สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกแล้วกับรายการ จิกกะบาล Talk show สบายๆ สไตล์จิกกะบาล แขกรับเชิญของเราวันนี้พิเศษอีกแล้วนะครับ ตอนนี้ดังมาก ประเทศนี้เรียกว่าไม่มีใครไม่รู้จักเค้าแล้วครับ มาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ My way พี่เอ็ม The star หรือ เอ็ม อรรถพล นั่นเอง

เอ็ม อรรถพล : สวัสดีครับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : คือถ้าใครดูพี่เอ็มอยู่ตอนนี้นะคะ ถ้าเห็นว่าหล่อแค่ไหนนะคะ บวก 3 ค่ะ
พี จิกกะบาล : เต็มสิบ ต้องบอกก่อนว่าเต็มสิบ
อ๊อฟ จิกกะบาล : เต็มสิบค่ะเต็มสิบ ให้กี่แต้มเนี่ยบวกไปอีก 3 คือกล้องมันหลอกค่ะ คือหน้าตาพี่เค้าดีกว่านั้นเยอะ
เอ็ม อรรถพล : เต็มร้อยบวกอีก 3 ไปเลยนะฮะ
ทุกคนหัวเราะ
เอ็ม อรรถพล : ชื่ออะไรครับ ชื่ออะไร
พี จิกกะบาล : อ้อ ชื่อพี คับ
เอ็ม อรรถพล : ชื่ออะไรครับ ชื่ออะไร
อ๊อฟ จิกกะบาล : ชื่ออ๊อฟค่ะ
เอ็ม อรรถพล : ยินดีที่ได้รู้จักครับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : เราอ. อ่าง เหมือนกันนะคะ
เอ็ม อรรถพล : พ. พาน ไม่ค่อยดี
อ๊อฟ จิกกะบาล : นอกพวกนี่ นี่นอกพวก
เอ็ม อรรถพล : เอาพิธีกรอีกคนนึงเอาอ.อ่าง มาอีกคน อ.อ่าง อี
พี จิกกะบาล : น้องอี นะ เรียกผมว่าอีละกันนะครับ
เอ็ม อรรถพล : พี ถูกแล้ว
อ๊อฟ จิกกะบาล : เค้าคงรู้กันหมดแล้วเนอะว่ามาจากไหน
เอ็ม อรรถพล : คนที่ไม่รู้ก็มี
อ๊อฟ จิกกะบาล : เหรอ พี่ไม่ได้ชื่อ เอ็ม The starเหรอคะ ชื่อและนามสกุล
เอ็ม อรรถพล : บางคนอาจจะไม่เคยดู The star ก็ได้

อ๊อฟ จิกกะบาล : อ๋อ แล้วเค้าก็จะคิดว่าพี่ชื่อ เอ็ม นามสกุล The star
เอ็ม อรรถพล : เอ็ม AF อะไรยังงี๊รึเปล่า
พี จิกกะบาล : ไม่ใช่แล้วคับ
เอ็ม อรรถพล : ผิดงาน (หัวเราะ)
เอ็ม อรรถพล : เอ็ม The star ก็มีคนรู้จักแล้วก็มีคนรู้จักแต่ แต่ เอ็ม The star ไง ไม่รู้จัก เอ็ม อรรถพล ความจริงผมอยากให้เรียก เอ็ม อรรถพล
อ๊อฟ จิกกะบาล : มันดูเป็นตัวเองจริงๆ ใช่มะ
เอ็ม อรรถพล : ช่าย คือ The star นี่มันก็หลายคนไง
อ๊อฟ จิกกะบาล : มันไม่มี เอ็ม The star สองคนซะหน่อย
เอ็ม อรรถพล : เออ เนาะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : คือมันไม่ต้องมีแบบว่า เอ็ม The star season 1 อะไรยังเงี๊ยซะหน่อย
เอ็ม อรรถพล : เดี๋ยวมี season 4 เผื่อมีชื่อ เอ็ม อีก
อ๊อฟ จิกกะบาล : เดี๋ยวเราย้อนไปอีก
เอ็ม อรรถพล : นานมั้ย
อ๊อฟ จิกกะบาล : นาน พอสมควร
เอ็ม อรรถพล : ถ้านานเกินไปจำไม่ได้
พี จิกกะบาล : ตอนนั้นที่พึ่งลืมตาเห็นโลกครั้งแรกพี่คิดยังไงบ้างคับ
เอ็ม อรรถพล : โห ออกแนวซุปเปอร์ไซย่ามาก
ทุกคนหัวเราะ

เอ็ม อรรถพล : ตอนเด็กๆนี่จะ คือชอบร้องเพลงแต่ว่าไม่ได้แบบจริงจัง ไม่ได้แบบว่าต้องไปเรียน ต้องไปฝึกร้อง ได้ยินเพลงก็ร้องตามฮัมตาม
อ๊อฟ จิกกะบาล : ตอนนั้นอยากเป็นอะไรคะ นักแสดง?
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่ เด็กๆเลนะ อยากเป็นจิตรกร วาดรูปอะไรเงี้ย เคยไปเรียนด้วย
พี จิกกะบาล : ที่ผมช๊อคไปแล้วเนี่ย คือเห็นฝีมือการวาดเสื้อแล้วแบบ อยากเป็นจิตกรเหรอเนี่ย
ทุกคนหัวเราะ
พี จิกกะบาล : เดี๋ยวได้ดูกัน
อ๊อฟ จิกกะบาล : เราไม่พูดอะไรเลยนะ เพราะเราถือว่าพี่เค้าหน้าตาดี
เอ็ม อรรถพล : โอเค จบรายการแล้วครับ (สวัสดี)
พี จิกกะบาล : ยัง
เอ็ม อรรถพล : คือไปเรียนวิจิตรศิลป์ สอบเข้าติดด้วยนะ แล้วก็เข้าไปเรียนก็ ไม่รอดอะ เพราะว่า
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่มีไม้ทีกับเค้า
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่
อ๊อฟ จิกกะบาล : สู้ใครเค้าไม่ได้
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่ คือ พอไปเรียนแล้วมัน เราสมาธิไม่ดี ไม่เยอะ อาจารย์สั่งงานแล้วก็ให้เราทำงานอะ 7 ชั่วโมง คือตอนนั้นก็เล่นกีฬาด้วยเล่นบาส ก็ติดเล่นบาสเวลาอาจารย์สั่งเสร็จ นั่งวาด วาดได้แป๊บก็เบื่อ ไปเล่นบาส ก็เลยเปลี่ยนวิชาที่เรียน
พี จิกกะบาล : ไปเป็น?
เอ็ม อรรถพล : ไปเป็นทางคอมพิวเตอร์แทน ก็หาอะไรที่มันง่ายๆกับตัวเองไว้ก่อน เราชอบเล่นคอมอยู่แล้วคับ เล่นเกมเล่นคอมตั้งแต่เด็กอยู่แล้วอะคับ
พี จิกกะบาล : ไม่ว่าจะใช้เล่นเกม เล่น MSN ดูหนัง คล่องมาก
อ๊อฟ จิกกะบาล : เดี๋ยวๆๆ ตั้งแต่เด็กสมัยนั้นแสดงว่ามัน อะไรนะ RU RW
เอ็ม อรรถพล : อ้าๆๆ ราชวิถี เวิร์ดราชวิถี เคยเขียนโปรแกรม Dos เขียนด้วย เขียน Javascript อะไรยังเงี้ย เขียนได้แต่ต้องมีหนังสือ ตอนนี้ลืมไปแล้ว
อ๊อฟ จิกกะบาล : ก็ยังไม่มีสายดนตรีอยู่ดีอะ
เอ็ม อรรถพล : ช่ายไม่เกี่ยวข้องเลยนะ แต่เดี๋ยวต้องเหล้าก่อน ตอนมัธยม เอ้ย ไม่ใช่ ช่วงมัธยมปลาย ก็ไปตั้งวงกับเพื่อน ตั้งวงเล่นดนตรี
พี จิกกะบาล : ด้วยความที่ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว?
เอ็ม อรรถพล : ใช่
พี จิกกะบาล : อยู่ในวงทำอะไรครับ กีต้าร์ เปียโน
เอ็ม อรรถพล : ป่าว ตีกลอง อยู่ข้างหลังเลย
อ๊อฟ จิกกะบาล : เรียนปะคะ
เอ็ม อรรถพล : ไม่เรียนคับ เป็นเด็ก คือความจริงเป็นคนขี้อายนะ เวลาแสดงออกไม่ค่อยแสดงออก
อ๊อฟ จิกกะบาล : พี่เอากลองบังหน้าเหรอคะ
เอ็ม อรรถพล : ใช่ ก็เลยเลือกกลอง แล้วก็เวลาตีเนี่ย ก็เอา แฉ เฉอ มาบังหน้าหมดแล้วก็ตี ไม่ใช่!!!
เอ็ม อรรถพล : เคยไปดูคอนเสิร์ตของ X Japan ชอบครับ

พี จิกกะบาล : เค้าชื่ออะไรนะ
เอ็ม อรรถพล : โยชิกิ ถอดเสื้อตีแล้วแบบ ตีมันส์มาก ก็เลยชอบก็เลยอยากตีกลอง
อ๊อฟ จิกกะบาล : อยากถอดเสื้อตีบ้าง
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่ ตอนนั้นไปยังไม่มีวง เราก็เฮ้ยไปซ้อมกับใครดีหว่า ก็เลยไปเช่าห้องซ้อมคนเดียวเลย
พี จิกกะบาล : ฮ้า
เอ็ม อรรถพล : ไปคนเดียว ไปตีกลอง ดนตรีก็ไม่มี ไปตีเอง
อ๊อฟ จิกกะบาล : อ๋อ คืออุปกรณ์อื่นเนี่ย
พี จิกกะบาล : มันเล่นได้ที่บ้านไง
เอ็ม อรรถพล : กลองจะไปตีที่บ้านเดี๋ยวข้างบ้านเค้าเขวี้ยงมาเต็มเลย เลยมารู้จักกับเพื่อนที่อยู่ ที่เรียนด้วยกันเนี่ยแหละ แล้วก็ดูว่าเอ๊ะ ไอ้นี่ชอบกีต้าร์ ไอ้นี่เบส โอเคก็ชวนมันมา ก็เลยมารวมกัน
เอ็ม อรรถพล : อยู่มาวันหนึ่ง เหมือนนิทานเลย อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีเค้าเรียกว่า เหมือนโชคชะตา ฟ้าลิขิต ไปหาเพื่อน เพื่อนเราเป็นแดนเซอร์ที่นึง ผู้ชายนะ เพื่อนผู้ชาย มันไปบอกพี่นักร้องที่ร้านนะ บอกว่า เฮ้ย เพื่อนผมมันชอบร้องเพลงพี่ เดี๋ยวแกล้งมันหน่อย ให้มันร้องหลังเวทีแหละ แต่ว่าพี่ขึ้นไปลิปซิงค์เสียงมัน
เอ็ม อรรถพล : ตอนนั้นร้องเพลง สัญญาเมื่อสายันห์ จากปากช่องมา… เค้าก็งับปากตาม แต่นักดนตรีก็งงเฮ้ยใครวะ พอร้องเสร็จ พี่ที่ร้านเค้าก็ชวนมาร้อง ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วมันขี้อายอยู่ไม่ใช่เหรอ
เอ็ม อรรถพล : ใช่ไง ตอนนั้นก็ขี้อายอยู่
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วขึ้นไปแล้วมันแบบว่า
เอ็ม อรรถพล : โห ตอนนั้นก็ ตอนแรกๆก็ร้องก็ไม่เป็นพุทราเลย สัปปะรด!!!
เอ็ม อรรถพล : ก็คิดว่าตัวเองอะร้องได้ แต่ว่า ต้องฝึกฝนหน่อยอะไรเงี้ย ก็ มันไม่ใช่อะไรหรอก ก็ได้ตังด้วย
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วอะไรดลใจให้แบบประกวดละกัน คือความอายกับการเข้าการประกวดนี่มันแบบ
พี จิกกะบาล : The star ออกทีวี ยังเงี้ย โอ้โหแบบ
เอ็ม อรรถพล : ตอนแรกเรา เราเห็นคือมัน ประกวดในห้อง มีกรรมการ 3 คน ไม่กลัว โห่ ธรรมดา
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่ได้คิดหลังจากนั้นเลย
เอ็ม อรรถพล : ไม่ได้คิด ปีแรกไปเลยครับ ชวนเพื่อนไป ตอนนั้นที่ร้านก็มีนะ มีจิ๋ว มีนิว เอ็ม เป็นนักร้องที่ร้าน cottage
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วมีใครเก็งมั้ยคะ ว่าใครจะได้
เอ็ม อรรถพล : ก็ตอนนั้นก็ จิ๋ว นิว ไม่ยอมไป ปีแรกเอ็ม ก็ชวน
อ๊อฟ จิกกะบาล : ป๋าดันนี่
เอ็ม อรรถพล : ป๋าดัน ไปเห๊อะ ไป The star เนี่ย ร้อง 30 วิ แป๊บเดียว สรุปคนชวนตกรอบก่อน
อ๊อฟ จิกกะบาล : แทบจะเอาไม้ตีหัวเพื่อน
เอ็ม อรรถพล : เฮ้อ ไม่น่าชวนมาเลย ไม่ใช่!!!
อ๊อฟ จิกกะบาล : ถ้าไม่มีสองคนนั้นนะ เข้าคู่ด้วยไง
เอ็ม อรรถพล : เออ นั่นสิ แล้วเหลือเราคนเดียว ก็แบบ โห ทำไมวะ เซ็ง คือเวลาเข้าไปในห้องจริงๆเนี่ยมัน ความกดดันมันเข้ามาอีก ทำให้สิ่งที่เราเตรียมตัวมาเนี่ย จาก 100 เหลือประมาณซัก
อ๊อฟ จิกกะบาล : 5
เอ็ม อรรถพล : น้อยไป!!! ซัก 60 70 อะไรยังเงี้ย
อ๊อฟ จิกกะบาล : The star ครั้งนั้นคือครั้งแรกที่เข้าการประกวดเลยปะ
เอ็ม อรรถพล : ใช่ เอ้ย ปล่าว ตอนนั้นมันมีอีก 1 ครั้ง ยังไม่ได้เล่าคือ การประกวดที่เชียงใหม่แหละ การประกวดแบบของคลื่นวิทยุ มันเป็นเรื่องแบบ…ที่ไม่น่าจดจำ
พี จิกกะบาล : ชอบนักไอ้เรื่องยังงี๊
เอ็ม อรรถพล : รอบแรก 150 คน เค้าก็ฟังแต่เสียง เราก็อัดจากเทป เพลงแรกเราก็ร้องนี่เลย เพื่อเธอตลอดไป พอผ่านเข้ารอบสิบคนเนี่ย ขึ้นเวที แล้วเตรียมเพลงช้าหนึ่งเพลง เพลงเร็วหนึ่งเพลง ตอนนั้น Backing Track เป็นเทป
พี จิกกะบาล : ยืด?
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่ยืด ยืดเหมือนกัน ยืดเยื้อ เพลงยืดเยื้อ
เอ็ม อรรถพล : พี่ไทอีกแล้ว ตอนนั้น รู้จักไม่เยอะไง แต่ยืดเยื้อเนี่ย เป็นเพลงที่ขึ้นด้วยเสียงร้องก่อน
พี จิกกะบาล : อ้า ซวย
เอ็ม อรรถพล : ซวย ขึ้นด้วยเสียงร้องที่แบบว่า ดนตรีต้องตามแล้ว แล้วเป็นเทปไง แล้วเราก็แบบ มันจะมีขาวๆใช่มั้ย เราก็หมุนมาโอเคตรงนี้นะ แล้วก็ไปนัดกับพี่ sound engineer บอกพี่นะ พอผมร้อง “จะไม่แค้น” แค้นแล้วพี่กดนะ พอขึ้นไป เค้าก็โอเค ก็โอเคพี่ “จะไม่แค้น” ยังไม่มา “เคืองจะไม่…” พึ่งจะกดมา ท่อนนั้นก็ตะครุบ ทีนี้ยืนเกร็งเลย ยืนแบบเหงื่อตกเลยครับ แบบว่าคนดูก็ ตอนนั้นเราไม่รู้ หูอื้อ ตาพร่ามัว มองหน้าเวทีนี่แบบจำอะไรไม่ได้เลย คือได้แต่ร้องอะ ร้องไป ร้องๆๆจบ ลงมาเพื่อนบอก เฮ้ย มึงเป็นไรวะ ยืนแข็งทื่อเลย ไม่ก้าวไปไหน ไม่หันซ้ายหันขวา
พี จิกกะบาล : แล้วเพลงเร็วล่ะคับพี่
เอ็ม อรรถพล : เพลงเร็ว พี่ไทอีกแล้ว
พี จิกกะบาล : ประเทือง?
เอ็ม อรรถพล : ใช่แล้ว
ทุกคนหัวเราะ
เอ็ม อรรถพล : เป็นไง
พี จิกกะบาล : ชุดเดียวกันนี่
เอ็ม อรรถพล : ซื้อเทปมาม้วนเดียว เลยไม่รู้จะเลือกเพลงอะไร ก็ไม่รู้ อะ ก็ประเทืองละกัน ไม่ต้องออกสเต็ป อาศัยโดด จำจากใน MV มา เค้าโดดกัน ก็โดดตามเค้า แล้วร้องเพลงก็ไม่ได้มองหน้ากรรมกง กรรมการ คนดูไม่มอง โดดหมุนตัวไป หมุนแบบ กระโดดหมุนเลยอะ
พี จิกกะบาล : 360 องศา
เอ็ม อรรถพล : เออ ยังงั้นเลย ลงไปนอนกลิ้งเลย
อ๊อฟ จิกกะบาล : เต็มที่มากไง
เอ็ม อรรถพล : เต็มที่มาก แล้วสรุป ไม่ได้รางวัลอะไรเลย ไม่ได้อะไรเลย ตกรอบ
เอ็ม อรรถพล : ตอนนั้นที่ไปประกวดมี คนที่เข้าประกวด The star อยู่ประมาณ 5 แล้วอะ มี เอ็ม มี จิ๋ว มี นิว แล้วมีอีก 2 คนที่เข้ารอบ 20 คนของปีแรก เป็นประสบการณ์ที่ ไม่อยากประกวดอีกต่อไป
เอ็ม อรรถพล : ก็ร้องเพลงประจำ เรียนไปด้วย ทำงี๊อยู่ประมาณ 3 – 4 ปี ก็คือเราก็พอหลังจากร้องเพลงเสร็จ เราก็ไม่ได้ขอตังค์แม่ นี่ เราได้เงินเดือนครั้งแรกก็ 8000 บาท
อ๊อฟ จิกกะบาล : ส่งซองทั้งซองให้แม่
เอ็ม อรรถพล : ไม่ ซื้อนาฬิกาให้แม่ 200 บาท ไม่ใช่!!! ถูกไป
อ๊อฟ จิกกะบาล : แค่นี้ก็สุดยอดแล้วนะ 2 เวทีแล้วชนะเลย คือแบบจาก ตกรอบ ตกรอบ ที่หนึ่ง คือช่วงปีนั้นพี่ไปทำอะไรกับชีวิตมาคะ
เอ็ม อรรถพล : บอกตรงๆว่าตอนแรกเนี่ย ประมาทมาก คิดว่าร้องเนี่ยเรา เราร้องประจำอยู่แล้ว แต่วันนั้นเนี่ย 1 ที่มันพลาดนะ ทำงานเลิกตีสอง นอนก็เกือบตีสี่ละ หู ตื่นเต้นนอนไม่หลับอีก กว่าจะนอนหลับใช่ปะ แล้วต้องมาเข้าคิว 8 – 9 โมง นอนเป็นเวลาซักแบบ 2 ชม. เอง 2 – 3 ชม. แล้วก็ต้องนั่งรอ กว่าจะได้เข้า audition เนี่ยประมาณบ่ายสอง หลับแล้วหลับอีก ตอนเข้าไปก็ไม่ได้วอร์มก็นั่งรอ ถึงเวลาก็เข้าไปร้อง เจอบรรยากาศก็อะไร เสียงแหบอีก น้ำก็ไม่ได้กิน คอแหบ คือร้องแบบพลาดหมดเลย ร้องไม่ค่อยดี
อ๊อฟ จิกกะบาล : ก็เรียกว่ารู้ตัวนิดๆ ตอนนั้นแล้ว
เอ็ม อรรถพล : ใช่ ก็หลังจากนั้นเราก็ไปเตรียมตัวให้ดี ก่อนไปประกวดเราก็ไปลางานหนึ่งวัน
อ๊อฟ จิกกะบาล : อ๋อ สรุปว่าที่ได้มาเนี่ยคือทำแค่นั้น ลางาน นอนไม่หลับ เอาน้ำไปกินด้วย อะไรยังงี๊ แค่นี้เอง
เอ็ม อรรถพล : ก็ไปฝึกร้องมาด้วย เราได้คอมเมนท์ที่ดีจากปีแรกด้วยแหละ คือว่า การร้องเราต้องสื่อสารให้คนฟังได้ ได้เข้าใจถึงอารมณ์ที่จริงๆ แล้วก็ไม่ต้องเหมือนศิลปิน เสียงที่เป็นเสียงของเราเอง อะไรยังเงี้ย เราก็ต้องหาเสียงของเราให้เจอ เป็นนักการเมือง
พี จิกกะบาล : เค้าพึ่งเลือกกันเสร็จนะ
เอ็ม อรรถพล : ที่ได้ใบแดง เอ้า ไม่ใช่
อ๊อฟ จิกกะบาล : อันตรายเดี๋ยวโดน อ้ะ My way
เอ็ม อรรถพล : โห ข้ามมากเลยนะ
พี จิกกะบาล : ชุดที่เท่าไหร่แล้วคับ My way
เอ็ม อรรถพล : ชุด ชุด (ก้มมองชุดที่ตัวเองใส่)
พี จิกกะบาล : ไม่ใช่ชุดนี้คับ อัลบั้มชุดใหม่
เอ็ม อรรถพล : ชุดที่ 3 คับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : วันนี้นะคะ ดีเจสยามหมดแล้วนะคะ
เอ็ม อรรถพล : อะไรคับ ชุดไหน
อ๊อฟ จิกกะบาล : My way ของ Ebola ไม่ใช่!!! ของพี่เอ็มนี่แหละ หมดแล้ว ชื่อมันมาจากไหนอะคะ
เอ็ม อรรถพล : ชื่อมาจากที่เรา คือ อันแรก เนี่ย คือชอบแข่งรถ
อ๊อฟ จิกกะบาล : อื้ม เนี่ยได้ข่าวว่าเอาไปเทียบกับรถแข่งอะไรเงี้ย
เอ็ม อรรถพล : ใช่ มันเหมือนการขับรถอะ คือเอ็มไปแข่งรถเนี่ย มันจะ ตั้งใจมากไง
อ๊อฟ จิกกะบาล : ชีวิตเราฝากไว้บนยาง
เอ็ม อรรถพล : ไม่ คือเวลาแข่งรถมันรู้สึกตื่นเต้นอะ ตื่นเต้นแล้วแบบ อะดรีนาลีนมันพุ่ง ฟิ้ว อยากทำอะไรยังเงี้ย ก็เลยรู้สึกว่าการแข่งรถก็เหมือนการร้องเพลง ในบางเรื่อง อย่างการมีสมาธิก็ใช่ การร้องเพลงก็ต้องมีสมาธิ แล้วก็ฝึกฝน ก็เหมือนกันต้องฝึกฝน แล้วก็การขับรถก็เจอทั้งอุปสรรค ร้องเพลงก็เจออุปสรรค ก็เลยเอามาเกี่ยวข้องกับการตั้งชื่ออัลบั้มแล้วก็ ชื่ออัลบั้มของเราเนี่ย อัลบั้มเอ็มเนี่ย จะเป็นแบบ อัลบั้มที่เพลงหลากหลายมาก จะไม่ได้มีแบบว่า Rock โทนเดียวทั้งอัลบั้มอะ ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าคนฟัง มาฟังเนี่ย แล้วรู้สึกว่า เอ๊ะ สรุปแล้วอัลบั้มนี้มันอะไรกันแน่ ก็เลยจะบอกว่านี่นะ My way เนี่ยเพลงที่เราชอบทำมันเป็นแบบนี้ ที่เราชอบร้องเป็นอย่างนี้ อ้า แบบนี้แหละคับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วถ้าพูดถึงแข่งรถ พี่เอ็มแข่งรถประเภทไหน ที่ชอบมากๆแข่งตั้งแต่เชียงใหม่เลยคือ jimkana
พี จิกกะบาล : มันเป็นยังไงคับ
เอ็ม อรรถพล : jimkana มันจะเป็นแข่งแบบ ใช้พื้นที่โล่งๆ แล้วก็เอากรวยมาตั้ง กำหนดเส้นทาง เหมือนเจ็ทสกีอะ กำหนดเส้นทางว่า จะให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา คือจะมีแฟนที่ให้ทุกคนแล้วก็กำหนดเส้นทางจากตรงนี้ วิ่งตาม ปล่อยทีละคัน ใครวิ่งเร็วที่สุด ทำเวลาได้น้อยที่สุด ก็ได้ที่หนึ่ง อีกอย่างคือ Circuit อยู่ในสนามเลย ไปแข่งมาแล้วด้วย ก็เป็นการแข่งที่ รู้สึกว่ามัน ตื่นเต้นมากมีทั้งตัวเอง แข่งกับตัวเอง แข่งกับคนอื่นรอบข้าง โหย ไหนจะแบบว่า รถเราต้อง คือต้องรู้รถ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ต้องรู้จักมันดีๆเลย
เอ็ม อรรถพล : อ้า ใช่ต้องรู้ว่ารถเราเนี่ย ขับเป็นยังไง ยังไง ต้องรู้ให้หมด แล้วก็มันเป็นสิ่งที่เราชอบตั้งแต่เด็กอะ ชอบดูเกี่ยวกับ ตอนเด็กๆนี่ชอบดู WRC รถแบบแข่งทางฝุ่น ชอบมาก เร็วมาก อันตรายด้วย เพราะแบบมัน บางที่นี่มีวิ่งอยู่งี๊ ข้างๆเป็นเหว เป็นเขาเลยอะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : อืม มันดูอันตรายแต่ดูแบบเหมือนไม่ค่อยเร็วไง
เอ็ม อรรถพล : ลองไปนั่งดูๆ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่มีใครขับให้อะ
เอ็ม อรรถพล : นั่งรถไต่ถังไปก่อนแล้วกัน จะได้หวาดเสียว
อ๊อฟ จิกกะบาล : ถ้าพี่เอ็มจะขับรถไต่ถังเราก็จะนั่ง
พี จิกกะบาล : จะได้กอดเอาไว้แน่นๆนะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ขอรถได้มั้ย มอไซนี่มันอันตรายไปนิดนึง พี่เอ็มขับก็ เอ่อ… ขอไปก่อน
เอ็ม อรรถพล : อาจจะไปด้วยกันเลยฮะ
เอ็ม อรรถพล : อีกอย่างนึงคือ Drift ชอบดู คือ ที่บ้านจะสะสมแผ่น DVD ของ Drift ญี่ปุ่น ยังอยากจะไป Drift อยู่เลยตอนนี้ เดี๋ยวถ้ามีเวลาว่าง
พี จิกกะบาล : แล้วตอนนี้ขับรถอะไรอยู่ครับ
เอ็ม อรรถพล : รถที่ใช้แข่งจะมีอยู่ 2 คัน คือรถฮอนด้า civic 3 ประตู ไม่แพง แต่งง่าย หาของแต่งได้ ก็ อีกคันเป็น Evolution มันก็จะเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อไง ก็แรงๆหน่อย อะไรเงี้ย แต่ว่าเดี๋ยวจะเปลี่ยนละ อยากเอาไปทำเป็นรถ Drift มั่ง ก็จะขาย มิตซูไป
อ๊อฟ จิกกะบาล : มีในใจรึยังว่าจะเป็นรถอะไร
เอ็ม อรรถพล : ก็ในใจผมก็มีหลายอย่าง ความจริงชอบ AE86 ของ Toyota รุ่นเก่ามาก เคยดูเรื่อง Initial D ปะ
พี จิกกะบาล : รถส่งเต้าหู้อะเหรอคับ
เอ็ม อรรถพล : อ้า นั่นแหละๆ ชอบมาก
อ๊อฟ จิกกะบาล : มีรถคู่ใจอยู่ถึง 3 คันเนี่ย แล้วมีสาวคู่กายรึยังคะ
เอ็ม อรรถพล : โอ้โห ถาม เป็นคำถามที่…
อ๊อฟ จิกกะบาล : ต้องมี 3 คนด้วยปะ
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่ละ คนคู่ใจเนี่ย แฟนใช่ปะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่ต้องคู่ใจก็ได้แค่นั่งๆรถไปด้วยกัน อะไรยังเงี๊ย
เอ็ม อรรถพล : ยังไม่มีอะคับ เบาะข้างๆจะเป็นเพื่อนหมดเลย
อ๊อฟ จิกกะบาล : ถอดออก?
เอ็ม อรรถพล : เอ้อ (หัวเราะ) ไม่ ก็คือ เออ… อะไรดีล่ะ ความจริงก็ทำงานอะ แล้วก็ส่วนมากจะติดเพื่อนอะ ผมอะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : แสดงว่าถ้าสมมติอยากเป็นแฟนพี่เอ็มเนี่ย ต้องสั่งให้เพื่อนเลิกคบ
พี จิกกะบาล : เฮ้ย ต้องเข้ากับเพื่อนๆให้ได้
เอ็ม อรรถพล : เอ้อ ยังงั้นดีกว่า
อ๊อฟ จิกกะบาล : อ๋อ
เอ็ม อรรถพล : ถ้าสั่งให้เลิกคบเพื่อนนี่ เลิกคบแฟนไปเลยนะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ชอบร้องเพลงหรือชอบขับรถมากกว่ากัน
เอ็ม อรรถพล : โห ตอบยาก
อ๊อฟ จิกกะบาล : มันไม่มีแบบนิ๊ดนึงเลยเหรอ นิดนึง
เอ็ม อรรถพล : เหมือน เหมือนถามว่าจะให้เลือกเพื่อนหรือเลือกแฟน เลือกยาก
อ๊อฟ จิกกะบาล : อ้าว เมื่อกี๊ เลือกเพื่อนแล้วนี่
เอ็ม อรรถพล : ก็ หมายถึงว่าถ้าให้เราเลือกจริงๆเนี่ย มันไม่ได้
อ๊อฟ จิกกะบาล : ก็เลยไม่มีมันซะยังงั้นน่ะ จะได้ไม่ต้องเลือก
เอ็ม อรรถพล : ก็เราเอางานร้องเพลงเป็นหลักครับ แล้วก็ใช้แข่งรถเนี่ยเป็นงานอดิเรก
อ๊อฟ จิกกะบาล : เรารู้มาอีกอย่างนึงว่าตอนนี้ พี่เค้าอินมากเลย เดินไปไหนมาไหนก็จะถือไปด้วยตลอดเวลา ไอ้เจ้าสิ่งนี้ ใครๆก็อิจฉาว่างั้นเถอะ
เอ็ม อรรถพล : มันคือสิ่งนี้นี่เอง (ทำเสียงเลียนแบบทีวีแชมเปี้ยน)
อ๊อฟ จิกกะบาล : ปกติคนบอกว่า อยากเป็นเสื้อพี่เอ็ม อยากเป็นอะไรยังงี๊ จะได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ตอนนี้เค้าจะเปลี่ยนแล้วนะคะ อยากเป็น Rubik พี่เอ็ม เพราะพี่เอ็มจะใส่ใจมันอยู่ตลอดเวลาว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหน
เอ็ม อรรถพล : มันอยู่ที่ไหน ๆ มันอยู่นี่เลย (เอื้อมไปหยิบรูบิค มาจากด้านล่าง)
พี จิกกะบาล : ไอ้นี่นะคับ เค้าเรียกว่า Rubik’s cube
เอ็ม อรรถพล : คือเคยอยากได้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วคับ แต่ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหน แล้วก็ไม่ได้แบบว่า ขวนขวายที่จะไปซื้อ แต่ว่า ก็พอมาเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว ก็มาเห็นพี่คนนึงเค้าเล่น เร็วมาก คือพี่กึ่ง(กึ่งยิงกึ่งผ่าน แห่ง etcband.net)นี่เอง เล่นแบบ ฟับๆๆๆ อุ้ย โหพี่ ยอดมนุษย์นี่หว่า เก่งอะไรยังเงี๊ย เราก็โอ้โห ตอนแรกเราก็คิดว่าเราเล่นไม่ได้หรอก เค้าก็แนะทริคมานิดนึงให้เรา เราก็เอ้ย ชักเริ่มสนใจ มันก็ทำได้นี่หว่า
อ๊อฟ จิกกะบาล : จริงๆแล้ว พี่เค้าเป็นเอเย่นต์ขายรูบิคนะคะ
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่!!!
อ๊อฟ จิกกะบาล : จริงๆแล้ว ลูกละ 50 บาท ขายลูกละ 400
เอ็ม อรรถพล : ขายเราแล้วเดี๋ยวเราจะได้เป็นสมาชิก แล้วก็ได้เงินปันผลกลับมา
พี จิกกะบาล : ต้องหาคนมาต่อข้างล่าง
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่แล้ว!!!
เอ็ม อรรถพล : แอบเนียนๆ แอบเนียนว่าวันนี้วันเกิดเรานะ พี่ให้ผมเถอะ เค้าก็เลยโอเคๆ ครั้งแรกเลยเล่นได้ประมาณ 3 นาทีกว่า ที่แบบลองจับเวลาดู
อ๊อฟ จิกกะบาล : ตอนนี้เหลือ 3 วิ?
เอ็ม อรรถพล : 3 วิ พังคับ แต่ว่าไม่ใช่คับ เล่นผมเล่นเนี่ย ก็ค่อยๆลดลงมาทีละประมาณ 10 – 20 วิ ตอนนี้ เหลือประมาณนาทีต้นๆ เคยฟลุ๊คได้แบบต่ำกว่านาที ก็ประมาณ 4 – 5 ครั้ง ก็เล่นอยู่เนี่ยคับ มันแล้วแต่ลาย บางทีลายมันง่าย ก็จะได้คับ หรือว่าเราแบบหมุนลงล๊อค เพราะบางทีมันมีแบบหมุนเลย หมุนอะไรยังเงี้ย ความจริงต้องมีฝึก finger อะไรนะ เค้าเรียกว่าอะไร เดี๋ยวนะ finger trick อะไรประมาณอย่างนี้ ปกติผมก็จะหมุนยังงี๊ ใช่มั้ยคับยังงี๊ ยังงี๊ (เอามือหมุนธรรมดา) แต่พี่กึ่งเค้าบอกว่าจะมียังงี๊ ใช้ดีดเอายังงี๊ ยังงี๊ ๖เอานิ้วเดียวเกี่ยวแต่ละด้าน) ทรานสมอเฟอร์ เอ้ย ทรานสฟอเมอร์ มันช่วยฆ่าเวลาได้ดี
อ๊อฟ จิกกะบาล : อะไรยังไง ไม่รู้นะคะ สาวๆก็อย่าอิจฉาไป เราจะแบบว่าขอล่วงเกินพี่เอ็มนิดนึง (จับมือพี่เอ็ม) โทดนะฮะ มีมือพอง เล่นกันจนมือพองเลยทีเดียวนะฮ้า
เอ็ม อรรถพล : ก็เล่นเนี่ยคับ ความจริงแล้ว นิ้วก้อยผมยังเจ็บอยู่ เพราะไปเล่นบาสมา แล้วแบบเหมือนกระดูกร้าวอะ แตก เวลาเล่นไอ้นี่เมื่อไหร่ มันก็จะบวมขึ้นมา แบบเล่นบ่อยๆ
อ๊อฟ จิกกะบาล : นี่คือเป็นตั้งนานแล้วเหรอคะ
เอ็ม อรรถพล : เดือนกว่าแล้วครับ ความจริงมันต้องไปเข้าเฝือก แต่เราขี้เกียจเข้า
พี จิกกะบาล : แล้วเดี๋ยวมันก็จะเป็นยังงี๊แหละคับ
เอ็ม อรรถพล : มันก็จะเขียวไปเรื่อยๆ ไม่หายซักที เนี่ยคับเวลางอนิ้วก็จะเจ็บ
อ๊อฟ จิกกะบาล : เดี๋ยวเราเข้าเฝือกให้นะคะ เดี๋ยวหาไม้อะไรดามให้นิดนึง แล้วก็แบบว่ามัดๆเหมือนในหนังจีน อะไรยังงี๊
เอ็ม อรรถพล : เอาผ้ามัดแล้วเอาไม้มาดาม ไม่เป็นไรคับ เดี๋ยวก็คงหายเอง
อ๊อฟ จิกกะบาล : มีคนเค้าท้ามาด้วยนะคะ
เอ็ม อรรถพล : ท้ามาด้วยเหรอคับ
(ดู VTR มือคนบิดรูบิค)
เอ็ม อรรถพล : นี่ใครคับ
พี จิกกะบาล : เรายังไม่บอกคับ
เอ็ม อรรถพล : ปึ๊บๆๆ อะ ปึ๊บๆๆ หมุนยังงี๊ ต้องเป็นอาจารย์แน่ๆ
พี จิกกะบาล : ต้องเป็นอาจารย์เลยเหรอ
เอ็ม อรรถพล : เสร็จแล้ว
อ๊อฟ จิกกะบาล : (ส่งรูบิค อีกอันนึงให้พี่เอ็ม)เค้าท้ามาค่ะ แต่เมื่อมีเป็นของตัวเองแล้วนั้น
เอ็ม อรรถพล : อันนี้ของใคร ไอ้หนึ่ง (หนึ่ง Etc) เหรอ โอเค (พร้อม)
อ๊อฟ จิกกะบาล : หนึ่ง สอง ซ่ำ
เอ็ม อรรถพล : (เริ่มนั่งปั่นรูบิค)
อ๊อฟ จิกกะบาล : ถ้าไม่ชนะ เดี๋ยวเรามีหยุดเวลาช่วย
อ๊อฟ จิกกะบาล : เรามีตัวช่วย ตัวช่วยที่หนึ่ง มือหยุดเวลา ตัวช่วยที่สอง พยาบาลนิ้วก้อยให้หาย
เอ็ม อรรถพล : โห เป็นรายการไอ้นี่เลยอะ เกมเศรษฐี
อ๊อฟ จิกกะบาล : ตัวช่วยที่สาม เลือกใครไม่ได้นอกจากพิธีกร
พี จิกกะบาล : ตายละ พี่เค้าต้องเลือกเราแน่เลย ทำยังไงดีเนี่ย
เอ็ม อรรถพล : โอ้โห่
อ๊อฟ จิกกะบาล : คือเราไม่เจาะจงไปมากกว่านั้น เพราะว่าค่อนข้างมั่นใจนิดนึง ว่าพี่เค้าคงยังไม่เปลี่ยนสี
พี จิกกะบาล : ใครจะไปรู้ คราวหน้าเค้าอาจจะเอาสีแดงออก(จากรูบิค) เอาสีม่วงมาแปะแทน
เอ็ม อรรถพล : ใช่ เอ้ย ไม่ใช่ละ
อ๊อฟ จิกกะบาล : อย่าทำยังงั้นสิคะ ทำร้ายจิตใจกันเกินไป
เอ็ม อรรถพล : เตรียมหยุดเวลาครับ คราวนี้ไม่แตกแล้ว
พี จิกกะบาล : เสร็จแล้ว (พี จิกกะบาล :4.06 นาที)
เอ็ม อรรถพล : สงสัยจะแพ้ครับ
พี จิกกะบาล : เมื่อกี๊ที่อ๊อฟกดไปนี่มันเท่าไหร่นะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่รู้เราก็มาดูว่าเค้าเป็นใคร
(เอาอันที่เล่นท้ามาเปิดอีกทีเป็นเวอร์ชั่น fast forward)
เอ็ม อรรถพล : โอ้โหๆ
พี จิกกะบาล : หมุนได้ขนาดนี้เลยเหรอ ไม่ใช่ละ เราเร่งเวลา
(ทุกคนหัวเราะ)
พี จิกกะบาล : ได้ขนาดนี้ก็ไม่ใช่คนแล้ว ….. 54 วินาที นะคับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : คิดว่าใครๆ
เอ็ม อรรถพล : ไอ้หนึ่งเหรอ
VTR
หนึ่ง Etc : เป็นไงครับ เอ็มได้กี่วิครับ
(เอ็ม อรรถพล : โห่ ฟลุ๊ค แน่นอน)
โซ่ Etc : เรานี่ถ่ายกันเพียงเทคเดียวนะคับ นี่เป็นแค่ลูกศิษย์ (ชี้ไปที่พี่หนึ่ง) อาจารย์อีก 3 ยังไม่ออกโรง (ชี้ไปที่ตัวเอง กับ พี่ โอเล่ พี่ บี Etc)
บี Etc : คนนี้อาจารย์ใหญ่ครับ (ตบไหล่พี่โอเล่)
โอเล่ Etc : ผมได้ 49 วิ
(Etc หัวเราะ)
(เอ็ม อรรถพล : อาจารย์ใหญ่นี่เล่นไม่เป็น)
โซ่ Etc : ได้ชั้นเดียวนะคับ 49 วิ
โอเล่ Etc : ท้าเลยนะ ท้าเลย
โซ่ Etc : พูดถึงเพื่อนเอ็มเป็นไงบ้าง เพื่อนเอ็ม
บี Etc : ก็เอ็มเป็นคนนิสัยใช้ได้คับ
โอเล่ Etc : ดีอะดี
โซ่ Etc : ผมว่าดีเลยอะ
(ทุกคนหัวเราะ)
หนึ่ง Etc : เริ่มไม่แน่ใจ
บี Etc : เป็นคนนิสัยดีมาก มีน้ำใจกับเพื่อน เนาะ
หนึ่ง Etc : ทำอะไรก็นึกถึงเพื่อนก่อน
โซ่ Etc : เรารู้จักกันมาประมาณ 5 – 6 ปีละ ตั้งแต่เราอยู่เชียงใหม่ด้วยกัน เมื่อก่อนเล่นอยู่วงเดียวกันที่ร้าน วงผับแล้วก็ เราก็มาออกเทป เอ็มก็ตามมา
โอเล่ Etc : แล้วก็ดังกว่า
หนึ่ง Etc : ใช่ ชุดแรกออก เรามาออกเทปก่อนอัลบั้มแรก แล้วเอ็มก็อยู่เชียงใหม่ ประกวดร้องเพลง เดอะ สตาร์ มีคำแนะนำอะไรก็โทรมาปรึกษาพวกเรา พอได้แชมป์ดังก่อนเราไปเลย ดังแล้วก็ตอนนี้เราปรึกษา ต้องให้มันปรึกษา เป็นไงบ้างพี่เอ็มครับ เพลงนี้เป็นไงบ้าง
โซ่ Etc : ก็ที่เราอยู่ที่นี่นะคับ Etc ก็จะอยู่ด้วยกัน ตอนนี้มินท์ไม่อยู่ มินท์ไป งานไส้อั่วโลก ที่เชียงใหม่นะคับ
โอเล่ Etc : ไปยัดไส้อั่ว
โซ่ Etc : ทีเนี้ย บ้านเราเนี่ยจะมีมาทำงานอะไรยังเงี้ย เล่นดนตรี ทำเพลงกัน เอ็มก็จะแวะมาเที่ยว มาช่วยฟังเพลง มาช่วยทำเพลงเนาะ ก็จะมาเยี่ยมกันบ่อย จะเป็นแก๊งคนเชียงใหม่ มี Etc มีเอ็ม ก็ขอให้เป็นเพื่อนที่น่ารักยังงี๊ตลอดไปนะคับ มีน้ำใจกับเพื่อนแล้วก็ อะ ต่อคับ
โอเล่ Etc : แบ่งปันเพื่อนฝูงไปเรื่อยๆ เป็นคนที่ถ้ามีพันจะให้พัน มีหมื่นก็ให้หมื่น ให้หมดเลย ยกให้ทั้งใจเลย
หนึ่ง Etc : เอ็มเป็นคนดีมากคับ รักเพื่อนเป็นที่หนึ่งแล้วก็ Happy birthday เฮ้ย วันนี้วันเกิดปะ ใช่วันเกิดปะ
โซ่ Etc : ใช่ๆ
(เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่)
หนึ่ง Etc : ใช่ปะน้องอ๊อฟ ไม่ใช่เหรอ อ๋อ ก็ happy birthday ล่วงหน้าไปเลย
(Etc หัวเราะ)
หนึ่ง Etc : ก็เป็นเพื่อนที่น่ารัก เราแบบเดินทางไปสายดนตรีด้วยกันนะ น่าจะอยู่กันไปนานๆ เพื่อให้คนฟังทั่วประเทศได้มีความสุขกับบทเพลงของพวกเรา
บี Etc : แล้วก็ขอให้… แค่เนี้ย
(Etc หัวเราะ)
หนึ่ง Etc : รู้กันๆ
โซ่ Etc : ก็ชุดที่สามแล้วนะคับ พวกเราก็ได้ไปช่วยทำงานด้วยนะคับ ไปอัดเสียงไปแต่งเพลงให้ ผม
หนึ่ง Etc : โซ่แต่งไปกี่เพลง
โซ่ Etc : ผมอัดเสียงไว้แล้วก็แต่งไป 1 เพลง
หนึ่ง Etc : ผมไปทำดนตรีให้ 1 เพลง แต่งทำนอง แล้วก็ เรียบเรียง แล้วก็มีพี่ ปิง (am pm) ปิงเพื่อนเรา ที่เขียนเพลงให้กับเราไป เขียนทำนองให้เค้าหนึ่งเพลง ก็อัลบั้มแรกก็ได้ทำให้เอ็ม ก็มีโอกาสก็ช่วยเหลือกันตลอดเวลา แล้วอัลบั้มที่สามก็เพลงเพราะเยอะ แล้วก็เอ็มมีความเป็นตัวเองมากขึ้น ชัดเจนมากขึ้น เห็นคนฟังหลายๆคน เห็นกระแส วิจารณ์อะไรเงี้ย คนพูดถึงในแง่ที่ดี สำหรับอัลบั้มนี้ ซึ่งพวกเรานี่ก็เห็นด้วยจริงๆ เพราะว่าเอ็ม หาตัวเองเจอ แล้วก็รู้แล้วว่าแนวที่ตัวเองชอบจริงๆ การร้องอะไรเงี้ย ลงตัวแล้ว ส่วนขายดีมั้ย นี่ไม่รู้นะคับ
(VTR จบ)
พี จิกกะบาล : Etc นี่เอง พี่หนึ่ง Etc ที่มาท้าแข่ง
เอ็ม อรรถพล : มันฟลุ๊คคับ 54 วิ อะ ปกติ ไม่ได้ขนาดนี้ แสดงว่ามันฟลุ๊คนะคับ ปกติก็จะนาทีกว่าประมาณผมนี่แหละคับ จะห่างกันไม่ถึง 10 วิ อะคับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : แสดงว่าวันนี้พี่เอ็มชนะนะคะ เพราะว่าป่วยด้วย
เอ็ม อรรถพล : โอ้ เจ็บนิ้วนะคับเนี่ย อะโห
พี จิกกะบาล : โคตรลำเอียงเลย พิธีกรหญิงของเรา
(ทุกคนหัวเราะ)
อ๊อฟ จิกกะบาล : อ้า ทีนี้ Etc มาช่วยในอัลบั้มด้วย นอกจาก Etc แล้วมีใครอีกคะ
เอ็ม อรรถพล : ชุดนี้ก็มีผมทำงานเป็น co-producer ด้วย รับหน้าที่เค้ามาซักประมาณ 4 เพลง บอกไปทาง producer ไปว่าเนี่ย ขอช่วยทำ 4 เพลงก็แล้วกัน ขอแค่นี้เพราะว่า ขอเยอะไปเดี๋ยวเค้าจะว่าเอา ขอ 4 เพลงพอ
เอ็ม อรรถพล : มีพี่ๆ วง I-Zax นะคับ ที่เคยร่วมงานกัน มาช่วยแต่ง เนื้อร้อง ทำนอง ให้หนึ่งเพลง แล้วก็มีพี่โก้ Mr. Saxman มาเป่าแซ็กให้หนึ่งเพลง ซึ่งเพลงนี้ก็มีน้อง โรส สิรินทิพย์ มี โซ่ Etc มาเล่นเปียโนให้ คือเป็นเพลงที่ผมก็ช่วยแต่งเนื้อไว้ด้วยตอนท่อนฮุคนะคับ แต่งกับ แมค (am pm) เพลงนี้แมคช่วยแต่งเนื้อให้
พี จิกกะบาล : พี่แมค am pm นั่นเองนะคับ
เอ็ม อรรถพล : ใช่แล้วคับ แล้วก็ผมก็ช่วยแต่งตอนฮุคนะคับ ตอนฮุคแล้วก็ตอนท่อน A1 A2 แมคเค้าแต่งมาอยู่แล้ว ก็ถือว่าได้ร่วมงาน อัลบั้มนี้ผมจะได้มีส่วนร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละอัลบั้ม คืออย่างอัลบั้มแรกก็อาจจะช่วยเค้าคุมร้อง ในการทำงานในห้องอัด เพราะเรายังไม่เคยชิน ชุดสองก็คุมร้องตัวเองเต็มตัว ตอนบันทึกเสียงก็อัดเอง อะไรยังเงี้ย ชุดนี้ก็มีส่วนร่วมในการเลือก นักดนตรีหรือว่าอะไรที่เราอยากได้ ตัวคอนเซปท์ที่เราอยากจะได้หรือว่าแนวเพลงที่เราอยากจะมีอยู่ในอัลบั้มนี้ ก็ต้องขอบคุณทีมงานเค้าเปิดโอกาส
อ๊อฟ จิกกะบาล : ทำไมไม่เป็น Producer เองไปเลย
เอ็ม อรรถพล : มันก็ยากอยู่น้า ต้องทำอีกหลายอย่าง เป็น โค อะดีแล้ว เป็นกระบือด้วยก็ดี ไม่ช่าย
พี จิกกะบาล : แล้วพี่หนึ่ง Etc ล่ะคับ เมื่อกี๊เห็นบอกว่ามาด้วย
เอ็ม อรรถพล : ไม่ได้ทำอะไรเลยคับ โอ้ พูดเล่น
พี จิกกะบาล : พอเค้าชนะ แล้วเลยทำยังงี้
เอ็ม อรรถพล : แค้นๆ ไม่ใช่ มาช่วยแต่งเพลง ถ้าฉันเจ้าชู้จริง แต่งดนตรีและทำนอง
พี จิกกะบาล : มันตรงกับชีวิตของใครรึปล่าวคับ
เอ็ม อรรถพล : ไม่ใช่
อ๊อฟ จิกกะบาล : ของใครก็ไม่รู้ แต่ไม่ใช่ของพี่เอ็ม
เอ็ม อรรถพล : อ้า ใช่ เนื้อเพลงเป็นพี่ หนึ่ง ณรงวิทย์ ก็มาแต่งเนื้อให้
พี จิกกะบาล : โห รุ่นใหญ่
เอ็ม อรรถพล : แก่ ไม่ใช่ ไม่แก่ พี่ไม่แก่ พีนะคับ พีบอก
พี จิกกะบาล : ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย
เอ็ม อรรถพล : พี่เค้าเป็นนักแต่งเพลงที่มีความสามารถ ที่เราก็ชื่นชอบในการแต่งเพลงของเค้า แต่งให้เพลงนึง
พี จิกกะบาล : แล้วพี่ปิงล่ะคับ ปิง am pm
เอ็ม อรรถพล : อ้า ใช่ ปิงก็มาแต่ง เมโลดี้เพลงรักคืออะไร เป็นเพลงที่รู้สึกว่าเพลงที่เค้าแต่งออกมาได้เพราะมาก เมโลดี้ แล้วก็จังหวะก็จะเป็น 6 8 เมโลดี้ก็จะออกเป็นแนวเกาหลีๆ นิดๆ เข้ากับหน้าปิงเลยฮะ หน้าปิงก็เกาหลีมากเลย เกาเหลา อ๊ะ ไม่ช่าย
อ๊อฟ จิกกะบาล : ลูกชิ้นใช่มั้ยคะ เหมือนกันเลย
เอ็ม อรรถพล : จริงๆแล้ว ก็จะเป็นคนที่เราเคยร่วมงาน เคยคุ้นเคยอยู่แล้วก็ไปชวนมา เพราะว่ารู้สึกว่า เวลาทำงานกับคนที่เราคุ้นเคยเนี่ย มันคุยง่ายไม่ต้องแบบเกรงใจ อยากได้อะไร ชอบตรงไหนไม่ชอบตรงไหนก็บอกกันตรงๆ เลย
เอ็ม อรรถพล : ก็ยังมี Producer หลักๆอยู่เลย คือคุณ ฟองเบียร์ ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม เป็นคนดูแลเรื่อง Lyric director แล้วก็มีพี่หั่ง ฑีฆทัศน ทวิอารยกุล ก็ดูแลเรื่องดนตรีทั้งหมด แล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่เรียกว่าพูดไม่หมดอะ พี่เค พี่ตี๋ โหยังมีอีกหลายคนที่มาช่วยในงานนี้ ขอบคุณทุกคนเลยนะครับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วผลตอบรับจากแฟนคลับเป้นไงบ้าง
เอ็ม อรรถพล : ชุดนี้เค้าก็จะบอกว่าเพลงเพราะ แล้วก็ชอบหลายๆเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม แล้วก็คือ คนที่เป็นแฟนคลับก็ เปอร์เซ็นท์ ชอบมันเยอะอยู่แล้ว ในการที่เค้าจะชอบเพลงของเรา
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่ใช่แฟนคลับนะคะ ไม่เคยรู้จักพี่เอ็มมาก่อนค่ะ เจอพี่เอ็มครั้งแรก ไม่รู้ว่าคนนี้ใครนะคะ แต่แบบ MV สองตัวปล่อยมาก็ชอบหมดนะคะ ฟังแล้วชอบจัง
เอ็ม อรรถพล : ขอบคุณครับ
พี จิกกะบาล : คุณอ๊อฟนี่เข้าข่ายเข้ากับเพลงพี่เอ็มพอดีคือ หน้าด้านนะคับ
เอ็ม อรรถพล : คับ… ไม่ใช่คับ!!!
เอ็ม อรรถพล : อันนี้ก็ต้องขอบคุณ ใครที่ไม่ใช่แฟนคลับผมแล้วซื้ออัลบั้มไป จริงๆก็เจอหลายคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ แล้วก็เดินเข้ามาบอกว่าชอบอัลบั้ม ซื้ออัลบั้มแล้วอะไรยังงี๊ ผมว่านี่เป็นความภูมิใจของศิลปินทุกคนครับ สำหรับใครที่ศิลปินออกอัลบั้มแล้วมาซื้อ ใครซื้อแล้วก็เดินมาบอกกันได้นะคับ มันเป็นกำลังใจ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ให้มาบอกใกล้ๆ กระซิบข้างๆหู นิดนึง
พี จิกกะบาล : หนูโหลดมาแล้วนะคะพี่
เอ็ม อรรถพล : โหลดมาแล้ว ไม่ใช่ละ เฮ้ย เดี๋ยวนี้ก็มีดาวน์โหลด ถูกกฎหมายด้วย ikey หรือว่า ตามหนังสือที่เค้ามีให้โหลด
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วพูดถึง MV บ้าง MV ก็แบบว่าโดนใจไปหลายคนเลยทีเดียว
พี จิกกะบาล : มือกีต้าร์ มือกีต้าร์น่ารักมาก
เอ็ม อรรถพล : โห ชอบมือกีต้าร์
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วทำไมออกแนวซึ้งเศร้าขนาดนั้น ทำไมเค้าถึงได้ดูโหดร้ายต่อพี่เอ็มเหลือเกิน
เอ็ม อรรถพล : ก็ตามเพลงไงคับ ก็เล่นตามเพลง เล่นยากมาก เล่นไม่ค่อยเก่งคับ MV ไม่ค่อยถนัดในการเล่นแบบแสดง
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่ค่อยถนัดแบบว่าโดนทิ้งหรือแบบเค้าไม่สนอะไรงี๊ใช่มั้ยพี่
เอ็ม อรรถพล : ไอ้ทิ้งอะโดนบ่อยคับ โดนแบบว่า ส่วนมากจะเป็นยังงี๊คับ เวลาเราไปตั้งความหวังอะไรเงี้ย พลาดหวังเอง ตอนนี้ไม่เป็นละ เดี๋ยวถ้ามีเนื้อคู่ก็คงมาเอง
เอ็ม อรรถพล : แต่นี่เดี๋ยวต้องบอกก่อนนะ ว่าเคยเจอกันแล้ว (ชี้ไปที่อ๊อฟ) เพราะว่าเคยไปร่วมงานกับ Etc
อ๊อฟ จิกกะบาล : แต่วันนั้นไม่เห็นหล่อยังงี๊เลย ไม่ใช่!!! ล้อเล่นนะคะ ก็ดูดีตลอด ทีนี้เราแบบว่าคำถามสุดท้ายแล้ว เหตุผลที่คนต้องฟัง
พี จิกกะบาล : My Way
เอ็ม อรรถพล : 10 เพลง เอ๊ย ในอัลบั้มมี 10 เพลงใหม่ กับเพลงอีกเพลงหนึ่ง คืออย่าไปเสียน้ำตา ที่ผมเตรียมไว้ เพราะว่ามีหลายคนชอบ
พี จิกกะบาล : ชอบๆ ผมก็ชอบ
เอ็ม อรรถพล : ก็เป็นเพลงที่ผมชอบอยู่แล้ว แล้วก็เอามา Cover ก็ 10 เพลงเนี่ย ถ้าบอกคำว่า My way เนี่ย มันอธิบายเป็นคำพูดได้ยากว่าทำไมต้อง My way อยากให้ฟัง 10 เพลงที่เลือกมาเป็นเพลงที่ แนวเพลงที่ผมชอบเป็นเพลงที่อยากจะร้องจริงๆ ไม่ต้องมีใครบังคับว่าต้องร้องแบบนี้ๆ แล้วก็อยากให้อัลบั้มๆ นึงเนี่ยฟังได้ หลายๆรสชาด อาจจะมีทั้งเศร้า สมหวัง ดีใจ เสียใจ คือในอัลบั้มนี้ แล้วก็การร้องก็จะพัฒนาขึ้น จากชุดที่ผ่านๆมา ไม่ได้บอกว่าดีนะคับ แต่พัฒนามากขึ้นๆ ผมก็เลยพยามที่จะทำให้มันดีขึ้น แล้วก็ถ้าเป็นตัวตนชัดเจนก็คงมีเยอะอยู่แล้ว เพราะว่าเราได้มีส่วนร่วมในการทำอัลบั้มนี้ค่อนข้างเยอะ ผมว่าชุดต่อไปก็คงเยอะขึ้นๆ เรื่อยๆ ก็มีความหวังว่าอยากจะทำงานเบื้องหลังด้วยอีกหน่อย ก็ฝึกไปเรื่อยๆตอนนี้คับ ชุดหน้าอาจจะได้ฟังเพลงที่ผมแต่ง ชุดแรกก็เคยแต่งเพลงนึง แล้วก็ชุดที่สองเนี่ย แต่งไว้เหมือนกันแต่ว่า ไม่ได้ใช้เพราะว่ามันไม่เสร็จ แต่งไม่จบอะ แต่งได้แต่ A1 A2 แต่งฮุคไม่ได้ บางเพลงก็แต่งได้แต่ตรงฮุค
อ๊อฟ จิกกะบาล : เอามาต่อกันได้มั้ยคะ
เอ็ม อรรถพล : ไม่ได้คนละเพลง ชุดหน้ามันต้อง เดี๋ยวรอถ้าเสร็จสมบูรณ์ พร้อมที่จะให้คนฟังเดี่ยวจะเอามาให้ฟัง ฝากด้วยละกันคับ My way
อ๊อฟ จิกกะบาล : พี่เค้าเกริ่นมาตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่เค้าอยากเรียนวิจิตรศิลป์ ไปดูว่าเด็กสอบเข้าวิจิตรศิลป์ผ่านเนี่ย จะเป็นยังไง
(VTR วาดเสื้อ)
พี จิกกะบาล : มาแล้ว มันยังไงคับพี่ คล้ายๆรูบิค
เอ็ม อรรถพล : จะวาดรูบิค แต่วาดไม่ได้
พี จิกกะบาล : แล้วยังไงคับ OX
เอ็ม อรรถพล : ก็เป็นเกมที่หลายๆคนคงเคยเล่น OXOXOX นะคับ ต่อกันมีผู้ชนะผู้แพ้ เป็นเกมที่เล่นง่าย แล้วก็รู้สึกว่า มันสื่อให้คิดได้หลายอย่าง ว่ามันจะไปทางไหนต่อ
อ๊อฟ : ถ้าอยากได้เสื้อตัวนี้ ส่ง comment เข้ามา แล้วส่ง เบอร์ที่ติดต่อได้มาที่ comment@jiggaban.com
พี จิกกะบาล : ถ้ามีคนใส่เสื้อตัวนี้ไปดูคอนเสิร์ตมีอะไรพิเศษมั้ยคับ
เอ็ม อรรถพล : มีครับ มี ต้องเอาไปซักด้วย ก็ดีใจด้วยนะคับ กับใครที่จะได้ เดี๋ยวจะเลือกแล้วกันนะคับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ให้พี่เอ็มช่วยเลือกไปนะ นอกจากเสื้อตัวนี้ ที่พี่เค้าให้แฟนๆแล้ว เราก็มีเสื้อให้พี่เค้าด้วย
อ๊อฟ จิกกะบาล : วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่เอ็มเค้าด้วยนะ ที่แบบว่ามาพูดคุยกับเราแล้วก็ ไปทำงาน แล้วก็กลับมาพูดคุยกับเราต่ออีก นะ น่ารักขนาดนี้เนี่ย ไม่รักไม่ชอบไม่ซื้อ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะคะ เราก็จะหาต่อไป แล้วซักวันเราก็จะเอามาให้พี่เอ็มเซ็นต์
เอ็ม อรรถพล : หาไม่ยากขนาดนั้นคับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : วันนี้ก็ขอขอบคุณพี่เอ็มมากๆเลย ลากันไปก่อน นะคะ
เอ็ม อรรถพล : สวัสดีคับ โห ทีมงานเยอะมาก