Share Button

เรื่องย่อ ละคร บาปอยุติธรรม
“เมื่อความอยุติธรรมถูกทวงถาม และเพลิงบาปลุกลามยากจะดับ”

view More & Full size Photos

​”ชิดตะวัน” ว่าที่แพทย์อนาคตไกล กลับต้องถูกปรักปรำให้ต้องรับผิด ชีวิตต้องตัดขาดจากโลกภายนอกถึง 11 ปี จนวันหนึ่ง “ปลายฝน” ทนายมือใหม่ กลับมาช่วยเหลือและปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ และนี่คือจุดเริ่มต้นของ “เพลิงบาป” ที่ลุกลาม เมื่อเขาตั้งใจจะล้างแค้นทุกคนที่ทำให้เขาเสียทุกอย่างในชีวิต โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าปลายฝนที่เข้ามาช่วยและทำให้เขาตกหลุมรัก คือหนึ่งในผู้ปรักปรำและทำให้เขาถูกจองจำมานานถึง 11 ปี จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อชิดตะวันเดินหน้าค้นหาความจริง ขณะที่ปลายฝนต้องแก้ไขปกปิดและหลีกหนีความจริงนั้น และทั้งคู่จะทำอย่างไรเมื่อถูกรั้งไว้ด้วยเพลิงรักที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น พร้อมกับเรื่องราวการล้างแค้นดุจเพลิงบาปที่ลุกลามวอดวายเกินควบคุม…


​ณ เรือนจำจังหวัดหนึ่ง … “ปลายฝน” ทนายสาวเดินทางมาถึงด้วยท่าทีมุ่งมั่นแต่สายตาไม่อาจโกหกได้ว่าเธอกำลังเก็บกดความกังวลภายในใจเอาไว้ เพราะเธอกำลังจะเข้ามาทำคดีสำคัญ คดีที่จะเปลี่ยนชีวิตใครคนหนึ่งไปตลอดกาล… และ “ชิดตะวัน” (ตะวัน) ก็คือนักโทษชายที่ปลายฝนตั้งใจเข้ามาพบในวันนี้ เธออ้างว่าต้องการช่วยรื้อคดีของเขาขึ้นมาใหม่ เพราะเธออยากจะสานต่อจากอาจารย์ของเธอที่ตายไปซึ่งที่เคยดูแลคดีนี้ และยังมีเรื่องค้างคาใจเกี่ยวกับคดีนี้อยู่ ชิดตะวันมองปลายฝนด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขาปฏิเสธปลายฝน เพราะเขาเคยผิดหวังกับ “กระบวนการยุติธรรม” และถ้ามันมีอะไรที่ช่วยเขาได้ เขาคงไม่ต้องถูกจำคุกมานานถึง 11 ปี…

​11 ปีที่แล้ว… ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีผู้ป่วยฉุกเฉินจำนวนมากจากอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำ หมอและพยาบาลต่างช่วยกันปฐมพยาบาลรักษาคนไข้ คนไข้ฉุกเฉินรายหนึ่งต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน แต่หมอต่างแยกย้ายไปช่วยเหลือคนไข้รายอื่นหมดแล้ว นักศึกษาแพทย์คนหนึ่งรีบเข้ามาอาสาช่วยชีวิตคนไข้รายนั้นจนปลอดภัยในที่สุด นักศึกษาแพทย์คนนั้นก็คือ “ชิดตะวัน” นั่นเอง… ชิดตะวันมักจะได้รับคำชมจากพยาบาลและอาจารย์หมอ ว่าเขาตั้งใจดูแลคนไข้จนลืมเวลาออกกะเป็นประจำ และเขาน่าจะเป็นว่าที่แพทย์อนาคตไกลคนหนึ่ง…
​หลังจากเลยเวลากะไปนาน ชิดตะวันถึงจะเพิ่งได้ออกมาพัก และเขาก็พบว่า “น้ำทิพย์” (ทิพย์) แฟนสาวได้มารอเขาที่ด้านหน้าโรงพยาบาลอยู่นานแล้ว พร้อมกับเรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะ
ชิดตะวันกำลังจะเป็น “พ่อคน” ชิดตะวันดีใจมากจนแทบอยากจะพาน้ำทิพย์ไปจดทะเบียนสมรสกันในทันที แต่น้ำทิพย์ก็ดึงสติของเขา เพราะด่านสำคัญที่สุดก็คือ “คุณชลธี” ผู้มีอิทธิพลและเจ้าของศูนย์เภสัชกรรมแห่งใหญ่ของภูเก็ต ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาวสุดสวยคนเดียวคนนี้มากแต่ด้วยฐานะทางบ้านของชิดตะวันกับน้ำทิพย์ที่ต่างกันลิบลับ ความเป็นไปได้ที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกันของสองครอบครัวนี้นั้นแทบจะไม่มี…
ในเมื่อชิดตะวันกำลังจะเป็นพ่อของลูกในท้องน้ำทิพย์ เขาจึงต้องเข้าถ้ำเสือเพื่อตกลงเรื่องการแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราว เขาพา “อนุพงษ์” (พ่อ) “มาลินี” (แม่) และ”ศศิ” น้องสาว ซึ่งทุกคนต่างแต่งตัวสวยหล่อเต็มยศ เมื่อมาถึงคฤหาสน์หรูของครอบครัวน้ำทิพย์ ชิดตะวันคาดหวังว่าจะได้รับการต้อนรับจากพ่อของน้ำทิพย์ในฐานะที่เขาเป็นคนรักของลูกสาวสุดที่รัก แต่กลายเป็นว่าชลธีไม่แม้แต่จะ
ลงมาต้อนรับด้วยตัวเอง และยังส่งให้คนรับใช้มาปฏิเสธการเข้าพบของครอบครัวชิดตะวัน ย้ำความต่างศักดิ์และกดให้ต่ำต้อย แถมยังติดต่อน้ำทิพย์ไม่ได้ นำมาซึ่งความสับสนคับแค้นใจของชิดตะวัน…
ในคืนนั้น ชิดตะวันตัดสินใจบุกเข้าชิงตัวน้ำทิพย์ คนรับใช้บอกว่าน้ำทิพย์ถูกพ่อของเธอขังไว้ ทำให้น้ำทิพย์ไม่สามารถติดต่อชิดตะวันชิดตะวันได้ ชิดตะวันโกรธเป็นไฟ เขาเลยต้องการพาน้ำทิพย์หนีไปด้วยกันให้ได้ ชิดตะวันพาน้ำทิพย์วิ่งหนี แต่ก็ต้องเจอกับชลธีที่ยืนดักอยู่ ทั้งคู่ประจันหน้ากัน ชลธีพูดจาดูถูกชิดตะวันว่าคนอย่างชิดตะวันก็หวังแค่สมบัติในเท่านั้น ไม่ได้รักในตัวน้ำทิพย์เลย ชิดตะวันโกรธที่โดนหยาม น้ำทิพย์ยังคงทำท่าเลือกที่จะไปกับชิดตะวัน ชลธีขู่น้ำทิพย์ว่าถ้าเดินออกไปกับชิดตะวัน ชีวิตของน้ำทิพย์ก็จะไม่เหมือนเดิมอีก และเธอก็จะไม่ใช่ลูกของเขาอีกต่อไป แต่ในที่สุดน้ำทิพย์ก็ตัดสินใจออกจากบ้านไปกับชิดตะวัน ชลธีสั่งให้คนรับใช้แจ้งตำรวจ ระหว่างที่ชิดตะวันและน้ำทิพย์เดินออกจากบ้านไป รถตำรวจกำลังเข้ามาถึง ขณะที่ชิดตะวันหาทางหนี ปรากฏว่า “คทาเพชร” (เพชร) เพื่อนวัยเด็กของน้ำทิพย์ ขับรถผ่านมาพอดี และอาสาช่วยพาชิดตะวันกับน้ำทิพย์ จนหลบตำรวจออกไปได้…
คทาเพชรพาชิดตะวันและน้ำทิพย์มาพักอยู่ที่คอนโดลับแห่งหนึ่ง พ่อของชิดตะวันโทรมาบอกว่าชลธีแจ้งความและกำลังตามหาตัวชิดตะวันอยู่ น้ำทิพย์เองก็กลัวว่าจะทำให้ครอบครัวของชิดตะวันไม่ชอบในตัวเธอที่ทำปัญหาให้ชิดตะวันด้วย แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะเดินหน้า และจะไปจดทะเบียนสมรสกันให้ได้ โดยระหว่างนี้จะพักอยู่ที่คอนโดของคทาเพชรไปก่อน…

​วันเวลาผ่านไป ชิดตะวันพาน้ำทิพย์ไปที่บ้าน น้ำทิพย์หาทางเอาชนะใจพ่อแม่และน้องสาวของชิดตะวัน จนครอบครัวของชิดตะวันเปิดใจให้น้ำทิพย์ ทั้งหมดเตรียมที่จะจัดงานมงคลสมรสเล็กๆ เพื่อให้ชิดตะวันและน้ำทิพย์ได้เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย จนถึงวันงานระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเตรียมตัวจะไปงานแต่ง ปรากฏว่าชลธีโทรมาหาชิดตะวัน เพื่อที่จะเปิดใจคุยกันอย่างลูกผู้ชาย และจัดการให้ทุกอย่างถูกต้อง ชิดตะวันเข้าใจว่าชลธีคงรักลูกสาวมากจนยอมให้เขา เลยตกลงจะออก ไปคุยกับชลธี และพาชลธีมางานแต่งเพื่อเซอร์ไพรส์น้ำทิพย์ด้วย…
แต่เมื่อชิดตะวันไปตามสถานที่ที่นัดแนะไว้ กลับพบว่าเป็นโกดังร้าง เขาถูกใครบางคนทำให้สลบไป… ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของชลธีเอง ก็ได้รับข้อความจากเบอร์โทรศัพท์ของชิดตะวันว่าขอเปลี่ยนสถานที่นัดเจอกันเป็นอีกที่หนึ่ง ชลธีมุ่งหน้าไปสถานที่นั้น ระหว่างที่ชลธีออกมายืนรอด้านนอกรถ ก็มีเด็กหญิงคนหนึ่งหน้าตามอมแมมเข้ามาขอให้ชลธีช่วยซื้อของ และในจังหวะที่ชลธีไม่ทันระวังตัวก็โดนผู้ร้ายลอบยิงจนเสียชีวิต… ทางด้านชิดตะวัน กว่าจะฟื้นก็ผ่านเวลาไปนาน เขาเดินโซซัดโซเซไปตามทาง งุนงงด้วยฤทธิ์ของยาสลบที่ถูกฉีดเข้าที่คอ ชิดตะวันไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาเดินผ่านฝูงชนที่กำลังเดินประท้วงแถวนั้นไป เขาเดินเท้าไปจนถึงสถานที่จัดงานแต่งงานในที่สุด และเขาพบว่าไม่มีใครอยู่ในงานแล้ว แม้แต่ครอบครัวของเขาและน้ำทิพย์…
ชิดตะวันเดินต่อมาจนมาถึงบ้าน เขาพบความแปลกใจ ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้าน ส่วนพ่อแม่ของเขาก็กำลังให้การณ์กับตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นชิดตะวัน ตำรวจก็เข้าคุมตัวชิดตะวันทันที พ่อกับแม่ร้องไห้เสียใจ ชิดตะวันสับสนแปลกใจและงุนงงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่… อีกฝั่งหนึ่ง น้ำทิพย์ก็เข้ามาดูศพชลธีพ่อของเธอด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยมี “คทาเพชร” ที่มาด้วยกันคอยปลอบใจ…
ที่สถานีตำรวจ ชิดตะวันถูก “สารวัตรนิติ” สอบสวน เนื่องจากมีพยานเห็นว่าชิดตะวันเป็นคนยิงชลธีเสียชีวิต ชิดตะวันตกใจ เขาเล่าเหตุการณ์วันนี้ ว่ามีคนทำให้สลบไป แต่พอฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรแทบไม่ได้ สับสนไปหมด สารวัตรนิติบอกว่ามีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดชัดเจน มี “เด็กผู้หญิง” คนหนึ่งที่ยืนอยู่กับชลธีและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ถึงในกล้องจะไม่เห็นตัวผู้ยิง แต่เด็กหญิงคนนั้นก็จำหน้าคนร้ายได้… ชิดตะวันแปลกใจมาก เขาถูกควบคุมตัวออกไปเพื่อให้พยานเด็กคนนั้นชี้ตัว…
ในห้องชี้ตัว “บัวบูชา” (บัว) เด็กหญิงวัย 13 ถูกให้มาชี้ตัวคนร้าย ซึ่งบัวบูชาก็คือเด็กหญิงที่ขอให้ชลธีช่วยซื้อของนั่นเอง… ในความเป็นจริง บัวบูชารู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องมาเป็นพยานในคดีนี้ และเธอจะมีหน้าที่ชี้ตัวว่า “ชิดตะวัน” เป็นผู้ลงมือยิงชลธี ที่เธอทำไปเพราะ “บริบูรณ์” (บูรณ์) พี่ชายบอกกับเธอว่ามันเป็นแค่เกมเกมหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเขาและเธอไม่สามารถปฏิเสธเกมนี้ได้ เพราะหากเกมสำเร็จ พี่ชายจะได้เงินมาเพื่อผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้กับตัวเธอนั่นเองทำแต่ลึกๆแล้วบัวบูชาไม่ได้รู้รายละเอียดของแผนทั้งหมด
แผนลอบสังหารที่แท้จริงเกิดจากคทาเพชร เพราะคทาเพชรต้องการกำจัดชลธี และเขาก็ยังต้องการจัดฉากว่า “ชิดตะวัน” เป็นฆาตกร โดยให้ “ทศ” ลูกน้องคนสนิทของตน เป็นคนจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่ติดต่อบูรณ์ จนถึงเป็นคนไปดักทำให้ชิดตะวันสลบและยังใช้มือถือของชิดตะวันส่งข้อความหาชลธี ล่อมายังที่เกิดเหตุ และ “บูรณ์” เป็นคนพา “บัวบูชา” มาที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าไปเป็นพยานตอนที่ชลธีถูกยิง ในระหว่างนั้น “คทาเพชร” ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าวของชิดตะวัน ดูแลพ่อแม่ของชิดตะวันรวมถึงน้ำทิพย์…
บัวบูชาทำตามเกม ชี้ตัวว่า “ชิดตะวัน” คือผู้ลงมือยิงชลธีจนเสียชีวิต และผลการตัดสินก็คือ
ชิดตะวันต้องจำคุกตลอดชีวิต ชีวิตของชิดตะวันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง อนาคตของเขาก็ดับวูบลง แม้แต่น้ำทิพย์ก็เข้าใจว่าชิดตะวัน คนรักของเธอ ว่าที่สามีและพ่อของเด็กในท้อง คือคนที่ฆ่าพ่อของเธอ และชิดตะวันก็ยังรู้จากปากน้ำทิพย์ว่าลูกของเขากับน้ำทิพย์ไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกเพื่อเรียกเขาว่าพ่ออีกแล้ว ชิดตะวันสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปตลอดกาล…
จนมาถึงวันนี้… แม้ “ปลายฝน” ถูกชิดตะวันปฏิเสธเรื่องการรื้อคดี ปลายฝนยังคงกลับเข้ามาในเรือนจำ และพยายามขอร้องให้ชิดตะวันยอมให้เธอช่วยรื้อคดีให้ได้ ชิดตะวันสงสัยว่าปลายฝนจะช่วยเขาได้ยังไง ปลายฝนอ้างว่าเธอพบหลักฐานใหม่ ที่จะทำให้ชิดตะวันถูกปล่อยตัวเป็นอิสระในฐานะผู้บริสุทธิ์ทันที และชิดตะวันจะได้พบเจอกับแสงตะวันภายนอกกรงขังอีกครั้ง… ชิดตะวันจึงยอมให้ปลายฝนรื้อคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้งในที่สุด…
ทางด้าน “คทาเพชร” ปัจจุบันได้เข้ามาดูแลกิจการของชลธี และได้แต่งงานกับ “น้ำทิพย์” เมื่อคทาเพชรได้รู้จากทนายประจำตัวของเขาว่าจะมีทนายมาช่วยรื้อคดีของชิดตะวัน เขาเริ่มระแวง และตั้งใจจะปิดบังไม่ให้น้ำทิพย์รู้โดยเด็ดขาด จนถึงวันพิจารณาคดี ปรากฏว่าหลักฐานที่ปลายฝนหามาได้ก็คือรูปของ “ชิดตะวัน” ที่ติดอยู่ในภาพข่าว “การประท้วง” ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ และนี่คือหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ชิดตะวันอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ และไม่มีทางที่จะเป็นฆาตกรฆ่าชลธีได้เลย…
​ชิดตะวันได้รับอิสรภาพ พ่อแม่และน้องสาวรวมถึงปลายฝนไปรับเขาออกมาจากเรือนจำ ครอบครัวชิดตะวันกลับมามีความสุขอีกครั้ง ทุกคนเตรียมจะพาชิดตะวันกลับไปอยู่ที่บ้าน ปลายฝนสังเกตเห็นรถคันหนึ่ง จึงขอตัวแยกกลับไป… “บูรณ์” นั่งอยู่ในรถคันนั้น สีหน้าครุ่นคิดเคร่งเครียด ราวกับจะมาจัดการกับชิดตะวันเพื่อไม่ให้มีใครสาวมาถึงตัวเขารวมถึงกลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดและคทาเพชรผู้ว่าจ้างฆ่าชลธี แต่กลายเป็นว่าปลายฝนเดินมาหาบูรณ์และขึ้นรถไปหน้าตาเฉย ไม่ได้หวั่นกลัวใดใด… บูรณ์หันมาถามปลายฝนด้วยความโกรธว่า “น้องทำอะไรลงไป!?”… ความจริงปรากฏ ปลายฝนก็คือเด็กหญิง “บัวบูชา” เมื่อ 11 ปีก่อน ที่ร่วมมือกับพี่ชายในแผนฆาตกรรมชลธี ที่โยนความผิดมาให้ชิดตะวันนั่นเอง… เธออธิบายว่าเธอตั้งใจกลับมารื้อคดีช่วยชิดตะวัน เพราะความรู้สึกผิดบาปที่เผาใจของเธอมานานถึง 11 ปี… แต่บูรณ์ก็เตือนสติปลายฝนหรือบัวบูชาว่า ชิดตะวันจะต้องฉีกทุกคนเป็นชิ้นๆ และยิ่งเมื่อได้รู้ว่าปลายฝนคือใคร เขาจะไม่เก็บเธอไว้แน่ บูรณ์เตือนปลายฝนด้วยความรักและห่วงใย แต่ปลายฝนก็ไม่รับความห่วงใยนั้นจากเขา เหมือนมีเรื่องค้างคาใจที่ทำให้เธอไม่ได้รักพี่ชายของตัวเองเหมือนกับเมื่อ 11 ปีที่แล้ว…
ในคืนนั้นเอง “น้ำทิพย์” นกน้อยในกรงทอง “ภรรยา” ของคทาเพชร ถึงแม้จะได้ใช้ชีวิตสุขสบาย แต่สีหน้าและแววตาก็ดูหม่นเศร้า เนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อ 11 ปี ที่เธอเข้าใจว่าคนรักของเธอเป็นคนฆ่าพ่อเธอ ทำให้ความสดใสในชีวิตของน้ำทิพย์ค่อยๆ จางหายไป จนหมดสิ้น ไม่เหลือแววตาแห่งความสุขนั้นอีกเลย… น้ำทิพย์ได้บังเอิญเปิดโทรทัศน์และต้องเจอกับข่าวที่ทำให้เธอตกใจที่สุดในชีวิตอีกครั้ง นั่นก็คือข่าวการปล่อยตัวชิดตะวัน เนื่องจากเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่คนฆ่าพ่อของเธอเมื่อ 11 ปีก่อน น้ำทิพย์โกรธคทาเพชรมากที่ไม่ได้บอกเธอเรื่องนี้ คทาเพชรอ้างว่า ต่อให้ชิดตะวันถูกปล่อยตัว ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง น้ำทิพย์จ้องมองคทาเพชรด้วยความโกรธแค้น เพราะสำหรับเธอ มันได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง…
ปลายฝนไปร่วมทานข้าวกับที่บ้านของชิดตะวัน ทุกคนทานข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข
ปลายฝนเมื่อไม่ได้สวมบทบาททนาย จากผู้หญิงที่ดูมุ่งมั่นน่าเกรงขาม ก็กลายเป็นหญิงสาวที่น่ารักคนหนึ่ง และเธอก็เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัวชิดตะวันไปแล้วหลังจากที่เธอได้ช่วยให้ชิดตะวันได้รับอิสรภาพ… หลังจากมื้อค่ำในวันนั้น ปลายฝนได้คุยกับชิดตะวัน เธอแสดงความยินดีที่ชิดตะวันได้
ออกมาใช้ชีวิตใหม่ และดีใจที่ทุกอย่าง “จบลง” …ชิดตะวันเปลี่ยนท่าทีเป็นโกรธแค้น บอกกับปลายฝนว่า การที่เขาได้ออกมาในครั้งนี้ เป็นแค่การ “เริ่มต้น” เขาจะทวงคืนทุกอย่างจากความอยุติธรรมที่เขาได้รับ และไม่ว่าใครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะต้องถูกกำจัด! ในใจของปลายฝนหวั่นกลัว แต่เธอก็ยิ้มสู้กลบเกลื่อน ทั้งๆ ที่แรงแค้นของตะวันกำลังเปลี่ยนให้เขากลายเป็นตะวันเพลิง ที่หากปลายฝนอย่างเธอเข้าไปแนบชิด ก็เตรียมรอวันถูกเผาจนเหือดแห้ง…
วันต่อมาชิดตะวันตั้งใจจะไปหาน้ำทิพย์ที่บ้าน แต่อดีตก็ย้อนกลับมาทำร้ายเขา เขายังจำเหตุการณ์ที่เรือนจำ ในวันนั้นน้ำทิพย์ไม่ยอมเชื่อใจเขาและบอกกับเขาว่าลูกของเขากับเธอไม่อยู่อีกต่อไปแล้วได้ดี ชิดตะวันตัดสินใจหันหลังกลับ บังเอิญน้ำทิพย์มาเห็นเขาพอดี น้ำทิพย์วิ่งตามชิดตะวันโดยลืมไปว่าตัวเองนั้นเท้าเปล่า น้ำทิพย์ไม่สนอะไรทั้งนั้น ขอร้องให้ชิดตะวันอยู่ฟังเธออธิบาย แต่ก็ไร้ผล ชิดตะวันไม่สนใจและเดินจากไป คทาเพชรกลับมาเห็นน้ำทิพย์อยู่ที่ถนน เขาอุ้มน้ำทิพย์กลับเข้าบ้านไป เขาบอกกับ “ทศ” ซึ่งตอนนี้กลายมาเป็นคนขับรถของเขาว่า อย่าให้น้ำทิพย์คลาดสายตา และให้เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของชิดตะวันไว้ให้ดี… คทาเพชรยังได้มานัดเจอกับ “บูรณ์” ซึ่งตอนนี้บูรณ์มีฐานะดีขึ้นและเป็นเจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่ง คทาเพชรให้บูรณ์เฝ้าระวังชิดตะวันด้วยอีกคน และหากชิดตะวันมีความเคลื่อนไหวเรื่องการสืบตัวฆาตกร ก็ให้หยุดเขาซะ…
ชิดตะวันเรียกปลายฝนให้มาหาที่บ้าน เขาขอให้เธอช่วยตามหาว่าเด็กหญิงเมื่อ 11 ปีก่อน ที่เป็น “พยานเท็จ” คือใคร… ปลายฝนหวั่นใจและกลัวว่าเรื่องของเธอจะถูกเปิดเผย เธอปฏิเสธคำขอของชิดตะวัน และอ้างว่าคงยากหากจะแอบหาข้อมูลตามขั้นตอนของกฎหมาย ชิดตะวันไม่ฟังปลายฝนและบอกกับเธอว่า ต่อให้เป็นวิธีที่ผิดกฎหมายก็จะทำ ปลายฝนเตือนเขาว่าเขาจะต้องถูกจับเข้าไปในคุกอีก ชิดตะวันไม่ฟัง และยืนยันจะใช้วิธีของเขาถึงปลายฝนจะไม่ยอม ระหว่างที่ทั้งคู่เดินเถียงกันไปริมถนน ปรากฏว่าปลายฝนถูกมือลึกลับดึงตัวไป ซึ่งก็คือ “บูรณ์” นั่นเองที่เข้ามาเตือนปลายฝนไม่ให้ยุ่งกับชิดตะวันอีก บูรณ์แสดงความเป็นห่วงปลายฝนแบบพี่น้อง ทำให้ปลายฝนนึกถึงวัยเด็ก ที่ยากจน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง แต่แล้วชีวิตก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อเธอเป็นโรคหัวใจ และพี่ชายก็ต้องมาชวนเธอทำเรื่องผิดกฎหมาย รับข้อเสนอจากทศที่รับคำสั่งมาจากคทาเพชรอีกทอดหนึ่งเพื่อร่วมแผนโยนความผิดให้ชิดตะวัน แลกกับเงินเพื่อเปลี่ยนหัวใจ และหลังจากนั้นชีวิตของ “บัวบูชา” ก็เปลี่ยนไปอีก เมื่อพี่ชายทิ้งให้เธออยู่ในบ้านเด็กกำพร้าตามลำพัง… จากแผนที่พี่ชายให้เธอช่วยทำ ปลายฝนไม่เคยรู้เลยว่า ใครกันแน่ที่เป็นคนยิงชลธี และใครเป็นคนว่าจ้างให้พี่ชายทำตามแผนนี้ เพราะบูรณ์ไม่เคยยอมบอกเธอเลย ปลายฝนเลยตั้งใจจะสืบเรื่องผู้ว่าจ้างฆ่าคุณชลธี โดยไม่ฟังคำเตือนจากบูรณ์
​ทางฝั่งชิดตะวันได้มาที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง เพื่อพบกับ “คมเดช” (เดช) นายตำรวจเก่าที่เคยต้องโทษ และได้รู้จักกันในคุก ทั้งคู่ผูกพันธ์กันเหมือนพี่น้อง คมเดชเคยได้ให้ชื่อที่อยู่ไว้ เผื่อวันหนึ่งชิดตะวันได้ออกมาจากคุก จะได้มาเจอกันอีก และวันนี้ชิดตะวันได้มาขอความช่วยเหลือในการสืบหาตัวคนร้ายที่ยิงชลธี… คมเดชรับปากจะช่วยชิดตะวัน และให้ชิดตะวันพักอาศัยที่นี่ โดยมี “พิภพ” (ภพ) ลูกน้องที่ท่าเรือช่วยดูแลความเป็นอยู่ของชิดตะวันอีกคนหนึ่ง…
วันหนึ่งคมเดชก็หาเครื่องแบบตำรวจพร้อมกับบัตรผ่านมาให้ชิดตะวันเข้าไปในสถานีตำรวจเพื่อค้นแฟ้มอาชญากรรมคดีของเขา แต่แล้วคมเดชก็ถูก “สารวัตรนิติ” ที่เป็นคนสอบสวนเขาเมื่อ 11 ปีที่แล้วจับได้… ปลายฝนต้องเข้ามาจัดการเรื่องที่ลูกความของเธอถูกจับ แต่ด้วยความฉลาดและไหวพริบที่รู้วิธีใช้ลูกล่อลูกชน เอาเรื่องวินัยของผู้กำกับสถานีตำรวจที่ปล่อยให้คนนอกเข้าไปถึงชั้นในขึ้นมางัดกับสารวัตรนิติ เขาเลยยอมปล่อยตัวชิดตะวันในที่สุด ปลายฝนขอร้องให้ชิดตะวันหยุดสิ่งที่คิดจะทำ แต่ชิดตะวันก็บอกกับปลายฝนว่า แฟ้มคดีของเขา ข้อมูลเกี่ยวกับพยานเท็จหายไปบางส่วน รู้แค่ว่าชื่อ “บัวบูชา” มีคนจงใจปิดเรื่องราวนี้เป็นความลับ และเขาจะไม่หยุดง่ายๆ ปลายฝนเตือนสติชิดตะวัน ว่าถ้ากลับไปใช้ชีวิตตามปกติก็จะไม่มีปัญหาใดใดอีก เพราะ 11 ปีที่ผ่านมา ชิดตะวันก็ทำให้คนรอบตัวมีปัญหามากพอแล้ว ชิดตะวันสงสัยในคำพูดของปลายฝน… ปลายฝนพาไปแอบดู “ศศิ” น้องสาวขอชิดตะวันที่มหาวิทยาลัย ปรากฏว่าศศิไม่ได้เป็นนักศึกษาอย่างที่ชิดตะวันเข้าใจ แต่เธอทำงานเป็นลูกจ้างขายอาหารในโรงอาหาร ปลายฝนยังบอกอีกว่า พ่อแม่ของชิดตะวันก็ไม่ได้มีงานทำ พ่อของชิดตะวันแกล้งทำเป็นออกไปจากบ้านเพื่อทำงาน แต่จริงๆ แล้วเขาตกงานตั้งแต่ชิดตะวันกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตาย… ชิดตะวันผิดหวังเสียใจมาก โกรธที่ครอบครัวปิดบังความจริงกับเขา และโกรธตัวเองที่ทำให้คนรอบตัวเดือดร้อน แต่ที่โกรธมากที่สุดคือ… ใครก็ตามที่มีส่วนทำให้เขากลายเป็นแพะรับบาปในคดีนี้… จากการที่ปลายฝนพยายามทำให้ชิดตะวันหยุด กลับกลายเป็นสุมไฟแค้นให้ชิดตะวันมากขึ้นเรื่อยๆ… ชิดตะวันบอกกับที่บ้านว่าเขารู้เรื่องที่ปิดบังทั้งหมดแล้ว เขาตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อหาทางชดเชย
เยียวยาทุกสิ่งโดยไม่ฟังคำค้านจากแม่ เขาย้ายมาอยู่ที่พักที่ท่าเรือของคมเดช จนกว่าจะสะสางเรื่องทั้งหมดได้
ในระหว่างที่ชิดตะวันเดินหน้าสืบและจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง ปลายฝนก็คอยหาเหตุผลมาหยุดการกระทำของชิดตะวัน ทั้งคู่เลยได้อยู่ใกล้ชิดกัน เป็นจุดเริ่มของความสัมพันธ์ บนความขัดแย้งว่าปลายฝนนี่เอง ที่ทำให้ชีวิตของชิดตะวันเป็นแบบนี้… และวันหนึ่งกลับมีจดหมายลึกลับมาส่งที่ห้องพักของชิดตะวัน บอกกับเขาว่าหากต้องการรู้เรื่อง “พยานเท็จ” ให้ไปที่สถานที่หนึ่ง และเมื่อชิดตะวันไปสถานที่นั้นซึ่งเป็นสุสาน ก็ได้เจอกับ “ปลายฝน” ที่มาเคารพหลุมศพของ “บัวบูชา” และเจอกับ “บูรณ์” คนที่ชิดตะวันยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ชิดตะวันคิดว่า “บูรณ์” เป็นคนที่สอดจดหมายเพื่อล่อให้เขามาที่สุสาน บูรณ์ปฏิเสธและบอกว่าเขาแค่มาเยี่ยม “บัวบูชา” น้องสาวที่สุสานเท่านั้น ชิดตะวันบอกว่าน้องสาวของบูรณ์ทำให้เขาต้องติดคุก 11 ปี บูรณ์ปฏิเสธว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้ แต่ชิดตะวันก็เริ่มสงสัยในตัวบูรณ์… ปลายฝนกับบูรณ์ก็ตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องความสัมพันธ์พี่น้องเป็นความลับ ชิดตะวันจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด… ปลายฝนสงสัยว่าบูรณ์คงเป็นคนเอาจดหมายไปสอด เพื่อที่จะล่อชิดตะวันออกมาสังหาร แต่บูรณ์ปฏิเสธ และบอกว่าที่เขาไปสุสาน เพราะแอบสะกดรอยตามปลายฝนมา เขาไม่ได้เป็นคนสอดจดหมายล่อชิดตะวันออกมา… เท่ากับว่า ยังมีบุคคลอื่นอีก ที่รู้แล้วว่าชิดตะวันกำลังเดินหน้าสืบว่าใครคือฆาตกรตัวจริง… ปลายฝนเริ่มระวังตัวมากขึ้น และกังวลว่าจะเกิดอันตรายกับชิดตะวัน…

​ปลายฝน นึกย้อนไปเมื่อ 11 ปีก่อน หลังจากได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ จากการสนับสนุนเงินค่ารักษาจาก “คทาเพชร” บูรณ์ก็พาปลายฝนมาที่สุสาน ปรากฏว่าบูรณ์ร่วมมือกับคทาเพชรเปลี่ยนข้อมูลว่า คนที่ตายคือ “บัวบูชา” จากการที่ร่างกายปฏิเสธหัวใจใหม่ ผ่าตัดไม่สำเร็จ และบูรณ์ก็โกหกบัวบูชาว่าอยากให้บัวบูชาใช้ชื่อใหม่ตามคนที่บริจาคหัวใจให้นั่นก็คือ “เด็กหญิงปลายฝน” ตั้งแต่วันนั้น บัวบูชาก็กลายมาเป็นปลายฝนเต็มตัว และทิ้ง “บัวบูชา” คนเก่าไว้ในสุสานแห่งนั้น… บูรณ์ยังให้ปลายฝนลืมความเป็นพี่น้อง ตัดขาดจากการเป็น “พี่บูรณ์” กับ “น้องบัวบูชา” ให้สิ้น เพื่อที่จะได้ไม่มีใครมาสืบเรื่องราวนี้ และบูรณ์จำเป็นต้องส่งปลายฝนไปอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า นั่นเป็นเรื่องราวที่ยังฝังใจปลายฝนมาถึงทุกวันนี้ เธอทั้งรักและเกลียดพี่ชาย…
ทางด้านคทาเพชร ปัจจุบันครอบครัวคทาเพชรมีส่วนในการดูแลกิจการศูนย์เภสัชกรรมของ “ชลธี” พ่อของน้ำทิพย์ โดยน้ำทิพย์ถือหุ้นส่วนในบริษัท 51% และที่เหลือเป็นของครอบครัวคทาเพชร โดยมี “ธนวัฒน์” (พ่อ) “กาญจนา” (แม่) และ “แพรพลอย” (พี่สาวต่างแม่) ทำหน้าที่ต่างๆ ในบริษัท โดย “แพรพลอย” เพิ่งจะกลับมาทำโครงการค้นหาวัคซีนตัวใหม่เพื่อแข่งกับโครงการของคทาเพชร เห็นได้ชัดว่า “ธนวัฒน์” รักลูกทั้งสองคนเท่าๆ กัน แต่ “กาญจนา” คอยถือหางและเข้าข้างลูกชายของเธอและแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบหน้า “แพรพลอย” ลูกเมียเก่าของธนวัฒน์ ทั้งหมดไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังการตายของ “ชลธี” เป็นฝีมือของคทาเพชร ยกเว้นก็แต่ “กาญจนา” ที่พอจะเดาได้ว่าการตายของชลธี มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธออยู่เบื้องหลัง แต่ก็ใช่เรื่องที่เธอจะสนใจ เพราะเธอสนใจในทรัพย์สมบัติที่คทาเพชรได้มาจากฝั่งน้ำทิพย์ และสมบัติของสามีเธอทั้งหมดที่จะตกแก่ลูกชายต่างหาก…
ชิดตะวันมาที่บ้านของ “น้ำทิพย์” อีกครั้ง เพื่อขอให้น้ำทิพย์ช่วยเขาหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีของพ่อน้ำทิพย์ เขาอยากจะหาคนที่ปรักปรำเขาให้ได้ เขาถามว่ารู้จักคนที่ชื่อ “บูรณ์” รึเปล่า และอธิบายว่าน้องสาวของคนคนนี้เป็นคนปรักปรำและทำให้เขาติดคุก น้ำทิพย์ปฏิเสธว่าไม่รู้จัก แต่ก็ยินดีที่จะช่วยชิดตะวันทุกอย่าง และมองเขาด้วยสายตาห่วงหาอาทร แต่นั่นก็ไม่ทำให้ชิดตะวันหวั่นไหว เพราะภาพแต่งงานระหว่างน้ำทิพย์กับคทาเพชรที่วางไว้ ตอกย้ำความรู้สึกลึกๆ เขายังคงติดใจเรื่องที่น้ำทิพย์ไม่ยอมเชื่อที่เขาพูด และไม่ยอมเก็บลูกของเขากับเธอไว้ เหมือนน้ำทิพย์รังเกียจที่เขาเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมพ่อของเธอ… “ทศ” รายงานคทาเพชรว่าชิดตะวันมาหาน้ำทิพย์ที่บ้าน ระหว่างที่ชิดตะวันกำลังเดินออกมาจากบ้านน้ำทิพย์ คทาเพชรก็ขับรถเข้าไปขวางหน้าทันที คทาเพชรขู่ชิดตะวันไม่ให้เข้ามายุ่งกับน้ำทิพย์อีก…

บูรณ์บอกคทาเพชรเรื่องจดหมายลึกลับที่ถูกนำไปสอดไว้ที่พักของชิดตะวัน บูรณ์สงสัยว่าอาจจะเป็น “ทศ” ที่หักหลังหรือเปล่า คทาเพชรบอกบูรณ์ให้ตามสืบเรื่องนี้มาให้ได้ อย่าให้ใครมาเปิดเผยความลับที่พวกเขาทำไว้เมื่อ 11 ปีก่อน… บูรณ์นัดเจอทศที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าทางฝั่งของชิดตะวันเองก็แอบสะกดรอยตามบูรณ์ ปลายฝนจับได้ว่าชิดตะวันสะกดรอยตามบูรณ์ก็เลยตามมาด้วย และคอยห้ามชิดตะวัน แต่ปลายฝนไม่ยอมฟัง ชิดตะวันก็เลยต้องยอมพาปลายฝนมาที่ไนต์คลับด้วยกัน ทางฝั่งบูรณ์พยายามมอมเหล้าและเค้นเอาจากทศ กล่าวหาว่าทศกำลังทรยศเขาและ
คทาเพชรอยู่ แต่ทศปฏิเสธด้วยอารมณ์โกรธ ต่อว่าที่บูรณ์ไม่ไว้ใจกัน ทั้งคู่ทะเลาะกันจนเกือบมีเรื่องในไนต์คลับ แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็คืนดีกันด้วยเห็นแก่ความสัมพันธ์เสมือนพี่น้องมาเป็นสิบๆ ปี… ทางฝั่ง
ชิดตะวันที่แอบสังเกตอยู่กับปลายฝน ก็ไม่ได้เรื่องราวอะไรเพิ่มเติม ปลายฝนเตือนให้ชิดตะวันหยุดแค่นี้ เพราะถ้าบูรณ์รู้ว่าถูกสะกดรอยตาม ชิดตะวันก็จะโดนฟ้องและถูกจับเข้าคุกอีกรอบ แต่แน่นอนว่า
ชิดตะวันไม่ฟังไม่ว่าปลายฝนพยายามจะโน้มน้าวยังไงก็ตาม และชิดตะวันก็เริ่มสงสัยว่าปลายฝนกำลังปกป้องบูรณ์อยู่หรือเปล่า…
​ทางด้านครอบครัวของคทาเพชร พ่อแม่และน้องสาวคทาเพชร ก็มาเยี่ยมน้ำทิพย์ที่บ้าน
บ่อยขึ้น พยายามผูกสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น แต่น้ำทิพย์ก็ดูจะปฏิเสธ ตั้งแต่เมื่อได้รู้ว่าชิดตะวันเป็น
ผู้บริสุทธิ์ น้ำทิพย์แข็งกระด้างกับครอบครัวคทาเพชรมากยิ่งขึ้น และปฏิเสธไม่ยอมมีลูกกับคทาเพชรตามที่แม่ของคทาเพชรขอ… จะมีก็แต่ “แพรพลอย” พี่สาวต่างแม่ของคทาเพชรที่เข้ามาตีสนิทน้ำทิพย์ ด้วยเพราะไม่ชอบหน้าพี่ชายและแม่ของพี่ชายเหมือนกัน น้ำทิพย์เลยค่อยๆ เปิดใจยอมรับแพรพลอย เมื่อน้ำทิพย์เริ่มเข้าไปหาเอกสารจากในห้องทำงานของพ่อ เพื่อหาหลักฐานบ่งชี้ว่าใครเป็นศัตรูของพ่อกันแน่ แพรพลอยก็อาสาจะช่วยสืบเรื่องนี้ด้วยอีกคน…
คทาเพชรนัดเจอ “บูรณ์” แต่ปรากฏว่า “ชิดตะวัน” สะกดรอยตามบูรณ์ไป คทาเพชรที่ขับรถมาตามนัดเกือบจะปรากฏตัวให้ชิดตะวันเห็น คทาเพชรเห็นชิดตะวันที่ตามบูรณ์มาเสียก่อน เขารีบบอกบูรณ์ให้หนีไป บูรณ์กับชิดตะวันประจันหน้ากันส่วนคทาเพชรหนีไปได้ บูรณ์ขับรถหนี ชิดตะวันรีบขับรถตามไปทันที บูรณ์ล่อชิดตะวันออกไปนอกเมือง และเร่งความเร็วหลบเข้าไปในสถานที่หนึ่งเพื่อจะดักยิง พอรถของชิดตะวันมาถึง บูรณ์ก็ยิงที่ล้อรถของชิดตะวัน ทำให้ชิดตะวันตามตัวเขาต่อไปไม่ได้… ชิดตะวันค่อนข้างแน่ใจว่าบูรณ์อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมชลธี…
ชิดตะวันโกรธแค้นบูรณ์ เขามาเล่าให้คมเดชฟัง คมเดชกลัวว่าถ้าชิดตะวันตามสืบโดยไม่มีอาวุธจะเสี่ยงเกินไป เลยหาอาวุธปืนมาให้ ชิดตะวันกลับบอกว่าใช้ปืนไม่เป็น คมเดชยิ่งหัวเสียเพราะแปลว่าชิดตะวันถูกยัดข้อหาฆาตกรรมโดยที่ไม่มีการสืบเลยว่าชิดตะวันใช้ปืนไม่เป็น… คมเดชสอนให้ชิดตะวันใช้ปืนเพื่อเตรียมสู้กับศัตรู และนั่นก็ทำให้ชิดตะวันถลำลึกลงไปมากขึ้นกำลังจะกลายเป็น “ตะวันเพลิง” ที่เผาทุกอย่างที่ขวางหน้า เพลิงบาปกำลังจะถูกจุดขึ้นแล้ว…
บูรณ์กลับมาที่ร้านกาแฟ ปรากฏว่ามี “จดหมายลึกลับ” ถูกส่งมาให้เขา ขู่ให้บูรณ์ไปตามสถานที่ตามนัด เขาเริ่มสงสัยหนักว่าใครกันแน่ที่กำลังหักหลังเขา บูรณ์กลับมาที่บ้านเจอกับปลายฝนที่ตามมาหา บูรณ์เล่าเรื่องที่ชิดตะวันขับรถตามเขาไป ปลายฝนขอให้บูรณ์ปล่อยชิดตะวันไป อย่าไปทำอะไรเขา บูรณ์เริ่มสงสัยในตัวปลายฝนว่าตกลงแล้วเธอกำลังเข้าข้างใครกันแน่ บูรณ์ไม่ยอมฟังที่ปลายฝนห้ามและขับรถออกไป ปลายฝนเห็นจดหมายขู่ที่บูรณ์ทิ้งไว้ เธอรีบขึ้นแท็กซี่ตามบูรณ์ไปทันที!
เมื่อบูรณ์ไปที่ตึกร้างแห่งหนึ่งตามจดหมายขู่ ปรากฏว่า “ชิดตะวัน” ที่ซ่อนตัวอยู่ก็โผล่ออกมาพร้อมกับเอาปืนจ่อหัวบูรณ์ รอบนี้ชิดตะวันเป็นคนส่งจดหมายเรียกบูรณ์ออกมาเอง ชิดตะวันเค้นให้บูรณ์พูดความจริง ว่าเหตุการณ์ในวันที่มีการฆาตกรรม “ชลธี” มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่บูรณ์ก็ปากแข็ง
ไม่ยอมตอบ ชิดตะวันถามเรื่อง “น้องสาว” ของบูรณ์ ว่าทำไมต้องมาเป็นพยานเท็จปรักปรำเขา บูรณ์ไม่ยอมบอก และท้าทายให้ชิดตะวันยิงเขาได้เลย ปลายฝนตามมาถึงก็รีบเข้าไปด้านใน และเห็นชิดตะวันกำลังเอาปืนจ่อหัวพี่ชายของเธอ ปลายฝนตกใจมาก เกือบจะหลุดความจริงเพื่อจะห้ามชิดตะวันให้หยุด แต่ชิดตะวันกลับถูกยิงจากด้านหลังและล้มลงไป… ปรากฏว่า “ทศ” คือที่คนที่เข้ามาช่วยและยิงชิดตะวันก่อนที่ปลายฝนจะหลุดสารภาพความจริง…
ปลายฝนพาชิดตะวันที่บาดเจ็บกลับไปรักษาที่บ้านพักที่ท่าเรือ ชิดตะวันโดนยิงแค่ถากๆ เท่านั้น เขาไม่ยอมไปหาหมอเพราะเดี๋ยวจะโดนจับ และเพราะเขานั่นเองที่เป็นหมอ ชิดตะวันและปลายฝนเลยช่วยกันทำแผลได้เรียบร้อย ไม่เป็นอันตรายใดใด… ส่วนบูรณ์ ทศ และคทาเพชรได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อหาว่าใครกันแน่ที่กำลังวางแผนปั่นหัวพวกเขา ใครกันแน่ที่อยากจะเปิดโปงเรื่องที่พวกเขาทำร่วมกัน… แต่พอลับหลัง “บูรณ์” ทศกลับบอกคทาเพชรว่าสงสัยในตัวบูรณ์ว่าจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และบอกว่าบูรณ์เคยพูดชื่อ “บัวบูชา” ทางโทรศัพท์ ทั้งๆ ที่บัวบูชาตายไปแล้ว ทศไม่รู้ว่าคทาเพชรรู้ว่าบัวบูชายังไม่ตาย แต่ที่คทาเพชรไม่รู้เหมือนกันก็คือ ปัจจุบัน “บัวบูชา” คือใคร… คทาเพชรให้ทศตามสืบเรื่อง “บัวบูชา” เพราะหากบัวบูชาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็ต้องถูกกำจัดทิ้งโดยเร็ว… ทางฝั่งชิดตะวันก็เก็บมือถือของ “บูรณ์” มาได้ ปลายฝนตกใจ กลัวว่าชิดตะวันจะแกะข้อมูลมาถึงตัวเธอ บูรณ์สั่งให้ปลายฝนเปลี่ยนไปใช้ซิมใหม่ สุดท้ายชิดตะวันที่เข้ามือถือของบูรณ์ได้ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรที่สาวมาถึงปลายฝน แต่ได้รายชื่อล่าสุดที่บูรณ์โทรออก นั่นก็คือเบอร์ของ “ทศ” คนขับรถของคทาเพชรนั่นเอง…

​คทาเพชรมาหา “สารวัตรนิติ” ปรากฏว่าสารวัตรนิติคือหนึ่งในคนที่คทาเพชรซื้อตัวไว้ และมีส่วนในการช่วยปิดไม่ให้ใครสาวเรื่องการฆาตกรรมชลธีมาถึงตัวคทาเพชรได้… สารวัตรนิติเปิดคลิปจากกล้องวงจรปิดให้ดู ปรากฏว่าคนที่เอาจดหมายไปสอดไว้ที่พักของชิดตะวันก็คือ “ทศ” คนขับรถของคทาเพชรนั่นเอง เขาคือคนที่หักหลังคทาเพชรและบูรณ์รวมถึงสารวัตรนิติด้วยนั่นเอง คทาเพชรบอกบูรณ์ บูรณ์เลยล่อให้ทศมาด้วยกันเพื่อที่จะยิงทิ้ง เมื่อบูรณ์เอาปืนจ่อหัวทศ ทศก็สารภาพว่าทำจริง และที่ทำไปก็เพราะอิจฉาบูรณ์ ที่บูรณ์ได้เป็นเหมือนมือขวาของคทาเพชร แต่เขากลับเป็นแค่คนขับรถกระจอกๆ ทศขอร้องว่าอย่ายิงเขาเลย และเขาพร้อมจะทำทุกอย่างตามคำสั่งของบูรณ์… ปรากฏว่า
บูรณ์สั่งให้ทศไปมอบตัวกับสารวัตรนิติว่าเป็นคนฆ่าชลธีพ่อของน้ำทิพย์… และเมื่อได้รู้ว่า “บูรณ์” เป็นคนสั่งให้ทศมาทำแบบนี้ คทาเพชรยิ่งมั่นใจว่าบูรณ์กำลังตัดเรื่องทุกอย่างให้จบโดนโยนความผิดไปที่ทศ แต่การทำแบบนี้ยิ่งทำให้คทาเพชรเดือดร้อน เพราะทศเป็นคนขับรถของเขา และคทาเพชรก็มั่นใจแล้วว่าบูรณ์กำลังปกป้องใครบางคน ซึ่งนั่นก็คือ “บัวบูชา” นั่นเอง…
ปลายฝนหาทางทำให้ชิดตะวันเลิกยุ่งกับเรื่องการสืบหาตัวฆาตกร เพราะตอนนี้ชิดตะวันตกอยู่ในอันตราย พร้อมที่จะโดนเก็บได้เสมอ เธอเลยหาทางทำเรื่องขอเงินชดเชยที่ติดคุกฟรีมาให้ชิดตะวันจนได้ ชิดตะวันจะได้เงินชดเชยถึง 3 ล้านบาท ครอบครัวของชิดตะวันดีใจมาก พ่อ แม่ และศศิก็ต่างวาดฝันกันใหญ่ ที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กันเสียที ปลายฝนขอร้องให้ชิดตะวันเลิกคิดถึงเรื่องที่ทำอยู่ แต่คนอย่างชิดตะวันเมื่อมุ่งมั่นจะตามสืบให้ได้แล้ว เขาก็ไม่ยอมลดละความพยายามง่ายๆ…
ทางฝั่งบูรณ์ก็ให้ปลายฝนเข้าไปที่บ้านของเขาเพื่อเอาของสำคัญทั้งหมดออกจากตู้เซฟ เพราะเขาต้องหลบหนีไปอยู่ที่อื่น ปรากฏว่าในขณะที่ปลายฝนเข้าไปเอาของ “ชิดตะวัน” ก็มากับ “คมเดช” เพื่อจะค้นบ้านของบูรณ์เหมือนกัน ปลายฝนไหวตัวทันและหนีออกมาได้ก่อน แต่สิ่งที่ชิดตะวันเจอในบ้านของบูรณ์ก็คือ ชื่อและที่อยู่ของปลายฝน ชิดตะวันเข้าใจว่าปลายฝนเองก็กำลังตกอยู่ในอันตราย… ท่ามกลางความขัดแย้งของแต่ละฝ่าย และอันตรายที่ใกล้ตัวมากขึ้น ทำให้ทั้งชิดตะวันเองและปลายฝนต่างคนต่างก็เป็นห่วงซึ่งกันและกัน และใกล้ชิดจนต่างก็พัฒนาความสัมพันธ์ไปอย่างไม่รู้ตัว โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่ามันนำมาซึ่งเรื่องราวพัวพันที่ยากจะแก้ปมปัญหาในอนาคต…
เมื่อเวลาผ่านไป ในที่สุดคทาเพชรก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าปรายฝนก็คือ “บัวบูชา” นั่นเอง… เขาแอบเข้ามาในบ้านของปลายฝน ซึ่งโดยปกติปลายฝนอาศัยอยู่กับ “ป้าศร” ผู้ที่เป็นทั้งพ่อ แม่ พี่สาว และป้าบุญธรรมของปรายฝน ที่รับเธอจากบ้านเด็กกำพร้ามาเลี้ยงนั่นเอง แต่โชคดีที่ป้าศรไม่อยู่บ้าน คทาเพชรก็เลยไม่ได้ทำร้ายป้าศร แต่ปลายฝนก็ถูกคทาเพชรจับตัวไป ณ สถานที่ลับแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่นคทาเพชรก็ได้จับตัว “บูรณ์” และ “ทศ” มาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว… ทั้งคู่ถูกลูกน้องของคทาเพชรซ้อม บูรณ์เห็นปลายฝนถูกจับตัวมาก็ขอร้องให้คทาเพชรปล่อยปลายฝนไป คทาเพชรบอกให้ปลายฝนทำตามที่เขาบอก แล้วจะยอมปล่อยปลายฝนออกไป ปลายฝนไม่ยอมไป อยากจบเรื่องราวทั้งหมดที่นี่ ไม่สนใจว่าคทาเพชรจะทำยังไง แต่แล้วคทาเพชรก็ใช้วิธี “รัสเซียนรูเล็ต” กับบูรณ์… นั่นก็คือการเล็งปืนไปที่หัวของบูรณ์และสุ่มยิงปืนที่มีลูกกระสุนเพียงลูกเดียว ยิงสุ่มไปทีละนัด กดดันปลายฝนไปเรื่อยๆ… ปลายฝนอ้อนวอนร้องขอทั้งน้ำตาให้หยุด และยอมรับข้อเสนอของคทาเพชรในที่สุด… ข้อเสนอนั้นคือ ปลายฝนต้องเลือก ว่าจะไว้ชีวิตใคร ระหว่าง “บูรณ์” พี่ชาย… และ “ชิดตะวัน” คนรัก… ปลายฝนตัดสินใจด้วยความกล้ำกลืน และเลือก “บูรณ์” พี่ชายของเธอในที่สุด…
​ปลายฝนถูกรถตู้นำตัวมาปล่อยที่หน้าบ้าน ที่ซึ่งชิดตะวันและคมเดชรออยู่ด้วยความกระวนกระวายใจ ปลายฝนปิดปากเงียบไม่ยอมบอกชิดตะวันว่าเกิดอะไรขึ้น ชิดตะวันโกรธแค้นมากที่โดนศัตรูที่มองไม่เห็นทำร้ายเขา ทำลายชีวิตครอบครัวของเขา และคนที่เขารัก ชิดตะวันขอให้ปลายฝนไปอยู่กับที่บ้านเขาก่อนชั่วคราว… ปลายฝนและชิดตะวันกลับไปที่บ้าน เล่นละครให้ที่บ้านเห็นว่าทั้งสองคนสบายดีไม่มีเรื่องราวอะไร ที่บ้านชิดตะวันต่างก็เปิดใจรับปลายฝนมากยิ่งขึ้น และดูออกว่าทั้งคู่เริ่มจะมีใจให้กันแล้ว…
จากที่ชิดตะวันรู้ว่าบูรณ์โทรหา “ทศ” เป็นเบอร์ล่าสุด เขาเลยตามมาสืบที่บ้านของทศ ชิดตะวันไม่เจอทศอยู่ที่บ้าน เลยตามสืบเรื่องราวจากเด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้น ถึงได้รู้ว่าทศมี “ลูกชาย” คนหนึ่ง ชิดตะวันครุ่นคิด วางแผนว่าจะใช้ลูกของทศเป็นเครื่องมือ…
ขณะเดียวกันที่บ้านของน้ำทิพย์ น้ำทิพย์ใช้เวลาค้นเอกสารในห้องทำงานของพ่อทั้งวันทั้งคืนจนเจอ “จดหมายข่มขู่” น้ำทิพย์อยากได้คนช่วย เลยนึกถึงทนายที่ช่วยชิดตะวัน เธอเลยติดต่อ
“ปลายฝน” ตั้งใจว่าจะให้มาช่วยทำคดีให้เธอ ปรายฝนบอกชิดตะวันว่าแฟนเก่าของเขาติดต่อมาแต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ชิดตะวันเลยรีบไปหาน้ำทิพย์ตัดหน้าปลายฝนก่อนเพราะกลัวว่าจะเป็นแผนของคนร้ายอีกรึเปล่า… และทั้งสามก็ได้เจอกัน น้ำทิพย์บอกปลายฝนและชิดตะวันเรื่องจดหมายข่มขู่ที่บอกให้พ่อของเธอโอนเงินให้เพิ่มอีก 1 ล้านบาท ถ้าไม่อยากมีปัญหา… ซึ่งแปลว่าเคยมีการโอนเงินไปก่อนหน้านี้แล้ว ปลายฝนเสนอว่าต้องดูบัญชีเงินฝากของพ่อน้ำทิพย์ ว่าประวัติการเดินบัญชีเป็นยังไง และน่าจะทำให้รู้ได้ว่า ใครข่มขู่ให้ชลธีโอนเงินไปให้ ซึ่งนี่น่าจะเป็นหลักฐานที่ใช้มัดตัวคนร้ายได้ ปลายฝน
ตกลงที่จะช่วยสืบให้… น้ำทิพย์สังเกตว่าปลายฝนกับชิดตะวันดูมีความสัมพันธ์มากกว่าแค่ทนายความกับลูกความ ส่วนปลายฝนเองก็ไม่ค่อยชอบใจเวลาที่ชิดตะวันอยู่กับแฟนเก่า…

​ชิดตะวันไปดักเจอลูกของทศ ถึงได้รู้ว่าลูกชายของทศชื่อ “ระวี” ชิดตะวันตกใจและชะงักไป เขานึกย้อนไปถึงเมื่อ 11 ปีก่อน ตอนที่คุยกับน้ำทิพย์เรื่องชื่อลูก เขาตั้งใจจะตั้งชื่อลูกว่า “ระวี” และน้ำทิพย์เองก็รับรู้เรื่องนี้ กลับมาปัจจุบัน ชิดตะวันเริ่มระแวงว่าเด็กคนนี้อาจจะเป็นลูกของเขาหรือเปล่า หรือแค่เรื่องบังเอิญแค่นั้น… ชิดตะวันจูงมือระวีกลับไปที่บ้าน แล้วก็บังเอิญได้เจอกับ “ทศ” ที่กลับมาบ้านพอดี… ชิดตะวันจูงมือระวีไปส่งถึงมือของทศ สายตาจ้องมองนิ่ง แสดงอาการข่มขู่ด้วยภาษากาย เพื่อบอกกับทศว่า ถ้าทศเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขากำลังตามสืบ ลูกชายของทศอาจตกอยู่ในอันตราย… ชิดตะวันกับทศมาคุยกันส่วนตัว พยายามเค้นว่า “บูรณ์” โทรหาทศทำไม วันนั้นเกิดอะไรขึ้น และเค้นว่าเกี่ยวกับเรื่องฆาตกรรมชลธีรึเปล่า แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะทศบ่ายเบี่ยงทุกอย่าง…
น้ำทิพย์โทรหาชิดตะวันเพราะเจอคนดูแลบัญชีเก่าของพ่อแล้ว ชิดตะวันไปหานักบัญชีคนนั้นกับน้ำทิพย์ เขาไม่ยอมให้ชิดตะวันเปิดดูบัญชีด้วยตัวเอง อ้างว่ามีข้อมูลที่เป็นความลับของคนอื่นๆ อยู่ด้วย… และนักบัญชีคนนั้นก็หาข้อมูลให้จนเจอ และบอกว่าคนที่ “ชลธี” พ่อของน้ำทิพย์โอนเงินให้เมื่อ 11 ปี ก่อน เป็นจำนวน 1 ล้านบาทก็คือ “อนุพงษ์” ชิดตะวันและน้ำทิพย์ตกใจมาก เพราะนั่นคือชื่อพ่อของ “ชิดตะวัน” นั่นเอง… ชิดตะวันบอกปลายฝน และสงสัยว่านักบัญชีคนนี้คงถูกคนร้ายซื้อตัวไปแล้วแน่ๆ วันต่อมาชิดตะวันและปลายฝนพาพ่อของชิดตะวันไปที่ธนาคาร เพื่อตรวจสอบบัญชีของพ่อ
ชิดตะวัน ปรากฏว่ามันมีข้อมูลการโอนเงิน 1 ล้านนั้นจริงๆ แต่พ่อของชิดตะวันไม่เคยรับรู้และงงไปหมด… ระหว่างที่ชิดตะวัน ปลายฝน และพ่อของชิดตะวันกำลังเดินอยู่ริมถนน “ทศ” ขับรถมาตามคำสั่งของ “คทาเพชร” เข้าไปเตรียมพุ่งชนพ่อของชิดตะวัน ชิดตะวันช่วยไว้ได้ทัน แต่ตามรถคันนั้นไปไม่ได้… ชิดตะวันกับปลายฝนพาพ่อกลับมาที่บ้าน ปลายฝนย้ำกับชิดตะวันว่านี่คือสัญญาณที่บอกให้ชิดตะวันหยุดได้แล้ว… แต่สำหรับชิดตะวันแล้ว นี่คือการเติมไฟแค้นให้กับชิดตะวันมากยิ่งขึ้น เขาไม่ยอมให้ใคร
มายุ่งกับครอบครัวของเขาได้อีก… ชิดตะวันพาพ่อแม่และน้องสาวย้ายไปอยู่ที่ใหม่เพื่อความปลอดภัย… ทางฝั่งคทาเพชรเร่งให้บูรณ์จัดการชิดตะวัน เพื่อจบปัญหา แต่ตอนนี้บูรณ์ไม่สามารถจัดการ
ชิดตะวันได้ง่ายๆ แล้ว เพราะรู้ว่าน้องสาวรักชิดตะวันเข้าแล้ว…
ชิดตะวันเริ่มทนไม่ได้กับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และเริ่มมั่นใจว่าคทาเพชรอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเลยเข้าไปหาคทาเพชรถึงในห้องทำงานทันที แต่ข่มขู่ยังไงคทาเพชรก็ทำท่าที
ยียวนไม่สนใจที่ชิดตะวันพูด เพราะเขาคิดว่าเขาถือไพ่เหนือกว่าชิดตะวันทุกอย่าง ทางฝั่ง “แพรพลอย” ที่กำลังเดินหน้าโครงการแข่งกับคทาเพชร ก็ได้รู้ว่าบัญชีตัวเองถูกระงับ เธอโกรธมากจะเข้าไปต่อว่าคทาเพชร ก็เลยได้เจอกับชิดตะวันที่กำลังคุยอยู่กับคทาเพชร แพรพลอยด่าว่าคทาเพชรโดยไม่สนใจว่าชิดตะวันอยู่ตรงนั้น ชิดตะวันก็เลยพูดสัมทับไปกับแพรพลอยว่าคทาเพชรเป็นคนที่ “เหี้ยม” จริงๆ…
ชิดตะวันออกมาจากออฟฟิศนั้นและได้เจอกับแพรพลอยอีกครั้ง ชิดตะวันเห็นว่าน่าจะเข้ากับ
แพรพลอยและไว้ใจแพรพลอยได้ ชิดตะวันเลยอาสาเข้าไปช่วยโครงการของแพรพลอย เพราะนักเคมีที่คทาเพชรต้องการเป็นเพื่อนสมัยเรียนของชิดตะวัน โดยแพรพลอยตกลงให้ชิดตะวันเป็นหุ้นส่วน และให้ส่วนแบ่งถึง 50%
ปลายฝนเริ่มสงสัยว่าคทาเพชรน่าจะอยู่เบื้องหลังการฆ่าพ่อน้ำทิพย์ เธอเลยหาทางสืบ และคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เธอเลยบอกกับหัวหน้าสำนักงานทนายความของเธอ ว่าต้องการขอข้อมูลของคทาเพชรเพื่อนำมาใช้สืบต่อในคดีของชิดตะวัน ปรากฏว่าหัวหน้าสำนักงานทนายความของเธอกลัวอิทธิพลของคทาเพชร เลยเลือกที่จะโทรแจ้งคทาเพชร ทำให้คทาเพชรรู้ความเคลื่อนไหว หัวหน้าสำนักงานทนายความก็ถูกคทาเพชรซื้อตัวไป หัวหน้าสำนักงานทนายความทำทีเป็นตอบตกลงปลายฝนไปก่อนว่าจะขอข้อมูลจากทางบริษัทของคทาเพชรมาให้… ช่วงพักเที่ยงที่ไม่มีใครอยู่ หัวหน้าสำนักงานทนายความจะลวนลามปลายฝน โดยอ้างว่า ถ้าปลายฝนยอมตกเป็นของเขา เขาถึงจะเอาข้อมูลของบริษัทคทาเพชรมาให้ได้ แต่ชิดตะวันที่กำลังเอาสัญญาโครงการที่ร่วมมือกับแพรพลอยมาให้ปลายฝนดูที่สำนักงานทนายความของปลายฝน ก็เลยเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน…
​ตอนนี้ชิดตะวันและปลายฝนไว้ใจใครรอบตัวไม่ได้เลย ชิดตะวันให้คมเดชหาพรรคพวกมาเป็นบอดี้การ์ดคอยเฝ้าหน้าบ้านของปลายฝน… แต่วันหนึ่งปลายฝนก็หลบบอดี้การ์ดของชิดตะวันและแอบไปหาบูรณ์ เพื่อที่จะบอกกับบูรณ์ว่า คทาเพชรน่าจะอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดจริงๆ และเธอก็จะไม่หยุดสืบ เพราะเธอก็อยากรู้ว่าใครกันแน่เป็นคนจ้างวานฆ่าชลธี… หลังจากปลายฝนกลับไป “ทศ” ก็นำปืนมาให้บูรณ์ บอกกับบูรณ์ว่าคทาเพชรย้ำให้จัดการฆ่าชิดตะวันให้ได้ภายในวันนี้… ทางฝั่งครอบครัว
ชิดตะวัน แม่ของชิดตะวันร้อนใจกับพฤติกรรมของชิดตะวัน ที่คอยไปตามสืบเรื่องนู้นเรื่องนี้ กลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย ก็เลยมาพูดกดดันพ่อของชิดตะวัน ว่าทำไมไม่ทำหน้าที่ของพ่อ ที่ควรจะห้ามและทำให้ลูกเชื่อฟัง พ่อของชิดตะวันเลยเตรียมจะออกจากบ้านไป ไปจัดการอะไรบางอย่าง…
คืนสำคัญ… ชิดตะวันชวนปรายฝนควงไปออกงานเปิดตัวโครงการของแพรพลอย
แพรพลอยเชิญแขกคนสำคัญมาร่วมงานและบอกว่าจะมีเซอร์ไพรส์ คทาเพชรก็ควงคู่มากับน้ำทิพย์ พ่อและแม่ของคทาเพชรก็มาร่วมงานด้วย… อีกด้านหนึ่ง ระหว่างที่ชิดตะวันจะออกจากบ้าน “พิภพ” ลูกน้องของคมเดช ซึ่งตอนนี้ก็แอบคบกันลับๆ กับ “ศศิ” น้องสาวของชิดตะวัน ก็เห็นรถต้องสงสัยมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวหน้าบ้านของชิดตะวัน พิภพก็เลยพรางตัวให้เข้าใจว่าเป็นชิดตะวันแล้วก็ล่อรถคันนั้นไป รถคันนั้นก็เลยขับตามรถของพิภพไป ซึ่งคนที่ขับรถคันนั้นก็คือ “บูรณ์” นั่นเอง ปรากฏว่าพิภพพลาดท่าให้กับบูรณ์และถูกเอาปืนจ่อหัว… ทางฝั่งงานเปิดตัวโครงการของแพรพลอย ชิดตะวันควงปลายฝนเข้ามาในงาน น้ำทิพย์เห็นแบบนั้นก็รู้สึกไม่ดีที่แฟนเก่ามากับทนายสาวสวยที่ดูใกล้ชิดกันเหมือนคนรัก ส่วนคทาเพชรก็แปลกใจที่สองคนนี้มางาน แพรพลอยก็เลยประกาศเซอร์ไพรส์ ว่าเธอได้นักเคมีชื่อดังมาอยู่ในโครงการทำวัคซีนตัวใหม่ของเธอแล้ว และหุ้นส่วนคนสำคัญก็คือ “ชิดตะวัน” การทำแบบนี้เหมือนตบหน้าคทาเพชร และคทาเพชรแค้นใจที่แพรพลอยทำตัวเด่นกว่าเขา ทำให้เขาดูไม่ได้เรื่องในสายตาของพ่อ… ส่วนปลายฝนก็เข้าใจผิดว่าชิดตะวันต้องการควงเธอมาเย้ยแฟนเก่านั่นเอง…
แต่ชิดตะวันก็บอกกับปลายฝนว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะทำแบบนั้น… คทาเพชรทำทีเป็นเข้ามาแสดงความยินดีกับชิดตะวัน จับมือและบีบแน่นต่อหน้าผู้คนในงาน… ทางฝั่งของบูรณ์ ปรากฏว่าบูรณ์ตัดสินใจยิงพิภพเสียชีวิต และคนที่มาเห็นก็คือ “พ่อของชิดตะวัน” พ่อของชิดตะวันร้องขอชีวิตกับบูรณ์ แต่บูรณ์กลัวว่าพ่อของชิดตะวันจะก่อปัญหาในอนาคต เขาเลยตัดสินใจปลิดชีพพ่อของชิดตะวันอีกคน
​ชิดตะวันได้รับแจ้งจาก “คมเดช” ว่ามีคนยิงพิภพและพ่อของชิดตะวัน ชิดตะวันก็รีบมาที่เกิดเหตุพร้อมกับปลายฝนทันที ชิดตะวันเคียดแค้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คว้าปืนตำรวจและขับรถออกไปหาคทาเพชรที่หน้าบ้าน เพราะมั่นใจว่าเป็นฝีมือคทาเพชรแน่ๆ คทาเพชรกลับมาที่บ้านก็เจอเข้ากับ
ชิดตะวัน ชิดตะวันก็เข้าไปซ้อมด้วยความโกรธและเอาปืนกรอกปากคทาเพชร ปรากฏว่าตำรวจตามมาจับชิดตะวันไป… ทางฝั่งคมเดชและครอบครัวของชิดตะวัน ก็ไปดูศพ “พิภพ” และศพ “พ่อของ
ชิดตะวัน” ต่างก็เศร้าโศกเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น… ปลายฝนไปหาชิดตะวันที่ถูกคุมขัง บอกกับ
ชิดตะวันว่า เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ชิดตะวันไปร่วมงานศพของพ่อได้… ชิดตะวันไปร่วมงานศพของพ่อ แต่แล้วก็หลบหนีออกไปได้ ตั้งใจจะกลับมาแก้แค้นให้ได้ และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่เพลิงบาปของชิดตะวันถูกกระพือโหมแรงขึ้นจนไม่มีสิ่งใดมาหยุดเขาได้แล้ว
ชิดตะวันบุกเดี่ยวไปลากคอคทาเพชรออกมาจากบ้านใช้ปืนข่มขู่ ซ้อมคทาเพชรจนน่วม เขาเกือบจะฆ่าคทาเพชรทิ้งเสียแล้ว แต่คนอย่างคทาเพชรย่อมมีไพ่ที่ซ่อนไว้เสมอ เขาบอกกับชิดตะวันว่า ถ้าชิดตะวันฆ่าเขาทิ้ง ชิดตะวันก็จะไม่มีทางได้เจอลูกของเขากับน้ำทิพย์อีกเลย ชิดตะวันตกใจมากที่
ได้ยินแบบนั้น ชิดตะวันก็เลยต้องยอมปล่อยตัวคทาเพชรไป… คมเดชแปลกใจที่ชิดตะวันไม่ยอมจัดการกับคทาเพชร ชิดตะวันเลยบอกกับคมเดชว่าที่เขายังทำอะไรใครไม่ได้ก็เพราะว่ามี “ลูกชาย” ที่คทาเพชรแอบเก็บไว้อยู่…
ชิดตะวันแอบกลับไปเจอน้ำทิพย์ เพื่อถามเรื่องลูก ก็ได้รู้ความจริงว่าน้ำทิพย์ไม่ได้ทำแท้งจริงๆ ที่บอกว่าลูกไม่อยู่แล้วหมายถึงเธอได้ตัดสินใจยกให้คนอื่นไปแล้ว แต่เธอไม่รู้เหมือนกันว่าลูกอยู่ที่ไหน คทาเพชรเป็นคนจัดการเรื่องลูกให้ แต่คทาเพชรไม่เคยบอกว่าพาลูกไปไว้ที่ไหน ชิดตะวันตัดสินใจไปกับน้ำทิพย์ กดดันให้คทาเพชรบอกว่าลูกอยู่ที่ไหน แต่สุดท้ายคทาเพชรก็ยึกยักไม่ยอมบอก และยังเดินหน้าปั่นหัวทุกคนต่อไป ไม่มีใครทำอะไรเขาได้… จนในที่สุดชิดตะวันไม่ทนเล่นเกมของคทาเพชรอีกต่อไปแล้ว เขากับทีมของคมเดชไปบุกจับคทาเพชรอย่างอุกอาจ แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามากราดยิงสวนกับกลุ่มของชิดตะวัน ทำให้กลุ่มชิดตะวันต้องถอยออกไปก่อน… แต่ปรากฏว่ากลุ่มนั้นเองก็มาชิงตัวคทาเพชรที่หมดสติไปเหมือนกัน ชิดตะวันไม่รู้ว่าคทาเพชรถูกคนอีกกลุ่มหนึ่งชิงตัวไป
ปลายฝนอึดอัดใจที่ต้องทนเห็นชิดตะวันเอาตัวเข้าไปเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ และเธอไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อต่อไป เธอเลยตั้งใจจะเข้าไปบอกความจริงกับชิดตะวันว่าเธอคือ “บัวบูชา” พยานเท็จที่ปรักปรำชิดตะวันและทำให้เขาติดคุก… แต่ไม่ทันที่ปลายฝนจะบอกความจริง ทั้งคู่ก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันเสียก่อน… ปรากฏว่ากลุ่มคนลึกลับมาบุกที่พักของชิดตะวันที่ท่าเรือและกราดยิง ชิดตะวันกับปลายฝนหนีไปได้อย่างหวุดหวิด… ชิดตะวันหัวเสีย คิดว่าเรื่องแบบนี้น่าจะมีแค่คทาเพชรเท่านั้นที่ทำ และ
คทาเพชรก็ต้องเป็นคนที่ยิงพ่อของเขาด้วยอย่างแน่นอน…
ทางบ้านของคทาเพชร น้ำทิพย์มีท่าทีแข็งกร้าวกับครอบครัวคทาเพชรขึ้นทุกที แม่ของ
คทาเพชรก็บอกให้พ่อจัดการเรื่องนี้ซะ แต่พ่อของคทาเพชรก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะน้ำทิพย์ถือหุ้นของบริษัทเกินกว่าครึ่ง ถ้าไม่มีน้ำทิพย์ครอบครัวของเขาก็จะไม่เหลืออะไร ปรากฏว่ามีคนโทรมาบอกว่า
คทาเพชรถูกจับตัวไป แม่ของคทาเพชรโกรธคิดว่าเป็นฝีมือของน้ำทิพย์ เพราะก่อนหน้านี้น้ำทิพย์ทะเลาะกับคทาเพชรจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน เลยจะเข้าไปตบน้ำทิพย์ พ่อของของคทาเพชรก็เข้าไปห้ามไว้… น้ำทิพย์ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่คทาเพชรถูกลักพาตัวไป…
แม่ของคทาเพชรร้อนใจอยากให้คนช่วยลูกชายของเธอ เธอเลยโทรหา “มาเฟีย” คนหนึ่งที่เธอรู้จักและน่าจะช่วยได้ เขาก็คือ “เตชินท์” มาเฟียแก๊ง “ฮ่ายเหล็ง” แต่กลับกลายเป็นว่าแก๊งของเตชินท์นี่เองที่ลักพาตัวคทาเพชรไป แม่ของคทาเพชรตกใจมาก แต่เตชินท์ก็อ้างว่าเขามีเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ และขอให้แม่ของคทาเพชรเชื่อใจเขา ว่าคทาเพชรจะปลอดภัยเมื่อมาอยู่ในความดูแลของเขา แม่ของคทาเพชรเชื่อใจว่าเตชินท์จะไม่ทำอะไรคทาเพชรแน่นอน… เตชินท์คือมาเฟียใหญ่ และเตชินท์ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความโหดเหี้ยมในการจัดการกับลูกน้องรวมถึงผู้ที่ท้าทายอำนาจของเขา…
เมื่อ “คมเดช” กลับมาที่บ้านพักที่ท่าเรือ ถึงได้รู้ว่ามีกลุ่มคนมาบุกกราดยิงที่ห้องพักของ
ชิดตะวัน และสารวัตรนิติก็กำลังมาทำคดีค้นที่พักของชิดตะวันเพื่อหาหลักฐาน คมเดชและสารวัตรนิติไม่ถูกกัน เพราะความหลังเรื่องที่ทำให้คมเดชต้องติดคุก… สารวัตรนิติเค้นคมเดชให้บอกที่ซ่อนของ
ชิดตะวัน คมเดชเองก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะเขาเองก็ไม่รู้จริงๆ พอพวกของสารวัตรนิติกลับไปแล้ว คมเดชถึงได้พูดกับพรรคพวกว่าเขารู้ว่าการส่งกลุ่มคนมายิงกราดในลักษณะนี้เป็นฝีมือของ
“เตชินท์” แน่นอน… เพราะเขาเองนี่แหละคืออดีตคนคุ้นเคยกับเตชินท์ แต่คมเดชไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ชิดตะวันติดต่อกลับมาที่คมเดช ทั้งคู่ถึงได้นัดเจอกัน คมเดชขอร้องให้ชิดตะวันหยุดเรื่องราวทั้งหมด พร้อมพาแม่และน้องสาวรวมถึงปลายฝนหนีไป เพราะครั้งนี้ชิดตะวันกำลังเล่นกับ “มาเฟีย” ผู้ทรงอิทธิพล แต่ชิดตะวันก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตามที่คมเดชขอร้อง…
แม่ของชิดตะวันไปหาแม่ของคทาเพชรถึงที่บ้าน เพราะเชื่อว่าคทาเพชรกำลังกลั่นแกล้ง
ชิดตะวัน ทำให้เธอและลูกสาวไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากับชิดตะวัน แต่แม่ของคทาเพชรก็กล่าวหาว่า
ชิดตะวันเองก็ทำให้คทาเพชรตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย แม่ของชิดตะวันถูกไล่ให้กลับบ้านไป โดยแม่ของคทาเพชรขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ… ส่วนทางด้านชิดตะวันกับปลายฝนหนีไปอยู่ด้วยกันสองคนโดยไม่บอกใครว่าอยู่ที่ไหน ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ…
​แม่ของคทาเพชรมาหาเตชินท์เพื่อที่จะเยี่ยมคทาเพชร และเรื่องราวก็เฉลยขึ้นมาว่าแม่ของคทาเพชรก็คือคนรักเก่าของเตชินท์ และคทาเพชรก็คือลูกแท้ๆ ของเตชินท์นั่นเอง… คทาเพชรปฏิเสธความจริง เพราะเขารัก “ธนวัฒน์” พ่อที่เลี้ยงดูเขามา ส่วน “เตชินท์” ที่ไม่ได้เลี้ยงเขามา เขาไม่สามารถนับเตชินท์เป็นพ่อของเขาได้… คทาเพชรดื้อดึงแข็งกร้าวกับเตชินท์
เตชินท์ตั้งใจจะเก็บทุกคนที่เกี่ยวข้องกับแผนการตายของชลธี ไม่ว่าจะเป็น สารวัตรนิติ บูรณ์ ทศ ชิดตะวัน ปลายฝน และที่คทาเพชรไม่รู้คือ พ่อแท้ๆ ของเขาเลือกที่จะเขียนชื่อ คทาเพชร ลงในรายการของคนที่ต้องตามเก็บทิ้งด้วย เพราะคทาเพชรดื้อด้านจนอาจก่อให้เกิดปัญหาได้เหมือนกัน เตชินท์ยอมปล่อยคทาเพชรออกไปก่อนให้ตายใจ… วิธีการจัดการของเตชินท์คือ เขียนรายชื่อทั้งหมดใส่ลงในขวดโหล แล้วสุ่มจับที่ละชื่อ จากนั้นจะจัดการอย่างเลือดเย็น และชื่อแรกที่เตชินท์สุ่มขึ้นมาได้เพื่อที่จะวางแผนจัดการก็คือ “สารวัตรนิติ”…
​เมื่อผ่านเวลาไป ชิดตะวันระแคะระคายว่าเด็กชายที่อยู่กับ “ทศ” ไม่น่าจะเป็นลูกของเขา และคทาเพชรไม่น่าจะยอมตั้งชื่อลูกว่า “ระวี” ตามที่เขากับน้ำทิพย์ต้องการ… เขาเลยวางแผนยั่วโมโหทศ เพื่อไปกระทบ “คทาเพชร” กดดันให้คทาเพชรคายความลับมาให้ได้… ชิดตะวันวางแผนให้น้ำทิพย์ไปลักพาตัวระวีมา เพราะถ้าระวีสำคัญสำหรับ “ทศ” ที่อ้างว่าเป็นพ่อรุ่งภพจริง ทศก็ต้องโมโห…
น้ำทิพย์ทำไปตามแผน เพราะยังเข้าใจว่า “ระวี” คือลูกของเธอจริงๆ เธอไม่รู้ว่าชิดตะวันกำลังใช้เธอเป็นเครื่องมือในแผนครั้งนี้… เมื่อน้ำทิพย์พาตัวระวีมาได้ตามแผนของชิดตะวัน “ทศ” ก็หัวเสียตามที่
ชิดตะวันคาดเดาไว้… ทศรีบเข้าไปหาคทาเพชรที่อยู่ที่บ้านของน้ำทิพย์ทันที เพราะเข้าใจว่าคทาเพชรเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีคนมายุ่งกับ “ลูก” ของเขา… ซึ่งตอนนั้นคทาเพชรกำลังเคลียร์เรื่องต่างๆ อยู่กับบูรณ์และสารวัตรนิติ ซึ่ง “บูรณ์” ที่อยู่ตรงนั้นก็เพราะทำตามแผนของชิดตะวันเข่นกัน โดยชิดตะวันบอกว่าจะปล่อยปลายฝนคืนให้บูรณ์ ถ้าบูรณ์ไปหาคทาเพชร และวิดีโอคอลให้ชิดตะวันดู หาก “ทศ” เข้าไปเอาเรื่องคทาเพชร… พอทศเข้ามาเอาเรื่องคทาเพชร บูรณ์ก็แอบตั้งกล้องและวิดีโอคอลกลับมาที่
ชิดตะวันที่อยู่กับปลายฝน… ชิดตะวันเปิดวิดีโอคอลให้ปลายฝนดู ชิดตะวันบอกว่าเขากำลังกดดันทุกคนเพื่อให้ใครบางคนคายความลับออกมา ปลายฝนเริ่มตื่นกลัวว่าใครจะหลุดความลับอะไรออกมาบ้าง… ระหว่างที่ทั้งหมดทะเลาะกันไปมา ปรากฏว่า “สารวัตรนิติ” โดนลอบยิงโดยคนของเตชินท์จนเสียชีวิตในบ้านของน้ำทิพย์… ปลายฝนและชิดตะวันตกใจมาก เพราะไม่คาดคิดว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ ปลายฝนขอร้องให้ชิดตะวันโทรไปบอกทุกคนให้หยุด เพราะเธอคิดว่าการที่สารวัตรนิติถูกยิงเป็นแผนของชิดตะวัน… ชิดตะวันปฏิเสธว่าที่สารวัตรนิติโดนยิงไม่ใช่ฝีมือของเขา เมื่อเรื่องราวตรงหน้าดูกดดันมากยิ่งขึ้น ในที่สุด…ปลายฝนก็ยอมสารภาพว่าเธอเองคือ “บัวบูชา” พยานเท็จที่ทำให้ชิดตะวันต้องติดคุกอยู่ 11 ปี… ชิดตะวันช็อคกับความจริงที่ได้รู้…
​เมื่อคนที่ตามหามาตลอดกลับอยู่ใกล้และรู้ความเคลื่อนไหวเขามาตลอด ความรักที่เขามีให้เธอจะเอาชนะความแค้นในใจตลอด 11 ปีได้หรือไม่ ความยุติธรรมที่ชิดตะวันรอคอยมาตลอดจะปรากฎขึ้นเมื่อไหร่? ติดตามได้ใน “บาปอยุติธรรม”


ทางรอด Ost.บาปอยุติธรรม | คิว สุวีระ บุญรอด
ศิลปิน : คิว สุวีระ บุญรอด
คำร้อง : สุรชัย พรพิมานแมน
ทำนอง : อภิชาติ พรมรักษา
เรียบเรียง : อภิชาติ พรมรักษา, วรวรรธน์ วิวรรธน์วณิชย์

เป็นคนไม่มีค่าอะไร แค่ฉันหายใจมันก็ผิด และทั้งชีวิตที่ยังเหลือให้ใช้ ถูกแขวนไว้บนด้ายบางๆ
ไม่มีแสงใดๆ มันไร้หนทาง ดั่งฟ้าจงใจมาขวางทุกทางรอด
บีบบังคับให้จมให้ลึกเข้าไป สุดเสียงตะโกนไร้คนได้ยิน
ถูกทิ้งให้ตาย อยู่ในความมืดมน จะมีใครไหมซักคน ปล่อยฉันพ้นพันธนาการ ดับแค้นในใจ ก่อนหมดลมหายใจ บอกทางให้ฉันก้าวไป เป็นแสงรำไรที่ปลายอุโมงค์
เปลวไฟแห่งความแค้นทำลาย ชีวิตเหมือนกลายเป็นเถ้าถ่าน
ดิ้นรนในมุมที่มืดมิดลำพัง ถูกขังในความทรมาน
ไม่มีแสงใดๆ มันไร้หนทาง ดั่งฟ้าจงใจมาขวางทุกทางรอด
บีบบังคับให้จมให้มันลึกเข้าไป สุดเสียงตะโกนไร้คนได้ยิน
ถูกทิ้งให้ตาย อยู่ในความมืดมน จะมีใครไหมซักคน ปล่อยฉันพ้นพันธนาการ ดับแค้นในใจ ก่อนหมดลมหายใจ บอกทางให้ฉันก้าวไป เป็นแสงรำไรให้ฉันเห็นทางรอด ชีวิตนี้ ต้องทรมาน นานอีกแค่ไหน
มันมืดมิดเกินไป มันไร้หนทาง ดั่งฟ้าจงใจมาขวางทุกทางรอด
ถูกตัดสินและลงทัณฑ์ บีบคั้นโดยชะตา ไขว่คว้าดิ้นรน ไร้คนเข้าใจ
ทิ้งให้ตาย อยู่ในความมืดมน จะมีใครไหมซักคน ปล่อยฉันพ้นพันธนาการ หลุดพ้นความตาย ก่อนหมดลมหายใจ บอกทางให้ฉันก้าวไป เป็นแสงรำไรให้ฉันเห็นทางรอด ..ทางสุดท้าย

#Saveme Ost.บาปอยุติธรรม | อิมเมจ สุธิตา

ศิลปิน อิมเมจ สุธิตา
คำร้อง ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์
ทำนอง/เรียบเรียง เต็น ธีรภัค

วันที่ใจฉันว่างเปล่า วันที่ใจฉันเหน็บหนาว อยากมีใครช่วยแบ่งเบา แค่ใครซักคน
วันที่ฟ้าดูหมองหม่น ไม่เหลือใครสักคน ในใจมันร้อนรน สับสนเหลือเกิน

*อยากให้เป็นเธอ ที่โอบกอดฉัน ให้มันหลุดพ้นจากความทุข์ทนตอนนี้
**ช่วยรักฉันจะได้ไหม อย่าทิ้งฉันไว้ณที่ตรงนั้น ช่วยรับฉันไว้อยู่อ้อมกอดเธอ ช่วยรักฉันจะได้ไหม อย่าทิ้งฉันไว้ให้หัวใจเพ้อ ให้ฉันได้เจอกับวันที่ดี Would you save me ?

วันที่เธอเดินเข้ามา วันที่ใจฉันห่วงหา อยากให้เธอได้มองตา ในความมืดมน
วันที่ฟ้าดูหมองหม่น ไม่เหลือใครสักคน ในใจมันร้อนรน สับสนเหลือเกิน

( ซ้ำ */**)

Facebook Comments
Share Button