จิกกะบาล ตอนที่ 64 – โรส ศิรินทิพย์ หาญประดิษฐ์
อ๊อฟ จิกกะบาล : สวัสดีคะ วันนี้ไม่มีพิธีกรชายนะ เค้าฝากบอกว่าไปทำหน้าอก กับทำจมูกอยู่ เราก็รอดู
พิธีกรรับเชิญ : ตาล
ตาล : เปลี่ยนคนมา วันนี้เราจะมาคุยกับคนดังมากเลยนะ
โรส ศิรินทิพย์ : ดังกริบเลยทีเดียว
อ๊อฟ จิกกะบาล : ดังมาก ใครไม่รู้จักแย่มากเลยทีเดียว เล่นละครสวรรค์เบี่ยงด้วยนะ คู่รอง
โรส ศิรินทิพย์ : พี่หลุยส์ สวัสดีคะน้องๆ เกรงใจ สงสารพี่หลุยซ์นะ จริงๆแล้วเนี่ย
อ๊อฟ จิกกะบาล : จริงๆแล้วอาจจะเป็นเนื้อคู่ก็ได้นะ
โรส ศิรินทิพย์ : โอเคๆ ปิ๊งๆๆ ตอนนี้กำลังมีหน้าเทียบใช่ไหม
อ๊อฟ จิกกะบาล : แนะนำตัวนิดนึง
โรส ศิรินทิพย์ : โรส แร็พเตอร์ คะ จริงๆแล้ว แร็พเตอร์ จะมี 3 คน แต่พอดีตอนนั้นพอดีป่วย พูดแล้วอายเอง จริงๆตอนนั้นจะต้องไปเรียบนต่ออะไรงี้
อ๊อฟ จิกกะบาล : ได้ข่าวว่าย้ายโรงเรียนบ่อยมาก ไม่ทราบว่าโดนย้ายออกหรือยังไง
โรส ศิรินทิพย์ : เรื่องราวมัน คือ คุณพ่อเป็นคนที่ทำงานในโบสถ์ แล้วคุณพ่อก็ย้ายบ่อยไง เหมือนเค้ามอบหมายให้ไปอยู่ที่ โบสถ์อื่น โบสถ์โน้นนี่ ก็ต้องย้ายตามไปด้วย มันไม่ใช้แค่ย้ายจากในจังหวัดเดียวกัน มันย้ายไปอีกที่นึงเลย ก็เลย อย่างเช่น ถ้าไล่เลยนะ เอาย้ายบ้านก็ย้ายมาแล้ว 20 ครั้งแล้ว ก็คือ คุณพ่อต้องย้าย ตอนแรกอยู่ กรุงเทพ เกิด กรุงเทพ แล้วย้ายไปย้ายมา แล้วย้ายไปอยู่อุบล ถึง ป.3 แล้สย้ายไปอยู่ ฮ่องกง 2 ปี คุณพ่อได้ทุนไปเรียน ไปถึงก็เด็กบ้านนอกมาก ก็แบบ พูดไม่ได้ทำไรไม่ได้ นึกสภาพเราพูดไม่ได้เลยนะ เด็กต่างจังหวัดเรียนภาษาอังกฤษ ก็ไม่เหมือนกรุงเทพ รู้จักแค่ Orange แปลว่า ส้ม
อ๊อฟ จิกกะบาล : แปลว่ามีข้าวกินแล้วนะ
โรส ศิรินทิพย์ : เกือบไม่รอด ไปอยู่ 2-3 เดือนแรกเนี่ย แต่โชคดีที่โรงเรียนที่ไปอยุ่ เนี่ย มันเป็น home school ของ มิชชันนารีอเมริกัน เค้าไปที่ประเทศนั้นๆ เพื่อไปประกาศเรื่องของพระเจ้า รัฐบาลเค้ากำหนดให้ อนุบาล –ป.5 มีได้แค่ 20 คนเท่านั้น เค้าเรียนรวม อ. – ป.3 1ห้อง ป.4-5 อีกนึงห้อง แต่โรงเรียนเนี่ย ทำให้โรสเรียนภาษาอังกฤษเร็วมาก เรียนอังกฤษจะอยู่ห้องอนุบาลเลย พอเรียนเลย จะได้มาอยู่ห้อง ป.4-5 ดีมาก ครูคือ พ่อแม่ของเพื่อนเรา กฏของโรงเรียนมีอยู่ว่า มีลูกกี่คนต้องมาโรงเรียนอาทิตย์นึงเท่าจำนวนลูก แต่แม่โรสต้องมาทุกวัน เพราะพูดไม่ได้เลย มีวันนึงเกือบไม่ได้กินข้าว เพราะ yes อย่างเดียวไง ไม่ no ด้วย เค้าถามว่ามีข้าวมาไหม ก็ yes เพื่อนนั่งกินข้าวกันก็ จ๊อก สักพักเค้าก็เดินมาแล้วก็คงรู้แล้วละ ว่าไม่รู้เรื่องแน่ๆ เค้าก็ไปหา แซนวิชมาให้อันนึง ซึ่ง เด็กบ้านนอกจะไม่รู้จัก แซนวิช เนยถั่ว ยิ่งตอนเด็กๆเราจะอะไรบ้านเราไม่กินแบบนี้ บ้านเรากิน ขนมปังทาเนย โรยน้ำตาย นี่ peanut butter ไม่ต้องพูดถึง เราก็อะไรว่ะ กินไปคำนึงทิ้งเลย เสียรึเปล่าไม่รู้ไง
อ๊อฟ จิกกะบาล : ทีหลังหัด no ไปแทน
โรส ศิรินทิพย์ : no กลัวพลาดอะไรไง yes ไว้ก่อน แล้วยิ้มอย่างเดียวเลย
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วตอนนั้นอายุเท่าไหร่ที่เข้าไปเรียนกับเด็ก
โรส ศิรินทิพย์ : ป.4
อ๊อฟ จิกกะบาล : แสดงว่าตอนนั้น ไม่ได้เด็กนะ โดนลดชั้นหนิ
โรส ศิรินทิพย์ : ก็เก่ง นะ พอเรียน ป.4 จบโรงเรียนยุบเลย เข้าข่ายอยู่ที่ไหน หัวหน้าตายหมด
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่สงสารคนที่เหลือเลยเหรอ
โรส ศิรินทิพย์ : ไม่รู้เพราะอะไร สุดท้ายก็ไปอยู่ นานาชาติใหญ่อยู่ดี พอจบ ป.5 คุรพ่อหมดทุนแล้วไง ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า โรงเรียนปิดไปยัง
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วจบ ป.5
โรส ศิรินทิพย์ : โรงเรียน ICS ที่ฮ่องกง แล้วย้ายกลับเมืองไทย ป.6 เทอมแรก เรียกเป็นเทอมๆไป ตอนนั้นย้ายกลับมาแล้วเหมือน มันต้องเริ่มเรียนแล้ว ก็เอาโรงเรียนใกล้บ้านไว้ก่อน ชื่อโรงเรียน สวนนันทวัน อยู่แถวๆ พระโขนง แต่จริงๆเราย้ายออกก่อนที่มันจะยุบไปนะ หนีความผิด ก็ย้ายไปอยู่ คริสต์ธรรมศึกษา พอจบม. 3 ก็ไปเรียนสายน้ำผึ้ง ตรงนี้
อ๊อฟ จิกกะบาล : ดูเป็นคุณหนูมาก
โรส ศิรินทิพย์ : ไม่เคยเรียนโรงเรียน รัฐบาลมาตลอด เพราะคุณแม่จะให้อยู่โรงเรียนคริสต์ แต่ที่เป็นรัฐบาลไม่มีไง อยากเรียนโรงเรียน รัฐบาล อยากเรียนโรงเรียนรัฐบาลบ้าง แล้วส่วนใหญ่ โรงเรียนคริสต์มันจะเล็กมาก
อ๊อฟ จิกกะบาล : อย่าง เซนต์โย เซนต์ฟรัง มาแตร์ อัสสัม วัฒนา ก็ไม่เล็กนะ
โรส ศิรินทิพย์ : เอาเหตุผลจริงๆใช่ไหม แพงนะ ไม่มีตังค์ไง หลายคนคิดว่ารวย เพราะไปเรียนฮ่องกง จริงๆไม่รวยเลยนะ เพราะทำงานในโบสถ์ เงินเดือนจะน้อยมาก ส่วนใหญ่จะช่วยเหลือคนมากกว่า เราก็อยากช่วงประหยัดด้วย แม่ก็บอกว่า ถ้าไม่ได้ก็ต้องไปอยู่ เซนต์โย เซนต์ฟรังค์ อะไรแบบนี้ แล้วเห้นว่าเด็กเยอะด้วยไง อยากจะไปอยู่
อ๊อฟ จิกกะบาล : อยากจะไปเป็นใหญ่ที่นี่
โรส ศิรินทิพย์ : ใช่ อะไรอย่างนั้น อยู่สายน้ำฝึ้งไม่ได้ชื่อ โรสนะ ชื่อโอ๊ต ตอนที่จะเข้าสายน้ำผึ้ง ตอนเด็กๆก็ไม่ชอบชื่อ โรสมากนะ เพราะเป็นเด็กพูดชัดไง แล้วรู้สึกว่าแนะนำยาก แล้วตอนนั้น titanic ดังมาก ก่อนเข้าโรงเรียนเราไปเข้าค่ายของ คริสต์เตียน แล้ว 200 คน ถามเราว่า jack ไปไหนละ ไม่ไหวแล้ว คิดว่าเข้าสายน้ำผึ้งต้องโดนแน่ๆ เลยคิดว่า เรามีเพื่อนคนนึงชื่อ เอิร์ต แล้วใครเรียกเราก็หันเหมือนกัน เราก็เลยคิด โอ๊ต โน้ต เราชอบ 2 ชื่อนี้ แต่ว่า โน้ต เชิญยิ้ม มันดูตลกไป โอ๊ตแล้วกัน เลยเปลี่ยนมาชื่อโอ๊ต
อ๊อฟ จิกกะบาล : ป๊อป ในโรงเรียนไหม
โรส ศิรินทิพย์ : มีคนป๊อปกว่านี้เยอะ ก็มีคนรู้จักบ้าง แต่ไม่ได้ถึงกับว่า วาเลนไทน์ น้อง โอ๊ยอะไรขนาดนั้น ได้นิดนห่อย มันจะเป็นประมาณว่า คนอยากรู้จักเยอะมากกว่า ด้วยเราเล่นกีฬาแล้วเราเป็น รุ่นแรกที่มีวงดนตรี แล้วไปประกวด hotwave แล้วติด 30 วงสุดท้าย ก็เริ่มได้รู้ว่าคนมีชื่อเสียงเป็นยังไง ก้มีคนนินทาบ้าง เพื่อนๆจะคอยบอก เพื่อนบอกว่า เวลาจะกลับบ้าน ก็จะต้องคอยมีคนทัก จากนี่ไปถึงโน้น ก็จะมี อ้าว พี่โอ๊ต อ้าว พี่โอ๊ต อ้าว พี่โอ๊ต อ้าว พี่โอ๊ต เพื่อนบอกว่า กูรอหน้าดรงเรียน เสร็จแล้วตามไป รอไม่ไหว
อ๊อฟ จิกกะบาล : ตอนนี้ก็ดังแล้ว
โรส ศิรินทิพย์ : ไม่เหมือนที่โรงเรียนแน่ๆ เพราะไม่มีใครรู้จัก ที่โรงเรียน เราเดินไป น้องจะรู้แล้วเข้ามาคุย เราไม่ได้รู้จักเค้า แต่เราก็รู้ว่าน้องที่โรงเรียน อย่างสังคมทั่วไป เราเดินไปไม่มีใครรู้จัก หรือต่อให้รู้จักเค้าก็จะ ใช่เหรอ ว่ะ ใช่ป่ะแก จะไม่ได้เข้ามาคุยเหมือนปกติ
อ๊อฟ จิกกะบาล : น่าคิดนะ ไม่ตัว จริง ก็ในทีวี ก็จะมีอะไรไม่เหมือนกัน จริงๆ ตัวจริงสวยกว่าใช่ไหม
โรส ศิรินทิพย์ : มีคนพูดอย่างนี้เยอะนะ เราคิดว่า ไม่ในทีวี ทุเรศมาก ตัวจริงก็จะต้องสวยมาก เราก็คอยถามคนที่อยู่รอบข้างว่า จริงๆแล้วอะไรยังไง พี่ว่ายังไง เค้าก็บอกว่า จริงๆ ที่มีคนพูดว่า สวยขึ้น ก็เพราะรู้จักนิสัย
อ๊อฟ จิกกะบาล : แปลว่าสวยจากข้างในอะไรงี้ ใครบอกพี่โรสไม่สวยให้คิดว่าสวยจากข้างในนะ
โรส ศิรินทิพย์ : ถูกๆ คิดไว้นะ สวยจากข้างใน
อ๊อฟ จิกกะบาล : กลัวอะไรเป็นพิเศษไหม สัปปะรด อะไรอย่างนี้
โรส ศิรินทิพย์ : อันนั้นอร่อยนะ กลัวแมลงสาบ ปกติ ไม่ได้กลัว แต่ถ้าอยู่ห้องเดียวกัน สักคนต้องตาย มันต้องตาย ไม่เราก็ต้องตาย เกลียดมากกว่า ให้อยู่ก็อยู่ได้แต่อย่าเข้ามาใกล้ ตายดีกว่า เหยียบๆดีกว่า คือจริงๆแล้ว จริงๆ กลัวสิ่งที่ขยับเร็วๆ บางทีไปร้านอาหารแล้วจะมีตู้ มีกุ้ง แล้วมันจะ ขยับ มันขนลุก กลัวการขยับที่รวดเร็ว เช่นผีบางเรื่อง ไม่ชอบสิ่งที่มันขยับเร็วเกินไป
อ๊อฟ จิกกะบาล : เข้าเรื่องเพลงดีกว่า เคยเรียนร้องเพลงมาป่ะ
โรส ศิรินทิพย์ : เคย ตอนนั้นเหมือนกับไปร้องเพลงให้กับ โบสถ์ แล้วเค้าก็มรีทุนสนับสนุนให้ทำ cd เค้าก็ส่งให้ โรสไปเรียนร้องเพลง ที่โรงเรียน ครูอ้วนนี่แหละ แต่ว่ามันเป็นสาขาที่ห่างไกลความเจริญ มาก เราก็ไปแล้วเคยเจอครูอ้วนครั้งนึง ซึ่ง เราร้องเพลงได้อยู่แล้ว แล้วเค้าดันส่งไปเรียนคอร์สเบสิค อ่ะ หายใจเข้า เปิดกระบังลม เอ๊ะ เปิดยังไง จนทุกวันนี้ก็ยังเปิดไม่เป็นเลยนะ รู้แต่หายใจเข้าก็คือ หายใจเข้า ร้องเพลงก้คือร้องเพลง จนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าที่ทำไปนั้นได้ใช้ไหม ตอนแรกที่เข้ามาแกรมมี่เนี่ย ถามพี่ๆว่า เมื่อไหร่จะได้เรียนร้องเพลงบ้าง เพราะอัลบั้มแรกที่ออก คือ อัลบั้ม the war มีศิลปินหน้าใหม่มารวมกัน เยอะมาก แล้วเค้าก็จะมีตารางไปเรียนร้องเพลงกัน เราก็จะแบบว่า เรียนด้วย ได้ไหม เค้าก็หันมา อย่าง … จะเรียนไปทำไม เราก็ อย่าง พี่โบ ทาทา ทุกคนเค้าก็ร้องดี ได้เรียนร้องเพลงกันมาก่อน ทำไม เหมือนมีคนบอกว่าเข้าใจว่า คนบางคนที่ร้องเพลงดีอยุ่แล้ว ถ้าไปเรียนมันจะปิดไปเหมือนเดิม ก็หลังจากอัลบั้ม โรส line ก็ไปเรียนร้องเพลงอีกนิดนึง กับลูกศิษย์ ครุโรจน์ ก็ได้ไปเรียนอยู่พักนึงจนขี้เกียจไป
อ๊อฟ จิกกะบาล : เคยประกวดอะไรชนะบ้างไหม
โรส ศิรินทิพย์ : เคยก็ประกวดร้องเพลง ฝรั่งเศส ที่ เซนต์จอห์น เพลงไทยมัน normal basic มาก ก็เรียน ศิลป์ฝรั่งเศส ปีนั้นคุณครูเตค้าจะหาห้องอัดดีๆให้ โรสก็เหมือนเป็น มิวสิค director เพราะเป็นคนที่รู้เรื่องดนตรีอยู่คนเดียว ซึ่งคุณครูเค้าก็บอกว่า อยากให้ตรงนี้มีประสาน เราก็ได้ คิด line ประสาน
อ๊อฟ จิกกะบาล : คิดเองเลย เพลงแต่งเองด้วยไหมคะ
โรส ศิรินทิพย์ : ไม่ๆๆๆๆ พูดไม่ได้เลย ภาษาฝรั่งเศส บองชู เนี่ย เพื่อนก็ร้องแล้วผิดคีย์ทุกที โรสก็ไปร้องด้วยในห้องอัด แล้วพอไปประกวด คุณครูก็บอกให้ไปร้องด้วย ซึ่งตอนนั้นโรสไม่ได้เลยประกวด ขี้อายมาก แล้วตอนนั้นร้องเป็นหมู่ คุณครูดันคิดแบบมีท่าเต้นไง แล้วนึกสภาพ โรสอายมาก ไม่น่าให้เค้ารู้เลยว่าร้องเพลงได้ เศร้าใจมาก แล้วปีนั้นได้ที่เท่าไหร่ จำไม่ได้ละ แล้วพอ ม.6 พี่ที่เค้าร้องเดียวก็จบไปแล้ว เราก็เป็นรุ่นพี่สุดละ เราก็ คุณครูก็บอกว่า เธอร้องสิ เรารู้ว่าเราพอร้องเพลงได้ แต่เรารู้อีกเช่นกันว่า เมื่อเราขึ้นเวทีเราจบ เราเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในการประกวดมาก ครูก็แบบ ทำเพื่อครูหน่อยนะ เราได้ฟังเพลงแล้วเราก็ชอบ เลยก็ได้ ก็ซ้อม พอตอนไปประกวด ไม่สบาย แล้วเสียงแหบ ปกติ ท่อนฮุกเนี่ย ……………………… ต้องลากยาว ซึ่งเราป่วย ลากไม่ได้ เวลาเสียงแหบ เราจะต้องใช้ลมเยอะกว่าเดิม เป็นการช่วยชีวิตโรสด้วย เพราะว่าป่วย มั่นใจว่าไม่ได้อยุ่แล้ว สบายใจ เราไปเห็นคนก่อนหน้าเราร้อง เด็กโรงเรียน เซนต์โย หรือ มาแตร์ อะไรเทือกๆนั้น ซึ่งเค้าก็ร้องแบบ…………… คือเรา ในความคิดว่ามันโครตดี เจ๋ง มี ฟรุตเป่า มีเปียโนเลย เราคิดว่า เค้าคงได้เน้อ แล้วร้องแล้วมีลงไปกับพื้น ยิ่งทำให้ไม่เกรงใหญ่เลย เราก็ขึ้นไปร้อง หลับตาร้อง ยังคงเป็นลุคปัจจุบัน พอลงมาเพื่อนๆก็บอกว่า แก มีสาวกรี๊ด ๆ 11 นาฬิกา เราก็กร๊ดไรว้า ร้องไม่เห็นดีเลย ครูก็มาชมว่าทำดี เราก็แอ๊ะ เราว่าเราร้องไม่ดีอย่างที่เราคิด ประกาดผล มันจะมีรางวัลสูงสุด แล้วก็ 1 2 3 เราได้ที่ 1 เราก็อาจารย์ ใช้เส้นรึเปล่า
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วคนนั้นเค้าได้ไหม
โรส ศิรินทิพย์ : ไม่ได้ ตอนนั้นเราไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก เราแค่รู้สึกว่า เค้ากล้า เก่ง โน้นนี่ ก็เริ่มมั่นใจการประกวดนิดนึง แต่ต้องป่วยนะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : หลังจากนั้นมีอีกไหม
โรส ศิรินทิพย์ : ไม่มีแล้วนะ ก็มีของ มศว. ประกวดร้องเพลงของม. Draft of music เราก็อยากประกวดเพราะว่า ตอนนั้นเหมือนอัลบั้มทำอยู่ เราจะเป็นนักร้องแล้ว เราต้องฝึก เราก็เลยไปประกวด แล้วก็ร้องเพลงกลางคืนด้วย
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วเข้าวงการมาเป็นนักร้องได้ไง
โรส ศิรินทิพย์ : เจอ พี่ ฟั่น โกมล บุญเพียรผล เป็น producer ที่ grand เริ่มไปโบสถ์นี้เพราะว่าใกล้บ้าน แล้วก็มีศิลปิน มีดารา มีพี่ ปุ๊ อัญชลี เราก็แบบ พี่เค้าร้องเพลงเพราะมาก แล้วก็อยู่โบสถ์นี้สนุก เพื่อนเยอะ แล้วก็มีงานแต่งของคนที่โบสถ์ เราก็ไปเล่นเปียโน แล้วก้ร้องเพลงให้ ตอนพักเราก็ไปเล่นเปียโน ซึ่งเป็นเพลง คริสต์มาส ซึ่งเราชอบ เป็นภาษาอังกฤษ แล้วมีคนมาได้ยิน แล้วไปบอกพี่ฟั่นมา น้องคนนี้ร้องเพลงเพราะ แล้วก็เล่น เปียโน ได้ด้วย ซึ่งตอนนั้นเค้าจะทำ Musical ของโบสถ์ตอนปลายปี พี่ฟั่นก็ทำดนตรีให้ใหม่ แล้วก็ ไปร้องในห้องอัด เราคิดว่าเราก็ร้องเพลงได้นี่หว่า เพราะตอนนั้นเราคิดว่าการร้องเพลงในห้องอัด หรือทำอะไรต่อหน้าคนอื่น เราน่าจะเกร็ง แล้วทำได้ไม่ดี พอเราร้องเราก็รู้สึกว่าทำได้นะ เอาเสียงตัวเองมาฟังก็ชอบ พี่ฟั่นก็เอามาให้พี่ ดี้ ฟัง พี่ ดี้ บอกว่าเสียงมีเอกลักษณ์ เรียกเข้ามาคุย ตอนนั้นจำได้ ม.6 เล่นกีฬาเสร็จ เดินเข้ามาสะพายเป้ เสื้อก็ไม่ขาวแล้ว จำได้ตอนนั้นตึกยังอยู่ฝั่งตรงข้ามเลย เดินขึ้นไป เลขาก็มอง มาทำไรคะ จิกสุดฤทธิ์ เราก็มาหาพี่ฟั่นคะ เค้าก็ สักครู่นะคะ เค้าก็คุย สักพักก็หันมา เชิญคะ
พิธีกร รับเชิญ ตาล : เปลี่ยนไปเลย
โรส ศิรินทิพย์ : เราก็ ฮึ้ม ดีเน้อๆๆ เราเปิดเข้าไป เจอ พี่ producer เยอะมาก พี่นิ่ม พี่ฉาย ซึ่งตอนนั้น โรสฟังแต่เพลง ไม่เคยรู้จักคนเบื้องหลัง เดินเข้าไปก็งงๆ เดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงเพลงตัวเอง อยู่อีกฝั่งนึง พี่ฟั่นก็แนะนำ พี่ดี้ โรสจำได้ มองโรส แล้วหันไปฟังเพลง มองโรส แล้วหันไปฟังเพลง มองโรส แล้วหันไปฟังเพลง ถอนหายใจด้วยความหักใจมาก แล้วพี่ดี้บอกว่า พี่สนใจเสียง เสียงหน้าสนใจ แต่พี่ต้องใช้เวลาในการที่ adjust ให้ look เข้ากับเสียง คิดว่าน่าจะโต แล้ว แล้วก็ไม่ใช่เด็ก และ ยังไงแก่ก็ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ได้เลย น่าจะผมยาว สวย คือเสียงมันสวยไง แต่จะให้โอกาสได้เป็นนักร้อง แต่เดี๋ยวขอ ไปปรึกษากันก่อน จะอะไรยังไงดี จากนั้นพี่เค้าก็เริ่มป้อนงาน เริ่มไป คอรัสคนอื่นก่อน เริ่มร้องเพลงกลางคืน ไหนๆเราก็เล่นกีตาร์ได้ ได้ตังค์ ได้ฝึกด้วย การร้องเพลงกลางคืนช่วยโรสเยอะ จำได้จะมีบางคนบางโต๊ะ ที่มาแล้วมาพูดกับเราเลยว่า พี่ตั้งใจมาดูน้องเลยนะ เราปลื้มมาก เราชอบดูปฏิกิริยาของคน เวลาเราร้องแล้วเค้าหันมามอง แล้วตั้งใจฟัง เราชอบ เรารู้สึก สนุกจังเลย ทำให้คนหันมามองได้ เราจะดีใจทุกครั้งทีมีคนเดินเข้ามาคุยกับเรา ว่า น้องร้องเพลงดีพี่ชอบ เค้าไม่รู้ว่าเค้าทำให้เรารู้สึกดีแค่ไหน
อ๊อฟ จิกกะบาล : ทุกวันนี้ยังร้องเพลงกลางคืนอยู่ไหม
โรส ศิรินทิพย์ : 9 ที่อาทิตย์ละ ทั้งฝึก และเพื่อเงินด้วย
อ๊อฟ จิกกะบาล : ผลงานล่าสุดละ
โรส ศิรินทิพย์ : เพลงใหม่ล่าสัตว์ ตอนนี้ก็
อ๊อฟ จิกกะบาล : ล่าสุด
โรส ศิรินทิพย์ : ขอบคุณคะ ก็มีเธอทำให้ฉันคิดถึงแต่เธอ ร้องกับ พี่ปาล์ม instinct
อ๊อฟ จิกกะบาล : คนนี้ก็ สูง ปรี๊ดๆๆ อยู่
โรส ศิรินทิพย์ : คนนี้ range กว้างมาก เป็นอีกเหตุผลนึง ที่พี่ กฤษฏ์ กฤษณา วาริน เลือกมาให้ร่วมแจมส์ คือได้ร่วมงานกัน 2 ครั้งแล้ว ปีใหม่ๆ ก่อนหน้าเพลงนี้ พี่เค้าคงเอ็นดู พอเจอเพลงใหม่ๆที่เห็นว่าเพราะก็เลย ให้ โรสร้องดีกว่า สมหวังด้วย ปกติจะอกหักตลอดเวลา ก็อยากให้มี ผู้ชายมา feature ด้วย พี่เค้าสนิทกับ พี่ปาล์ม เป็น พี่น้องกัน เลยเรียกมาร้องด้วย เหตุผลที่ เสียงกว้างด้วย แล้วก็ชอบอกหักเหมือนกัน ก็เลยให้มาสมหวังด้วยกัน โรสก็ว่าลงตัวดี พี่ปาล์ม ร้องได้ดีมาก สำหรับเพลงสมหวังเพลงแรกของเค้า
อ๊อฟ จิกกะบาล : ชื่นชมพี่ ปาล์ม เป็นพิเศษอยู่แล้วไหม
โรส ศิรินทิพย์ : เค้าเลือกมาให้ จริงๆ ชอบ พี่ปาล์มตั้งแต่ตอนเด็กๆ พี่ปาล์มก็จะ กระทุ้งทุกทีว่าฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้น
อ๊อฟ จิกกะบาล : ชอบพี่ปาล์ม ตั้งแต่ สมัยวง girl
โรส ศิรินทิพย์ : ใช่ ตอนนั้นเราอยู่ ม.ปลาย แล้วละ พี่อั๋นเหมือนกัน เนี่ยโรสชอบพี่อั๋น ตั้งแต่ม.ต้น
อ๊อฟ จิกกะบาล : เล่นเครื่องดนตรีได้เยอะอยุ่ มีอะไรเล่นไม่ได้บ้าง กลอง กีตาร์ เบส เปียโน
โรส ศิรินทิพย์ : เล่นได้แต่เล่นเก่ง ไม่เหมือนกัน
อ๊อฟ จิกกะบาล : แต่เล่นได้ทุกอย่าง ทั้งวงเล่นคนเดียวก็ได้
โรส ศิรินทิพย์ : เล่นได้ คือ เป็นคนที่มีพื้นฐาน ทุกคนที่มีพื้นฐานทางดนตรีทำได้ จริงๆ โรสว่า เปียโนเป็นพื้นฐานของทุกอย่างได้นะ ถ้านับเป็น เกรด โรสเรียนถึง ป.3 เองนะ ถ้าอย่าง โต๋ เป็นระดับ โลก เลยนะ คือเด็กบางคนเล่นเก่งกว่า โรส คือ โรสเล่นในโบสถ์ บางเพลงอาจจะเป็น 100 ปี แล้วก็ได้ คือ มันจะเปลี่ยนไปได้ตามที่เราต้องการ นั่นทำให้เราเล่นดนตรีโดนคิดเองว่า อยากให้ คอร์ดต่อไปเป็นยังไง ว่า อะไรยังไง จากนั้นก็เริ่มเข้าใจพื้นฐานทางดนตรี โดยที่เริ่มเล่นได้โดยที่ไม่ต้องดูคอร์ด
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วผลงานตัวเองมีได้ไปมีส่วนร่วมอะไรบ้างไหม
โรส ศิรินทิพย์ : ชุดแรกมีได้แต่งเนื้อเพลงนึง คือเพลงของฉัน อย่างอื่นไม่ได้ทำเพราะว่า ไม่กล้าทำ ยังไม่กล้า เพราะเราฟังเองแล้วยังไม่ดี ฟังแล้วอาย เป็นคนที่ชอบฟังเพลงที่ไม่ simple เกินไป
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้ว เธอทำให้ฉันคิดถึงแต่เธอจะมีลงในอัลบั้มอะไรไหม
โรส ศิรินทิพย์ : อัลบั้มตอนนี้มีแล้ว เป็นรวม ชื่อ อัลบั้ม hot single ตอนแรกกะทำให้ download อย่างเดียว แต่ตอนนี้เป็น CD แล้ วถ้าใครที่อยากได้ไปฟังในรถดีใจด้วยมีแล้วนะคะ มีหลายเพลงที่หน้าสนใจด้วย ส่วนปีใหม่ๆ ตอนนี้มี 2 version แหนะ ถ้าที่ได้ยินในวิทยุทั่วไปจะอยู่ใน อัลบั้มชื่อ rose ดา ที่โรสอยู่ขวามือ ส่วนดาเป็นไฟไฟ ส่วน อีก version เป็น CD หนาๆหน่อย มี 2 แผ่น ในอันเดียว มี 2 ชุด ชุดนึงจะเหมือนรูปเปีนโน อัลบั้ม จะมี สีเขียว กับ สีแดง
อ๊อฟ จิกกะบาล : โรส อยู่สีอะไร
โรส ศิรินทิพย์ : สีเขียว แต่ทั้ง 2 อัลบั้มมีแต่เพลงเพราะๆทั้งนั้นเลย โรสฟังแล้วชอบทีเดียว เพราะว่าเสียงร้องยังเป็นเสียงร้องของนักร้องคนนั้นๆ ส่วนดนตรีเปลี่ยนใหม่ ถ้าอยากฟังเพลง ปีใหม่ๆ ส่วนเพลงอื่นๆลองดุในอัลบั้ม 2 อัลบั้มเนี่ย มันเพราะ แล้วได้อีกอารมณ์นึง recommended
อ๊อฟ จิกกะบาล : อัลบั้มต่อไปละ
โรส ศิรินทิพย์ : อาจจะอีกสักเพลง -2 เพลง คงต้องถึงเวลารวมสักที
อ๊อฟ จิกกะบาล : ได้ข่าวว่ามีแฟนคลับเป็น ญี่ปุ่นด้วยอ่ะ คุยกับเค้ารู้เรื่องไหม
โรส ศิรินทิพย์ : มีบ้าง ไม่รู้เรื่อง พยามถามเค้าก็รู้ว่า เค้ามาเจอได้ยังไง เหมือนครั้งแรกเจอกันที่กรีน เวฟ เราก็ โอ้ พูดอะไรก็ไม่ได้ เคยไปญี่ปุ่นทีนึง คุณ ทานิมูระ เป็นเจ้าของเพลง ซูบารุ คือคนรุ่นเราไม่ค่อยรู้จัก โรสก็ไม่รู้จัก มีคนไทยเอามาร้องด้วยอ่ะ เพลงดาวลูกไก่อะไรสักอย่าง เค้าเป็นคนที่ไม่ต้องทำอะไรเลยนะ ได้รายได้ปีละ 30 ล้าน ค่าลิขสิทธ์ เค้าเป็นคนที่คนทั้งญี่ปุ่นรู้จัก เค้าอยากทำ คอนเสิร์ตที่ รวมศิลปินในเอเชีย แกรมมี่ก็ส่งไป เค้าก็ฟังแล้วเลือก โรส พี่เค้าก็ถามว่า ถ้าโรสไปไม่ได้จะเอาใครไหม เค้าก็บอกไม่เอา เอาโรส เราก็รู้สึกต้องไป ตื่นเต้นมาก คนญี่ปุ่นเป็นคนน่ารัก เค้า ไฮๆๆๆ ตลอด คุณ ทานิมูระ ครั้งแรกที่เค้าเจอ โรส เค้าเดินมาจับมือ แล้วมองตาแล้วบอกว่า ขอบคุณมากนะครับที่มา เค้าไม่ใช่ว่าแค่ให้เกียรติเรา หลายคนที่มีทุกอย่างเท่าที่เค้ามีไม่พูดจากกับคนที่ด้อยกว่าแบบนี้ แล้วเค้าก็แนะนำโรสกับคนอื่นว่า โรสจากประเทศไทยนะ ร้องเพลงดี
อ๊อฟ จิกกะบาล : พองเลยทีเดียว
โรส ศิรินทิพย์ : อึ่งอ่างเลย เค้าน่ารักมาก เมืองไทย นักร้องส่งคนดู แต่ที่โน้น เค้าส่งจริงๆ ถ้าเราไม่เข้า เค้าก็ไม่ไปอ่ะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : เราไปดู พี่โรส วาดเสื้อก่อนนะ
โรส ศิรินทิพย์ : มือโรสเอง ใหญ่มาก พิสูจน์ว่ามือโรสจริงๆ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ข้างหลังมี website ด้วย
โรส ศิรินทิพย์ : รักโลก รัก โรส รักจิกกะบาล
อ๊อฟ จิกกะบาล : ถ้าใครอยากได้เสื้อตัวนี้นะ ก็ส่ง comment เข้ามาที่ comment @jiggaban.com นะ เราจะให้พี่โรสช่วยเลือกให้
โรส ศิรินทิพย์ : เขียนลายเนี่ย เพราะว่าช่วงนี้กำลังรักโลก เพราะว่า เพิ่งดูหนัง inconvenient truth แล้วรู้สึกว่าโลกเราไม่ไหวแล้ว แต่ยังไม่รู้จะทำยังไง ที่จะช่วยโลก www.rosefanclub.com อยากรู้อะไรก็ไปดูได้ที่นี่เลย โรสจะชอบเข้าไปเล่าเรื่อง อยากรู้อะไรก็ถามได้ โรสจะเข้าไปตอบเอง
อ๊อฟ จิกกะบาล : เข้าบ่อยมาก ไหม
โรส ศิรินทิพย์ : ก็เนี่ยเดี๋ยวก็ไปเข้าแล้ว
อ๊อฟ จิกกะบาล : วันนี้เราก้ต้องขอ ขอบคุณ พี่โรสมากๆๆเลย แล้วเจอกันใหม่นะคะ
สวัสดี บ๊าย บาย
Facebook Comments