“เฉลิมฉลอง 83 ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง” ชมการแสดงนาฏศิลป์ไทยรำบวงสรวงชุด “ตรีเทวะประทานพร” และการแสดงโขนชุด “สองกร วรวิก”
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงพระราชทานโรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลิมกรุง เพื่อเป็นของขวัญแก่พสกนิกรชาวไทยในโอกาสฉลองพระนคร 150 ปี เพื่อให้ประเทศไทยได้มีโรงมหรสพที่ได้มาตรฐานสากลและทัดเทียมนานาอารยประเทศ ณ วันนี้ 83 ปี ศาลาเฉลิมกรุงเป็นโรงมหรสพหลวงแห่งแรกและแห่งเดียว ที่ยังคงยืนหยัดเป็นศรีสง่าอยู่คู่กับบ้านเมืองไทย ให้ความสุขความบันเทิง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่งมายาวนานถึง 83 ปี เมื่อปี 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริให้อนุรักษ์ศาลาเฉลิมกรุงไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน และเป็นสถานที่สำหรับแสดงศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ ซึ่งกลับมามีบทบาทโดดเด่นอีกครั้ง ด้วยความบันเทิงครบทุกอรรถรส ทั้งภาพยนตร์ โขน ละคร และดนตรี เป็นสถานพักผ่อนหย่อนใจสร้างความสุขความบันเทิงให้แก่ผู้คนทุกยุคสมัย
ในโอกาสครบรอบการดำเนินการ 83 ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง และครบรอบ 11 ปี การก่อตั้งมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ในวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2559 นี้ ศาลาเฉลิมกรุงได้กำหนดจัดพิธีทางศาสนาและจัดงาน “เฉลิมฉลอง 83 ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง” เริ่มด้วย “พิธีสงฆ์” เวลา 07.00 น. ณ เวทีศาลาเฉลิมกรุง ต่อด้วยเวลา 09.09 น. “พิธีบวงสรวง” ณ บริเวณด้านหน้าศาลาเฉลิมกรุง โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ (พิเศษ) สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานกรรมการมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง เป็นประธานในพิธีบวงสรวง ชมความวิจิตรงดงามของนาฏศิลป์ไทย รำบวงสรวงชุด “ตรีเทวะประทานพร” เป็นการแสดงที่กล่าวถึงเทพ 3 องค์ ได้แก่พระวิษณุกรรม พระประโทนธรรพ และพระปัญจสิงขร ซึ่งเป็นเทพประจำศาลาเฉลิมกรุงมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง สถิตย์เป็นสง่าอยู่บริเวณด้านบนของเวทีการแสดง อันเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของศาลาเฉลิมกรุง โดยเทพทั้ง 3 องค์ พร้อมด้วยเหล่าเทวดานางฟ้าลงมาประทานพรเพื่อเป็นสิริมงคลในวันครบรอบ 83 ปี ศาลาเฉลิมกรุง แสดงโดยนักแสดงโขน~ศาลาเฉลิมกรุง
ต่อด้วย พิธีมอบทุนกองทุนนาฏดุริยางคศิลปไทย “มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง” ประจำปี 2559 โดย ศาสตราจารย์ (พิเศษ) สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานกรรมการมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง เป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้แก่ นักเรียนและนักศึกษา ที่ศึกษาทางด้านนาฏศิลป์ไทย ดนตรีไทยและคีตศิลป์ไทย ของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และสถาบันอุดมศึกษาทั่วไป จำนวน 9 ทุน ต่อด้วยพิธีมอบเงินช่วยเหลือนักแสดงอาวุโส “มูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส” โดย นายเศรษฐา ศิระฉายา(ศิลปินแห่งชาติ) ประธานมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส เป็นผู้มอบทุนให้แก่นักแสดงอาวุโส อาทิ ชาลี อินทรวิจิตร(ศิลปินแห่งชาติ), มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา(ศิลปินแห่งชาติ), น้ำเงิน บุญหนัก, ร.ต.ต.จำนง บำเพ็ญทรัพย์, อโนเชาว์ ยอดบุตร, พิศมัย ภักดีวิจิตร, กานดา นามแย้มแป้น, อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา, ไพโรจน์ ใจสิงห์, สมสุข ประณต, นภาพร หงสกุล, วัฒนะ คุ้มครอง
ปิดท้ายด้วย การแสดงโขนชุด “สองกร วรวิก” เรื่องราวของยักษ์สองพี่น้องชื่อว่า สองกรและวรวิก ที่คิดแก้แค้นให้บิดาที่ถูกเทวดาสังหารเพราะอาจหาญคิดจะเป็นใหญ่ในสามโลก ทั้งสองจึงทำพิธีร่ายเวทมนต์ให้วิมานเทพร้อนเป็นไฟ พระอินทร์จึงเสกดาวกลายเป็นเทพดาราให้มาทำลายพิธี สองพี่น้องสู้รบกันเพื่อชิงนางจนทั้งสองสิ้นชีพ พระอินทร์เวทนาจึง ชุบชีวิตขึ้นให้ใหม่ แล้วสั่งสอนให้เลิกประพฤติตนเป็นอันธพาล แสดงโดยนักแสดงผู้ได้รับทุนกองทุนนาฏดุริยางคศิลปไทย “มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง” ร่วมด้วยนักแสดงโขน~ศาลาเฉลิมกรุง บรรเลงดนตรีโดยวงโรหิตาจล กำกับการแสดงโดย ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์(ศิลปินแห่งชาติ) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศาลาเฉลิมกรุง โทร. 0-2225-8757-8, 0-2623-8148-9