร์ที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ นับเป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่นำออกบรรเลงสู่ประชาชน เป็นเพลงที่ร่าเริงแจ่มใสเหมาะสำหรับการเต้นรำในสมัยนั้น จึงเป็นเพลงยอดนิยมของพสกนิกรไทยทันที
ยามเย็น
ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์
แดดรอนรอน เมื่อทินกรจะลับเหลี่ยมเมฆา ทอแสงเรืองอร่ามช่างงามตา ในนภาสลับจับอัมพร
แดดรอนรอน เมื่อทินกรจะลาโลกไปไกล ยามนี้จำต้องพรากจากดวงใจ ไกลแสนไกลสุดห่วงยอดดวงตา
แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน ทุกวันคืนรื่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญาณ์ เหมือนดังนภาไร้ทินกร
แดดรอนรอน หากทินกรจะลาโลกไปไกล ความรักเราคงอยู่คู่กันไป ในหัวใจคงอยู่คู่เชยชม
แดดรอนรอน หมู่มวลภมรบินลอยล่องตามลม คลอเคล้าพฤกษาชาติชื่นเชยชม ชมสมตามอารมณ์ล่องเลยไป
ลิ่วลมโชย กลิ่นพรรณไม้โปรยโรยร่วงห่วงอาลัย ยามสายัณห์พลันพรากจากดวงใจ คอยแสงทองวันใหม่กลับคืนมา
แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน ทุกวันคืนชื่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญาณ์ เหมือนดังนภาไร้ทินกร
โอ้ยามเย็น จวบยามนี้เป็นเวลาสุดอาวรณ์ ยามไร้ความสว่างห่างทินกร ยามรักจำจะจรจากกันไป