Share Button

รายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 กดเลข 27 วันนี้ (3ตุลาคม2559) โดยมี “หนุ่ม กรรชัย” และ “หนิง ปณิตา” ดำเนินรายการ นำเสนอเรื่องราวของเด็กนักเรียนมัธยม“คุณแซก – สัตยา แก้วจันดา” ที่มาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อ ช่วยตามล่าคนขับรถชนพ่อจนอาการสาหัสแล้วหนี ซึ่งตอนนี้มีหน่วยงานยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ นั่นก็คือทีมงานทนายประชาชน โดยคุณ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด (ทนายตั้ม)” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนที่ยื่นมือมาช่วยเหลือตามจับคนร้ายที่ขับรถยนตร์ชนพ่อน้อง จนอาการสาหัส ณ ตอนนี้ยังนอนไม่รู้สึกตัวอยู่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปฟังกัน
20161003jiggaban%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%8b%e0%b8%81-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%97%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a2
เรื่องราวมันเกิดอะไรขึ้น อยากให้น้องแซกเล่าให้ฟังหน่อย?
“เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื้อวันที่ 20 กันยายน วันอังคารแม่ให้พ่อซื้อกับข้าวไปให้ ถนนที่เกิดเหตุที่ถนนบางปลา สมุทรสาคร พอแม่กับพ่อมาเจอกัน พ่อก็ยื่นถุงกับข้าวให้แม่ แล้วพ่อก็จะเข้าทำงานต่อ และแม่ก็กลับบ้าน แล้วก็แยกกันที่ถนนเส้นนั้น ผมมีพี่น้องสองคน ผมเป็นคนโตและก็น้องสาวคน1คน อายุ 12 คุณแม่เย็บผ้า คุณพ่อทำงานอยู่โรงงานครับ ตัวผมอายุ 17ปี หลังจากที่คุณพ่อเอาอาหารมาให้แม่เสร็จแล้ว พ่อก็ขี่มอเตอร์ไซด์กลับ จากนั้นคุณพ่อก็โดนรถชน เป็นรถเก๋ง ฮอนด้า แจ๊ส ชนท้ายรถของพ่อ ชนเข้าไปที่ท้ายรถเต็ม ๆ เลย คือก็มีเพื่อนพ่อที่ทำงานเขาปั่นจักรยานมา มาเจอเห็นเป็นเสื้อที่โรงงาน ก็เลยพลิกหน้ามาดู เลยพลิกหน้ามาดู พบว่าเป็นพ่อ แล้วก็มีคนโทรมาบอกที่บ้าน รถคันนั้นชนแล้วก็ลากมอเตอร์ไซด์ไปสักประมาณ 5-10 เมตรได้ แล้วก็ขับหนีไปเลย ถนนเส้นนั้นเป็นชุมชนนะครับ จะใช้ความเร็วในการวิ่งไม่มาก”
แล้ว ณ จุดเกิดเหตุตรงนั้นมีกล้องวงจรปิดไหม?
“ไม่มีกล้องวงจรปิด คือช่วงนั้นมันเป็นช่วงระหว่างตลาดและก็หมู่บ้าน มันก็เลยเป็นช่วงที่เปลี่ยว ทางมันมือ”
ทีนี้หลังจากนั้น เรามาทราบข่าวได้อย่างไรว่าพ่อถูกรถชน?
“มีเพื่อนพ่อโทรมาบอกที่บ้าน ว่าพ่อถูกรถชน อยู่ที่รพ. ผมกับแม่ก็พากันไปที่โรงพยาบาล ตอนแรกทีเห็นก็ตกใจทั้งบ้าน ก็คือคิดว่า ความรู้สึกของผมคิดว่าพ่อน่าจะไม่รอด เพราะเลือดเต็มหมดเลย ตอนทีเห็น คือ อยู่ในมือหมอแล้ว แต่เลือดก็ยังไหลไม่หยุด คุณหมอก็ใช้กระดาษช่วยซับ ตอนนั้นอยู่ในห้องฉุกเฉินณ วันนี้คุณพ่อยังไม่รู้สึกตัวครับ ยังไม่ฟื้น คุณหมอแจ้งว่าเคสของพ่อคือผ่าตัดไม่ได้ สมองที่มีเลือดคั่งไม่ได้ออกแค่จุดเดียว มันออกหลายจุด ทั่วสมอง ต้องรอให้สมองมันยุบถือจะผ่าตัดได้ ร่ายกายก็มีแผลถลอกแค่ที่แขน”
ในมุมของคดี ณ วันนี้เป็นอย่างไร เห็นว่าตัวเองต้องมานั่งตามหาหลักฐานเอง ไปแจ้งความหรือยัง?
“ใช่ครับ แจ้งความตั้งแต่วันที่เกิดเหตุเลยครับ ตั้งสติได้ก็ไปแจ้งความ ผมก็แจ้งวันที่ 20 พอวันที่ 21 ผมก็โทรลาที่โณงรียน ผมไม่ได้ไปโรงเรียน และก็ไม่ได้ไปที่ทำงานเพราะแม่บอกให้มาช่วยดู ทีนี้ก็มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เขาบอกว่าเขาจะติดตามกล้องให้ เขาก็ประสานงานให้ และให้ผมไปขอดู ที่ไหนที่มีกล้อง”
น้องไปแจ้งความแล้ว แล้วทำไมต้องไปหาเอง แล้วตำรวจเขาบอกว่าอย่างไร?
“เขาบอกว่า เดี๋ยวจะมีทางตำรวจจะลงพื้นที่ให้ แต่ก็ยังเงียบ ตั้งแต่เกิดเหตุ ผมก็ยังไม่เคยรับสายโทรศัพท์จากทางตำรวจเลย จนถึงวันนี้”
นี่ไปเรียนมาบ้างหรือเปล่า เห็นบอกว่าจะออกจากโรงเรียน?
“ไปวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฝันกันไว้ ทางครอบครัวคุยกันไว้ว่าเราจะเดอนอย่างไรต่อ ซึ่งผมก็จะจบม.6 อีกหกเดือน ทีนี้น้องสาวก็ยังเรียนอยู่ แม่ก็ไม่ได้ทำงาน มาดูแลพ่อ ผมก็เลยคิดว่าจะออกจากโรงเรียนมาช่วยครอบครัว”
จะออกจากโรงเรียนมาช่วยครอบครัว ทำไมถึงมีความคิดแบบนั้น?
“คือครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวที่ร่ำรวย คือเราลำบากมาตั้งแต่อยู่ต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพ อยู่สมุทรสาคร คุณพ่อก็ล้มป่วย น้องก็ยังเรียนอยู่ คุณแม่ก็ต้องออกมาดูแลคุณพ่อ”
ค่าใช้จ่ายของคุณพ่อที่เจ็บป่วยอยู่ตอนนี้ ใครเป็นคนจ่าย?
“ตอนนี้คุณพ่อสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ ใช้สิทธิ์นั้นอยู่ มีคุณหมอบอกว่าน่าจะคัพเวอร์ไม่ทั้งหมดนะครับ”
ทีนี้มาคุยกับทนายตั้ม เข้ามาดูแลเรื่องนี้ได้อย่างไร เมื่อตัวน้องเองบอกว่าได้แจ้งตำรวจไว้เรียบร้อย แต่ตำรวจก็ยังไม่มีมาบอกว่าคดีไปถึงไหน จนน้องต้องไปลงพื้นที่ไปดูเอง ไปขอดูกล้องเอง คุณเข้ามาช่วยได้อย่างไรครับ?
“เรื่องนี้มีสื่อให้ความสนใจเยอะมาก มีอยู่วันหนึ่งน้องเข้ามาติดต่อมาหาผมที่สำนักงาน และก็บอกว่าเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 แล้วและคดีก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ผมก็เลยไปดูพื้นที่เกิดเหตุตั้งแต่วันนั้นเลย เพราะว่าหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องคดี นานวันไปมันจะเลือนหายไปได้ เพราะน้องเป็นนักเรียนอยู่ ยังไม่มีความรู้เรื่องนี้ อีกอย่างน้องยังเด็กเกินไป”
ทนายตั้งเองได้ลงพื้นที่ ได้พบเจอหลักฐานอะไรที่พอจะชี้ตัวได้บ้างไหม?
“เราก็ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่นอ้งมาหาผม ผมก็ไปตรวจสอบกล้องวงจรผิดตามที่ต่าง ๆ ใช้เฟสบุ๊คให้เกิดประโยชน์ และก็โพสต์ถามว่าวันที่เท่านี้ มีใครเห็นเหตุการณ์อะไรบ้าง”
ตอนนี้เป็นอย่าไงรบ้างครับ?
“หลังจากที่ผมรับเรื่องมาเนี่ย ไปดูพื้อนทีเกิดเหตุแล้ว มีการใช้ลื่อสังคมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ ผมก็โพสต์ถามว่าวันที่เกิดเหตุมีใครเห็นเหตุการณ์บ้าง ก็มีคนแจ้งเบาะแสมาเยอะมาก มีคนเห็นเหตุการณ์ครับ เป็นรถแจ๊ส สีเทาดำ ป้ายแดง เป็นรถแต่ง ใช้ไปข้างหน้าสีฟ้า พอเราได้ข้อมูลมา เราก็ไปหาข้อมูล พอเรารู้ว่าเป็นลักษณะดังนี้แล้ว ก็มีการโพตส์ถาม ก็มีคนมาให้ข้อมูลเยอะเลย ว่าเห็นเหตุการณ์เป็นทะเบียนนี้ จนตอนนี้สืบทราบมาแล้วว่าคนชนเนี่ยคือใคร”
สืบจนรู้เลยหรอ?
“ใช่ครับ คือทางนั้นเนี่ย เป็นทางที่รถคันนี้กลับบ้านด้วย พอดีเลย และก็ไม่ลงมาช่วย พ่อน้องแซกถูกชนประมาณ 3 ทุ่ม 15 คนที่ชนมีการโพสต์ว่า อยากจะบ้า ตอน สามทุ่ม สี่สิบ-ห้าสิบนาที หลังจากนั้นเหตุเกิดวันที่ 20 เขามีการไปทำบุญล้างซวยเก้าวัดที่อยุธยาเนี่ย วันที่ 28”
มั่นใจได้อย่างไรว่าเป็นเขา?
“มีพยานเห็นเหตุการณ์และก็กล้องวงจรปิดทุกอย่างเลย”
สิ่งที่ผมงงมาก แล้วตำรวจเขาไม่มาดูเลยหรอ?
“เอ่อ…พอดีผมก็ยังไม่ได้ประสานกับทางตำรวจนะครับ วันนี้จะไปเจอ แต่ทางน้องแซกเขาประสานกับทางตำรวจ เอาแฟตไดร์ฟ ข้างในเป็นรูปที่เป็นหลักฐานไปให้ตำรวจ แต่เขาบอกว่า ต้องการที่มันชัดกว่านี้”
เหตุการณ์ทีเกิดขึ้นส่งผลกระทบขนาดอีก 6 เดือนที่น้องจะเรียนจบม.6 ไม่ได้เลยหรอ?
“จริง ๆ แม่ก็อยากให้เรียนนะครับ เราก็อยากเรียน แต่ว่าค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายของน้องด้วย ของครอบครัว ตอนนี้แม่ไม่ได้ทำงาน แม่ลาที่ทำงานออกมาดูแลพ่อ แล้วผมก็เลิกเรียนก็ไปทำงาน ก่อนหน้านี้ผมก็ทำงานไปด้วยเรียนหนังสือไปด้วย เงินที่ได้จากการทำงานก็ต้องส่งไปดูแลคุณยาย เพราะคุณยายก็มีอายุแล้ว สิ่งที่ส่งไปก็คือ ฝันกับพ่อว่าอยากจะทำบ้าน บ้านผมเป็นบ้านชั้นเดียว ข้างล่างมันไม่มี เมื่อก่อนมันก็โอเค มันเสมอถนน แต่ตอนนี้เขาถมถนนให้สูงขึ้น บ้านผมก็เลยต่ำกว่าถนน เวลาฝนตก น้ำก็ท่วม อยากเก็บเงินสักก้อนนึง แต่ ณ วันนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว (เสียงสะอื้น) คือ จริง ๆ ผมก็ส่งกับพ่อ ผมส่งเดือนละสองพัน พ่อช่วยผมพันนึง ส่งไปให้ยายทำบ้านเท่าที่มี”
ณ วันนี้พ่อป่วยล้มขนาดนี้ จะทำอย่างไรกันต่อ?
“ก็ต้องคุยกับแม่ว่า ณ วันนี้เราจะเดินอย่างไรกันต่อไป เราจะเดนกันได้ไหม ถ้าวันนึงพ่อไม่อยู่กับเรา เราจะเดินกันอย่างไร (สียงเครือ) และก็จะดูแลน้องน้องอีกคนของเราอย่างไร ตัวแซกก็คือแซกจะพยายามให้ได้วุฒิม.6 ส่วนมหาลัยที่เรียนก็ไม่มีโอกาส ค่าใช้จ่ายที่จะเรียนถึงม.6ก็ไม่แพงมากแต่เราต้องเอาแรงเราออกมาช่วยหาเงิน เลี้ยงครอบครัว พ่อบอกว่าจะอย่างไรก็ช่างให้จบม.6ไว้ก่อน พยายามที่จะดูแลน้องสาวอีกคน น้องก็แค่ป.6 กำลังจะขึ้นม.1 ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผมก็อยากจะช่วยแม่ ไม่อยากให้แม่ลำบากกว่านี้ ซึ่งที่เป็นอยู่ทุกวันก็ลำบากอยู่แล้ว”
คุณหมอพูดถึงอาการคุณพ่อว่าอย่างไร?
“ความหวังที่พ่อจะกลับมาปกติก็ไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ณ วันนี้ไปคุยกับคุณพ่อ ก็ฌหมือนเขารับร็ บางวันน้ำตาเขาก็ไหล บางวัเนหมือนเขาก็อยากจะลุก แต่ก็เขาลุกไมได้ แซกไปพูดกับพ่อว่า พ่อตื่นมาเถอะ มาอยู่กับครอบครัวเรา เมื่อก่อนมีพ่อก็ยังสนุกกว่านี้ ตอนนี้พ่อมานอน สงสารน้อง ไม่มีคนไปส่งน้องที่โรงเรียน ก็คืออยากให้เขาตื่น (ร้องไห้)”
สุดท้ายร่วมช่วยเหลือน้อง “แซก” กันได้ที่เลขที่บัญชี 034-048-3593ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัส มหาชัยชื่อบัญชี นางเบญจวรรณ แก้วจันดา

Facebook Comments
Share Button