“หนุ่ม กรรชัย”เปิดปมธุรกิจรับรางวัล!“ลูกตาล” ควง “อนุสรณ์” เคลียร์ดราม่า….best billion business award 2016
รายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 กดเลข 27 โดยพิธีกร “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” และ “เข็ม – ลภัสรดา ช่วยเกื้อ” นำเสนอเรื่องราวของผู้จัดงาน best billion business award 2016 ซึ่งถูกจัดสร้างขึ้นมาและก็โดนวิพากวิจาร์ณกันเป็นอย่างมาก ในสังคมวงกว้าง ว่าจริง ๆ แล้วเขาจัดขึ้นมาเอารางวัลมาแลกกับเงิน เพื่อสร้างภาพในแง่ของธุรกิจให้กับคนดังทั้งหลาย ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร วันนี้จะไปพูดคุยกับคุณอนุสรณ์ จารุวัฒนานุกูล กรรมการ ผจก. บ.อนุสรณ์ กรุ๊ป และคุณลูกตาล ชโลมจิต จันทร์เกตุ ซึ่งเป็นดาราที่ได้รับรางวัลมาเปิดใจให้ฟังว่า
งานนี้มันคือรางวัลอะไร?
“คือการจัดงานในครั้งนี้เรารวบรวมนักธุรกิจที่ทำธุรกิจในสื่อของโลกออนไลน์ ปกติการตลาดในแต่ละแบนด์จะมีรูปแบบแตกต่างกัน ส่วนของผม ผมก็เลยคิดว่าถ้าเราจัดงานขึ้นมาหนึ่งงาน เรารวมนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของแบนด์ต่าง ๆ มากมาย ที่ไม่มีตัวตน วัน ๆ อยู่ในออนไลน์ อย่างเดียว แต่ทีนี้เราให้ทุกคนมาจัดงานแล้วมารวม แล้วทุกคนมาแลกเปลี่ยนความคิดกัน เหมือนคุณลูกตาลมางานนี้ก็จะได้มาแลกเปลี่ยนความคิดกัน ว่าแต่ละแบนด์เป็นอย่างไร งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก มีผู้เข้าร่วมประมาณหนึ่งร้อยกว่าแบนด์สินค้าได้ครับ.
พี่นุเลือกอย่างไงในการให้ร้อยกว่าแบนด์มาเข้าร่วมงาน?
“ปกติกจะมีทีมงานและคณะกรรมการในการจัดเลือก 1. อย.ต้องมี ต้องผ่านอย.2.จะต้องมีตัวตนในเฟสบุ๊ค แต่จะต้องดูด้วยว่าบริษัทนี้เวลาเขาขายของกันเขามีการโอนเงินและส่งสินค้าจริงไหม ถ้าบริษัทนั้นรับแต่เงินโอนแต่ไม่ส่งสินค้าก้นเราก็ไม่รับฟ้องร้องอยู่แล้ว แล้วรางวัลมันไม่ได้เรียงลำดับ และเงินที่เก็บมาทั้งหมดมันเป็นค่าจัดงานส่วนหนึ่ง เราแจกรางวัลเท่ากัน และสปอนเซอร์ของผู้จัดงานนี่บางคนก็จ่าย บางคนก็ไม่ได้จ่ายนะครับ”
เมื่อล่าสุดเร็ว ๆ นี้ก่อนที่จะมีการจัดงานนี้ขึ้นมา มันมีลักษณะเหมือนกับใบปลิวที่แจกไปตามนักธุรกิจต่าง ๆ ที่มีผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเองอะ ก็มีเขียนเลยว่าใครได้รับรางวัลนี้จะต้องมีเงินมาช่วยเนี่ยสองหมื่น?
“ต้องเรียนอย่างนี้เวลาจัดหนึ่งรายการขึ้นมาก็ต้องขายโฆษณา สปอนเซอร์หลักก็ต้องจ่ายแพงกว่าสปอนเซอร์รองก็จ่ายรองลงมา เหมือนกันของผมก็ทำแบบนี้เหมือนกัน.
แต่นี่ในใบปลิวเขาระบุไว้เลยนะว่า VIP พรีเมี่ยมต้องเสียค่า?
“ใช้ว่าสนับสนุนงานดีกว่า สนับสนุนงานหนึ่งแสนบาทจะได้รางวัลนี้ไป สีแดง และสีน้ำเงินก็คือสองหมื่นบาทในการสนับสนุน”
สีน้ำเงินสองหมื่นบาทคือดาราทั่วไป เงินสองหมื่นบาทเอาไปทำอะไร?
“อย่างนี้นะครับ ออแกไนท์มันมีการจัดงาน มีค่าสนับสนุนงานอยู่แล้วนะครับ จอทีวี แสง สียง และส่วนหนึ่งเราเอาไปทำบุญอยู่ที่สมาคมสื่อสัมพันธ์แห่งประเทศไทย และก็มีชมรมปันน้ำใจอุ่นไอรัก อันนี้เราไปจริงในงานคุณลูกตาลก็เห็นว่ามีวีทีอาร์ตั้งแต่ต้น ยันจบรายการ”
คุณนุจะบอกว่าผมรายการปากโป้งเองทำขึ้นมาเพื่อสังคมก็จริงแต่อีกมุมหนึ่งคือก็ต้องมีผู้สนับสนุนจริงไหมครับ?
“ถูก”
แต่ปัญหามันคือทางเรานะ ต้องขอโทษนะครับ ทางเราอาจจะไม่เคยไปบอกว่าใครอยากจะไปออกรายการต้องเสียเงินเท่านี้นะครับ แต่ของคุณไปบอกว่าถ้าใครอยากได้รางวัลต้องสนับสนุนเท่านี้นะครับ?
“ต้องเรียนอย่างนี้ครับว่าในการจัดงานหนึ่งงาน มันจะเป็นงานขึ้นมาได้ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายได้ หนึ่งคือคุณลูกตาลสินค้าแกก็ส่งมาให้เราดู ทางทีมงานโอเคตอบรับคุณลูกตาลไป คุณลูกตาลก็สวยงามมางาน ส่วนในการประชาสัมพันธ์ของแต่ละบริษัท เราต้องพีอาร์ในวงกว้าง จะแอบเอาเอกสารมานั่งแจกกันมันไม่ใช่อะ”
พูดง่าย ๆ คุณก็จะบอกว่าคุณก็ชัดเจน?
“ชัดเจน ผมก็ชัดเจนมาก คือคนที่ได้รางวัลไม่ได้ทุกคนอย่างที่แจ้งให้ทราบ คือเอกสารมันเหมือนกับทางรายการขายโฆษณา มันก็จะมีเอกสารผ่านทุก ๆ คน คุณอ่านแล้วคุณก็ต้องสนใจก็ได้ คุณไม่สนใจก็ได้ คุณจะซื้อก็ได้ คุณไม่ซื้อก็ได้”
แต่ทีนี้คือ ขอโทษนะเป็นการซื้อรางวัลหรอ เพื่อเป็นการโฆษณาสินค้าตัวเอง?
“ใช่ ครับ คือทุกคนที่ขายของในอินเตอร์เน็ตเฟสบุ๊คเนี่ย จริง ๆ แล้วเขาโปรโมทของเขาทุกวันอยู่แล้ว การได้รับรางวัลก็เหมือนกับไปบอกว่าเขามีตัวตนจริง ๆ นะ เขาได้มาร่วมงานนี้นะ เพื่อเป็นการทำให้เขามีตัวตนในสังคม”
ถ้าอย่างนั้นแล้ว เข็มขอถามในฐานะคนดูนะ ถ้าเขาจะพูดได้ว่ารางวัลนี้ไม่สามารการันตีในผลิตภัณฑ์นั้นดีจริง?
“เราไม่เคยการันตีเลยว่าผลิตภัณฑ์อันนี้ดีไม่ดี อันนั้นเค้าไปขายการเองในช่องทางของใครของมันอยู่แล้ว”
ในทางกลับกัน รางวัลเองสมมุตว่าผมเล่นละคร การที่จะมอบรางวัลให้กับนักแสดง เขาก็หมายความว่านักแสดงก็ไม่ต้องไปเสียเงินนะ?
“ฟังนะ พอถามแบบนี้ขึ้นมาปุ๊บ มันก็จะมีคำถามว่าแล้วคุณเอากฎเกณฑ์ตรงไหนมาตัดสิน เพราะว่าช่องนี้ดาราช่องนี้ก็ต้องได้ อีกช่องหนึ่งดาราของอีกช่องหนึ่งก็ต้องได้ มันเหมือนกันแต่อยู่ที่ว่าเราจะพูดในมุมไหนมากกว่า”
ในมุมของคุณ คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำคุณต้องการผู้สนับสนุน เพราะคุณเองจัดที่พารากอน ค่าใช้จ่ายคุณจะต้องมี?
“ถูก เหมือนเป็นมีตติ้งกัน”
ทีนี้มีคนสงสัยว่าสมาคมสื่อมวลชนสัมพันธ์ประเทศไทยคืออะไร?
“ผมจะเรียนง่าย ๆ ว่า พอดีเพื่อนผมที่ทำงานด้วยกัน หุ้นส่วนเนี่ย แอบไปรู้จักผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่วัดยานนาวา ชมรมนี้จะอยู่ที่วัดยานนาวา ถามว่าชมรมตั้งมา 14 ปี ผมเลยบอกสว่าผมจะทำกิจกรรมเข้าไปสมทบ”
ชมรมนี้มันเกี่ยวกับอะไร?
“ก็จะเป็นของช่วยเหลือสังคม น้ำท่วม เขาก็จะเอาของไปให้”
ขอโทษนะครับ มันก็จะมีบางมุมที่พูดกันมาว่ารางวัลนี้พอเห็นว่าเป็นสมาคมสื่อมวลชนปุ๊บห็จะเหมือนกับว่าเอามาสร้างแบนด์ตัวเอง?
“อันนี้ก็คิดได้ หลายแง่มุม แต่ของผม ผมไปกันจริง ๆ ผมไปกันบนดอย บนป่า เราต้องการจะช่วยเขา และเขาไม่มีสตางค์ คือเราไปช่วยเขา ปีที่แล้วเนี่ยผมไปบนดอย ซื้อผ้าห่มไป เอาทุรการศึกษาไปให้ทุนละ 500 บาท เกือบพันทุนแล้วมั้ง แล้วก็เยอะเลย ขนมเอาไปเป็นรถหกล้อเลย เงินทีได้ก็เอาไปทำบุญหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว”
ถามคุณลูกตาลบ้าง เสียเงินไหม?
“ไม่ได้เสียค่ะ อันนี้ตอนที่เขาติดต่อมาก่อนหน้านี้ประมาณสองเดือนเป็นการประกวดผลิตภัณฑ์ ทางฝ่ายการตลาดก็ส่งผลิตภัณฑ์เข้าไป ของตาลเป็นแก้โรคผิวหนัง สะเก็ดเงิน แก้โรค คือเราก็ส่งว่าเรามีข้อดีอะไร ส่งไปให้เขาพิจารณา จะได้ไม่ได้ก็ไม่ทราบ ทางเขาก็ติดต่อมาว่าผลิตภัณฑ์ของหนูได้รับการคัดเลือก เพราะว่าผลิตภัณฑ์เราไม่มีคู่แข่ง ส่วนเวลาการจัดงานเขาก็จะถามว่าจะช่วยบริจาคไหม แต่เราก็ไม่ได้ช่วยบริจาค คือเราได้รับรางวัลแล้ว เขาก็บอกว่าถ้าคุณต้องการที่จะเป็นสปอนเซอร์อีกต่อหนึ่งก็สามารถทำได้ เราถึงไปรับรางวัล”
ทีนี้เกณฑ์มาตราฐานที่เราเลือกมา
“ไม่มีอันดับ ไม่มีอันดับ1 2 3 เกณฑ์ ต้องมีอย.”
แล้วถ้าคนมีอย.ร้อยแบนด์คุณจะส่งให้ร้อยแบนด์เลยหรอ?
“จริง ๆ การสนับสนุน ผมก็ต้องตั้งเอไว้ประมาณสองร้อย มีร้อยแบนด์ที่มีอย.ถูกต้องเพราะฉะนั้นไม่เห็นจะต้องมีปัญหาอะไรเลย”
รางวัล 1 แสนบาทมีกี่รางวัล?
“มีรวมทั้งของดาราด้วย มีอยู่แค่ 7 รางวัล คือไม่เสียเงินกันทั้งนั้นเลย จะมีเสียเงินอยู่ต้องที่มาช่วยสนับสนุนเพียงแค่3-4แบนด์เท่านั้น”
คุณกลัวไหมครับว่าเจ้าของผลิตภัณฑ์เขาจะเอารางวัลไปตั้ง แล้วบอกของฉันดี แล้วเอาไปตั้งหลอกผู้บริโภค?
“ไม่กลัวนะ อันนี้มันเป็นเงื่อนไขของทางบริษัท ทางงานเราไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย เราจัดเพื่อเป็นการมิตตี้งกันมากกว่า”
แต่คุณยืนยันอย่างหนึ่งว่า ที่คุณเรียกเก็บเงิน เงินไม่ได้เข้ากระเป๋าคุณเอง?
“เข้าบริษัทแน่นอน เขามีขั้นตอนการทำงานของเขา ของผมเป็นผู้บริหารคนหนึ่งเท่านั้น จ่ายค่าต่าง ๆ สถานที่ ฯลฯ ที่เหลือก็เอาไปทำบุญ ไมได้ทำเป็นธุรกิจครับ คือต้องบอกว่าถ้ามันได้ถูกตัดสินมาจากทางผู้ใหญ่ หรือจากทางประชาชน หรือมาจากทางเจ้าหน้าที่บ้านเมือง อันนี้ค่อยมาว่าผม ถ้าตัดสินใจด้วยความคิดของบุคคล ผมว่าไม่เหมาะ ไม่ถูกต้อง”