สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกแล้วครับกับรายการ จิกกะบาล Talk Show สบายๆ สไตล์ จิกกะบาลรายการบันเทิงแนวใหม่ ยุค Hi-Speed แขกรับเชิญพิเศษในวันนี้ เค้ามีเพลงขึ้นอันดับ 1 Fat radio มาแล้ว เราไปพบกับเค้าเลยดีกว่าครับ Sqweez Animal ยินดีมากๆเลยที่ได้ Sqweez Animal มาเป้นแขกรับเชิญในรายการ

บทสัมภาษณ์ Sqweez Animal
พิธีกร อ๊อฟ พี

พี: สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกแล้วครับกับรายการ จิกกะบาล Talk Show สบายๆ สไตล์ จิกกะบาลรายการบันเทิงแนวใหม่ ยุค Hi-Speed แขกรับเชิญพิเศษในวันนี้ เค้ามีเพลงขึ้นอันดับ 1 Fat radio มาแล้ว เราไปพบกับเค้าเลยดีกว่าครับ Sqweez Animal ยินดีมากๆเลยที่ได้ Sqweez Animal มาเป้นแขกรับเชิญในรายการ
สิงห์ : มาให้โดนจิกนะครับ
พี: แนะนำตัวเองหน่อยครับ
วิน : ผม วิน นักร้องนำ
สิงห์ : สิงห์ ครับ เล่นกีต้าร์ ครับ
พี: คุณ สิงห์ ชื่อ ประชาธิป มุสิกพงศ์ ทำไม นามสกุลมัน คุ้นๆ เป็นอะไรกับคุณ วีระ มุสิกพงศ์
เป็นลูกชายครับ เค้าเป็นคุณพ่อ ผมเป็นลูกชาย
อ๊อฟ : Sqweez Animal แปลว่าอะไร แล้วมีที่มายังไง
วิน : มันมาทีละคำ มันไม่ได้มีความหมายว่า Sqweez แปลว่าอะไร Animal เป็นคำที่เราได้มาเพราะเราคิดว่าเราเป็นเหมือนสัตว์ เหมือน Party Animal ตอนกลางคืนเราจะ คึกๆ กันหน่อย
สิงห์ : เปรียบเราเป็นลิงกลางคืน ตอนกลางวันเราจะไม่มีพลังเลย ขี้เกียจ
อ๊อฟ : ทำไมเป็นลิงละ
สิงห์ : คงเป็นสัตว์ที่ใกล้ มันซนอะไร
Sqweez เป็นคำที่พวกเราชอบ เวลาฟังเพลง เพลงมันจะบีบๆ บีบหัวใจ
สิงห์ : เหมือนโดน บีบอยู่ บีบเค้น บีบคั้น
วิน : ก็ลงตัวกับอัลบั้มที่เราทำ ผมร้องเพลงในอัลบั้มนี้ จะบีบๆเสียงหน่อย
อ๊อฟ : มารวมตัวกันได้อย่างไร
วิน : เจอกันตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่ อังกฤษ ครับ
ตั้งแต่อายุเท่าไหร่
วิน : ผมไปตอน 12
สิงห์ : ไปตอน 12 เหมือนกัน
อ๊อฟ : แล้วไปเจอกันตอนไหน
วิน : คือ ผมเล่นดนตรีอยู่แล้วทุกปีก็จะมีจัด Party เหมือนเป็น สมาคมนักเรียนไทย ก็เหมือนเป็นวงดนตรีวงเดียวในเวลานั้น ในขณะนั้น คือ คนอื่นเค้าไม่ค่อยเล่นดนตรีกัน พวกผมไม่ชอบเรียนหนังสือ ก็จะมีผม มีคุณ จีน มหาสมุทร ตอนนั้น สิงห์ ยังไม่ได้เข้ามาเพราะว่าเป็นรุ่นน้อง เล่นๆกันสักพัก พี่ชาย เค้าเป็นเพื่อนกับผม แนะนำให้รู้จักกับ สิงห์ ก็เลยเล่นด้วยกัน แล้วสิงห์เค้าก็ฝีมือดี เล่นกันมาเรื่อยๆ จนกลับมาเมืองไทย อยู่วงเดียวกันตลอดมา ส่วนคนอื่นเค้าก้แยกย้ายไปตามทางเค้า
อ๊อฟ : แล้วทำไมถึงแยกกันละ
วิน : ผมกับสิงห์ นิสัยไม่ดี ไล่เค้าออก
พี : อย่างคำว่า Sqweez Animal อาจจะมาจากคำที่เพื่อนๆใช้เรียกกัน
สิงห์ : อาจจะเป็นไปได้
วิน : ไอ้บีบเหรอครับ
พี: แล้วมาเจอกันตอนอายุเท่าไหร่นะ
สิงห์ : ผม 16
วิน: ผมก็เกือบ 20
อ๊อฟ : แสดงว่าห่างกัน เยอะเหมือนกันนะ
วิน: 4 ปี เพาะว่าเป็นน้องชายของเพื่อนไง
อ๊อฟ: โดนพี่รังแก บ้างไหม
สิงห์ : ไม่ค่อย ไม่มีการรังแก
พี : เข้ามาทำเทปกันได้อย่างไร
วิน : จริงๆ ก็เล่นดนตรีกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วอ่ะครับ ผมชอบเขียนเพลง เล่นดนตรี เราก็ทำเพลงของตัวเองบ้าง ระบายความเหงา ความเครียด ของผมไปเรื่อยๆ แต่งเพลงก็ทำมาด้วยกัน ก่อนที่จะมี วิน ศิริวงศ์ ผมก็ทำเพลงของผมเองอยู่แล้ว แต่ที่ได้ทำ เพลง ไม่มีความหมาย ไป เพราะได้ไปรู้จักกับ พี่ โป้ โยคี แล้วได้ไปร้องประสานให้กับเค้า เค้ามาที่อังกฤษแล้วผมไปได้เล่น วง backup ให้เค้า ก็เลยรู้จักกัน เค้าเลยเรียกมาร้องเพลงในอัลบั้มนี้ พอกลับมาเมืองไทยผมก็เอา เพลงที่ผมแต่งๆไว้มาเสนอตามค่ายเพลง เป็น เบเกอรี่ เป็น มิวสิคบัค อะไรอย่างงี้ครับ
พี : แล้วตอนนี้ อยู่ Spicy disc
วิน : ค่ายอื่นเค้าไม่รับอ่ะดิ
พี : ทำเพลงกับสิงห์มาตลอด
สิงห์ : ก็เป็นวง 4 คน ฟังดู งงๆ
วิน : พอเรียนจบ ผมจะเป็นคนสุดท้ายที่กลับมาเมืองไทย
พี : แปลว่าจบช้า
วิน : แปลว่าเรียนสูงสุด ผมกลับมา ผมก็เป็นคนที่เข้าไปคุยกับ เบเกอรี่ กับทุกค่าย เพราะเรารู้จักกันอยู่แล้ว อะไรอย่างนี้ คุยกับพี่ บอย ว่าพี่ ผมมีวงนะ ผมเขียนเพลง สิงห์ ก็อยู่ด้วยกันตลอด
พี : ตอนเด็กๆ ฝันไว้รึเปล่าว่าอยากจะเป็นนักดนตรี
สิงห์ : ผมอ่ะ ฝันมาตลอดครับ อยากออกเทป ตอนเด็กๆ อยากเป็น Michael Jackson ครับ โตขึ้นมา ไปเรียนอังกฤษ ก็เริ่มรู้ เค้าไม่ค่อยแมนครับ ก็ความอยากเป็นเค้าก็เลยน้อยลง ก็เลยมาเล่นกีตาร์ จริงๆ ตอน 8 ขวบ เคยหยิบกีตาร์มาเล่น เพราะ ชอบ เพลง กะลา ของ modern dog เราก็ไม่รุ้จะไปเริ่มเล่นยังไง เราก็เปิดหนังสือเพลงมา แล้วหนังสือเพลงมันก็บอก d minor เราก็มาเล่น เล่นยังไงก็ไม่เหมือน พี่ เมธี เค้าก็เลย โยนกีตาร์ทิ้งไป จนไปถึง อังกฤษ ตอนอายุ 12 กลับมาเล่นใหม่ คราวนี้ตอนเราอยู่ที่โน้น วง Oasis กำลังดัง ก็เลยมีหนังสือบอก เป็น tab ก็เลยง่ายขึ้น เลยเล่นต่อ ก่อนจะเล่นกีตาร์เป็นก็ ร้องเพลงก่อน ตอนนี้ก็ยังร้อง ในอัลบั้มมีร้องอยู่ 2 เพลง
วิน: ไม่ได้ฝันมากอ่ะครับ เราก็ชอบร้องเพลง ชอบอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว ตามงานวันเกิดผู้ใหญ่ เราก็ขึ้นไปร้องเพลง แล้วก็สนุกกับการร้องเพลงมาตลอด ไม่ได้คิดว่าจะเป็นนักร้องอาชีพอะไร ซีเรียส ขนาดนั้น แต่ทำแล้วผมชอบ มันก้มีทั้งด้านที่ผมชอบ แล้วก็ เอ๊ะ หรือมันไม่ใช่เราบางที นักร้อง บางทีเค้าน่าจะเป็นคนที่เป็น idol เป็นคนที่คนเค้าน่าจะมองขึ้น อะไรอย่างนี้ ผมแค่ชอบร้องเพลง
อ๊อฟ : เคยเข้าประกวดอะไรกันบ้างไหม
วิน : ไม่มี
สิงห์ : ไม่มี มีแต่งแข่ง ฟุตบอล อ่ะครับ ถ้วยก็มาไม่ถึงตัว
อ๊อฟ : แปลว่าชนะ
สิงห์ : แพ้ ครับ เกือบชนะ
อ๊อฟ :ตอนนี้ อายุเท่าไหร่กันแล้วคะ
วิน: 26 แก่แล้ว
สิงห์ : 22 ครับ
พี : ที่บ้านสนับสนุนไหม
วิน : เค้าก็สนับสนุนนะ แต่ไม่ได้อยากให้ยึดเป็นอาชีพ ขนาดนั้น เป็นงานอดิเรก ถ้างานอดิเรก เราทำได้ดี ก็ทำ แต่ผมมีงานกิจจการของที่บ้านอยู่ด้วย ก็ต้องแบ่งเวลา ดีดีหน่อย
สิงห์ : ทางบ้านสนับสนุนเต็มที่ครับ เพราะว่า ตอนนี้จริงๆแล้วเราพักเรียนไว้ 1 ปี เพื่อที่จะมาทำเพลง อีก 1 ปี ก็กลับไปเรียนต่อที่อังกฤษให้จบ จริงๆ ก็ตอนแรกๆ เกือบตายครับ กว่าจะผ่านมาได้ ตอนแรกๆ เค้าก็จะเห็นเรานั่งทำเพลงอยู่หน้าคอม ไม่เคยได้ยินว่ามันมีอะไรออกมาบ้าง จนกลับมาเมืองไทยก็ เพลงได้ออกวิทยุ เค้าก็ เนี่ยอะเหรอ ที่นั่งอยู่หลัง คอมที่เห็นบ่อยๆ
พี : อัลบั้มที่ผ่านมา ถือเป็นอัลบั้มรึเปล่า หรือว่าเป็น single
วิน : เป็นอัลบั้มที่มีอยู่ 2 เพลง
สิงห์ : เป็น Ep เป็นอัลบั้ม เต็มที่เป็น Ep ให้ได้มาลิ้มรส พวกเราก่อน ชิมๆ
วิน : เราก็ไม่ได้มั่นใจ คือเรา กลับมาก็มีเพลงของเรา เราก็อยากจะรู้ว่าคนที่เมืองไทยจะมองเพลงของเรายังไง
สิงห์ : ทำเองหมดเลย รวมผลิต ซีดี ยัน พับปก ขายครับ พับไป 500
วิน : ก่อนขาย ระดม เพื่อน แม่ พี่ น้อง มาช่วยกันที่บ้าน
พี : อัลบั้มนี้ จะชื่ออะไร เพลงที่ออกมาแล้วจะรวมอยู่ในอัลบั้มนี้ไหม
วิน : อัลบั้ม ชื่อ อาจยังไม่สาย เหมือนกับว่า เพลงเราเคยปล่อยไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว
สิงห์ : ยังไม่สายที่คุณ จะรับฟังต่อไป
วิน : อาจจะสายไปแล้วก็ได้
สิงห์ : เหมือนมาอ้อนอ่ะครับ อาจยังไม่สาย
พี: เพลงใน Ep จะรวมในอัลบั้มนี้ด้วยไหม
สิงห์ : รวมครับ
วิน : จะเอามาทำใหม่ เรามี producer เข้ามาช่วย ตอนนี้เพลงมันก็สมบูรณ์ขึ้น 2 เพลงที่เคยปล่อยออกไปก็จะเป็นอีก อารมณ์นึงละ
อ๊อฟ : แล้วถ้าคนฟังอัลบั้มนี้ แล้วอยากฟังอัลบั้มที่แล้วอีก หาได้อีกไหม
วิน : ตอนนี้ยังไม่ได้
พี : แนวเพลงในอัลบั้มนี้ ก็จะเป็นแนวเดียวกับที่เราได้ยินกันไปแล้ว
วิน : ก็ กลิ่นเดียวกัน แต่ก้มันก้มีหลากหลายในเรื่องของความหมาย หรือ ในเรื่องของ Speed ของเพลง แต่ว่า ยังเป็นกลิ่นเดียวกัน
สิงห์ : จะ base on เพลง pop ที่อาจจะแตกต่างนิดนึง มี กลิ่น Funk Soul แล้วก็ จังหวะ disco เข้ามาปนๆอยู่ เป็นทางเลือกใหม่
วิน : เป็นเพลงฟังง่ายเหมือน ท่อนก็เหมือน เพลง pop มี work มี คอรัส มี pre คอรัส คอรัสที่ฟังแล้วไม่ได้ยากเกินไป ความหายก็เกี่ยวกับความรัก สิ่งที่เราเข้าใจกันง่ายๆอยู่แล้วทุกๆคน
อ๊อฟ: ใครทำส่วนไหนในอัลบั้ม
วิน : ในการทำงาน วินก็เขียนเนื้อ เขียน คอร์ด เพลงก็จะเสร็จออกมาก่อนละ แล้ววินก็จะส่งให้สิงห์ ต่อ แล้ว สิงห์ เค้าก็จะ ออกแบบ ลาย เบส คีบอร์ด พวกอะไรแบบเนี่ย
สิงห์ : ทำให้มันเป็นเพลงขึ้นมา
วิน : ทำนอง เนื้อร้อง ผมจะเป็นคนเขียนก่อน แล้ว สิงห์ เค้าจะรับไปทำต่อ แล้วส่งกลับมา มันจะเกิด idea เพิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เราส่งกันไปกันมาอย่างเนี่ย
อ๊อฟ: ส่งกันอยู่นานไหม
วิน : แล้วแต่เพลง บางเพลงก็เสร็จเร็วมากเลย ไม่นานเพียงแต่เราต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเองเยอะหน่อย ผมนั่งเขียนเพลง สิงห์ก็มาได้อยู่ด้วย สิงห์เอาไปทำผมก็ไม่ได้อยู่กับสิงห์ ต่างคนต่างทำ แล้วค่อยมานั่งสรุปกันเอาเองทีหลังเลย
สิงห์ : สุดท้ายแล้วเราก็มาเจอ Producer ครับ เค้าคือ พี่โต้ง Save de last piece
วิน : demo ที่ออกมาค่อนข้างชัดเจนว่าเพลงเราเป็นยังไงบ้าง เพลงที่จบแล้วอ่ะครับ พี่โต้ง ก็จะช่วยคอยดู post production ว่าเพลงนี้จะให้ใครมาเล่นกลองให้ จะได้เร็วจะได้ มาบอกว่า อันนี้ เยอะไปนะ อย่าโชว์มาก แค่นี้คนเค้าก็ว่าดีแล้ว มาจัดขอบให้น้องๆ
สิงห์ : เป็นมุมมองให้เรากว้างขวางขึ้น
อ๊อฟ: รู้สึกยังไงบ้าง เพลงขึ้น ชาร์ต
สิงห์ : เหลือเชื่อ ไม่เคยหวัง งงมากเลย ดีใจ เป็นแรงพลักดันให้เราทำต่อไป
วิน : ไม่ได้เหลือเชื่ออะไรหรอกครับ แต่ก็ไม่ได้นิ่งๆ มันเป็นไปได้ยังไง รู้สึกดี ที่คนเค้าชอบเพลงเรา ชื่นชมสิ่งที่เราทำลงไป เป้นตัวเราเองล้วนๆเลย ไม่ได้มีใครมาสั่งให้เราทำ
พี: พูดถึง เพลง เริ่มใหม่ ที่ขึ้นอันดับ 1 ไปแล้วหน่อย
วิน : วินก็เป็นคนแต่ง คนเรามันต้องเริ่มอะไรใหม่ๆอยุ่แล้วด้วยอ่ะฮะ ที่เขียนเนื้อ ก็อาจจะเป็นประสบการณ์จริงด้วยเหมือนกัน ว่าเราอยากเริ่มอะไรใหม่ๆ กับใครสักคนนึงอะไรอย่างเนี่ย ก็ไม่ค่อยแน่ใจ เขียนเพลงบางทีก็จำลองสถานการณ์ ขึ้นมาด้วย
อ๊อฟ : เคยแต่งเพลงจีบสาวบ้างไหม
วิน : แต่งให้เค้า ไม่ได้แต่งจีบ แต่แต่งให้ เค้าไม่ต้องมาชอบเราก็ได้
พี: แล้วผลตอบรับเป็นยังไงครับ
วิน : ตอบยาก
สิงห์ : ไม่เคยเลย ขี้อายไม่กล้า
อ๊อฟ : มีแฟนคลับบ้างรึยัง
วิน: ประมาณนึง
อ๊อฟ : ใครแฟนคลับเยอะกว่ากัน
วิน : สิงห์มั้งครับ ไม่เคยวัด ผมว่าสิงห์เยอะกว่า
สิงห์ : อันนี้ก็ไม่ทราบ
พี : แล้วแฟนจริงๆ มีกันรึยัง
วิน : ดูๆกันอยู่จริงๆ ผมยังไม่มีแฟนจริงๆ เราก้ ศึกษาคนที่เรารู้จัก ใกล้ชิด
สิงห์ : ยังไม่มีแฟน ไม่มีครับ มีแต่คนที่ผมแอบชอบอ่ะมี
อ๊อฟ : แล้วเค้ารู้ไหมคะ
สิงห์ : น่าจะรู้มั้งครับ มั้ง
พี : มีศิลปินที่ชอบในดวงใจไหม
วิน: ตอนผมเล่นดนตรีอยู่ ผมมักจะเล่น โยคี เพลย์บอย ชอบเพลงของเค้า แล้วตัวพี่โป้ ผมก็รู้จักเค้า
พี : เล่นเพลงพี่โป้ แล้วเต้นตามพี่โป้ ด้วยไหม
วิน : ทำไมได้ ไม่กล้า ไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่นะ แต่ไม่ขนาดพี่เค้าเท่านั้นเอง ถ้านักดนตรี ฝรั่ง เป็น JK Jimmy Maquire
สิงห์ : คนเดียวกันครับ Jimmy Maquire และที่จะชอบที่สุดเลย คือ Thom Yorke เป็นมือกีต้าร์ ของ Radio Head งานของเค้าเท่าที่ได้ฟังมา ยังไม่มีงานไหนที่ผมมานั่งว่าได้เลย ตอนเค้าแยกมาทำเดี่ยวก็ยังชอบ เค้ามีอะไรใหม่ๆ มาให้เราตลอดเวลา ทำให้เรา Surprise ได้ตลอดเวลา
พี: แล้วได้รับกลิ่นของเค้ามาในการทำงานบ้างไหม
วิน : ก็มีบ้างอ่ะครับ ผมก็ร้องประสานให้พี่เค้าด้วย วิธีร้อง คืออาจจะไม่เหมือนเค้า ผมก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเค้าเยอะ วิธีการเขียนเพลงของพี่เค้า เพราะว่าเค้าก็เจ๋ง
สิงห์ : มันก็คงมีอ่ะครับ แต่ไม่รู้ว่ารู้ตัวรึเปล่า คือจริงๆแล้วเป็นคนที่ชอบ หลายคนมากกว่าที่พูดมา ชอบหลายแนวมาก ที่ผ่านมาก็คงซึมซาบมา แต่ละคนนิดๆหน่อยๆ มา แล้วสุดท้าย เราก็ถ่ายทอดมันออกมาผ่านตัวเรา มีเล็กๆน้อยๆมาจากแต่ละคน
อ๊อฟ : เครื่องดนตรีที่ชอบ ชิ้นแรก
วิน : เป็น กีต้าร์ Classical ไปเรียน ตอนเรียนอยู่ที่ โรงเรียนประจำ ที่ อังกฤษ เค้ามีให้เลือกวิชาลง ก็เลยได้กีตาร์ตัวนี้มา
อ๊อฟ : ยังอยู่ไหมคะ
วิน : ไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ไปอยู่ไหน
สิงห์ : เมโลเดียน เกือบจะลืมไปแล้ว ที่มีที่เป่า แล้วก็มีคล้ายๆ คีย์บอร์ด ตั้งแต่สมัยประถม ตอนเด็กๆเรียนวิชาดนตรีไง มีขลุ่ยด้วย
พี: เครื่องดนตรีที่ใช้ในการอัดเสียง
สิงห์ : หลักๆแล้ว กีต้าร์ โปร่ง ใช้เป็น Gibson Hummingbird กีต้าร์ ตัวใหญ่ เสียงอ้วน แล้วก็จะมีบางเพลงเป็น double Bass
วิน : เป็น double bass ไฟฟ้า ในอัลบั้มนี้เรามี มือเบส รับเชิญ
สิงห์ : กลองก็ พี่มาด มาตี แต่กลองอะไรไม่ทราบ ส่วนกีตาร์ไฟฟ้า นี่จะหลากหลายหน่อย ยืม พี่ บอล อพาร์ตแม้นคุณป้า มา Telecaster ของเค้าเนี่ยจะใช้เยอะที่สุดเลย แล้วก็จะมี Paul Reed Smith ของผมเอง เป็นรุ่น Custom 24 ปี 89 มีกีต้าร์อีกตัว ของพี่ โต้ง เป็น Yamaha 12 สาย เป็น ไฟฟ้า ตัวนี้ใช้อันเพลงนึง สักครั้ง แล้วก็ใช้เสียง พี่วิน อัด
อ๊อฟ : นอกจากความสามารถด้านดนตรีแล้ว มีด้านอื่นอีกไหม
วิน : ขี่มอไซด์ วิบากได้ แบบ ขึ้นเขา ตะลุยป่า
พี : ไม่ใช่ มอไซด์ ไต่ถัง
วิน : ไม่ใช่ เมื่อก่อนที่บ้าน นำมอไซด์เข้า พ่อก็จะให้ไปเรียน เพื่อที่จะได้ขี่มอไซด์ทางเรียบแล้วปลอดภัย เพราะมอไซด์วิบากมันยากกว่าทางเรียบ
สิงห์ : คุณพ่อจะจับเล่นกีฬา ซึ่งก็ชอบอยู่แล้ว แตะบอลกับคุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อก็จะไม่ค่อยไหวแล้ว กลับมาครั้งนึง นอน 5 วันเลย แต่ก้ยังออกมาเตะด้วยกันได้อยู่ครับ
พี: พูดถึงพี่วินหน่อย
สิงห์ : เป็นคนสบายๆ รักความสบายเหมือนกัน อู้เหมือนกัน เรื่อยๆไม่รีบ ถึงทำเพลงด้วยกันอยู่มาได้ตอนนี้ ชิวๆ
อ๊อฟ : แปลว่าชุดหน้านี่อีก 3 ปีเลยรึเปล่า
วิน : ก็ไม่แน่นะ สคีวส อะไรก็เกินขึ้นได้ 10 ปีก็ได้
สิงห์ : อาจยังไม่สาย 2
วิน : สิงห์ เป็นน้องรัก เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งนาน จะมีวงดนตรีบางทีมันยิ่งกว่าแฟนนะ มันต้องเข้าใจ มันต้องเชื่อใจ มั่นใจในกันและกัน มันเป้นเรื่องของใจ มันต้องเชื่อใจในรดนิยมของกันและกัน เวลาส่งงานกันไปมา ผมก็มั่นใจเสมอว่ามันออกมาดีแน่ เป็นคนมีความสามารถ
อ๊อฟ : ตั้งเป้าหมายของอัลบั้มนี้ไว้ยังไง
สิงห์ : กะแค่ อยากให้คนจำนวนมากได้ยิน อย่างน้อยก็ฟังให้ผ่านหู ว่าเพลงเราเป็นทางเลือกใหม่ 1 ทาง ของดนตรีสมัยนี้ ครั้งแรกอาจจะไม่ชอบก็ลองฟังอีกสักที อาจจะชอบกว่าครั้งแรกก็ได้
พี : นอกจามาพูดคุยกับเราวันนี้ เค้ายังทำของที่ระลึกไว้ให้แฟนๆด้วย ไปดูกันเลย
วิน : อัลบั้มเรามันไม่เละอย่างนี้นะครับ เป็นถั่ว หรืออะไรสักอย่างนึง ไม่รู้เหมือนกันครับ
สิงห์ : มันเป็น abstract มีสะดือ ด้วย อาจจะไม่เหมือน สะดือ แต่มันคือ สะดือ
วิน : มีวันที่ด้วย แต่ไม่ใช่วันนี้นะครับ
อ๊อฟ : ใครอยากได้เสื้อตัวนี้ ส่ง comment เข้ามาที่ website ทิ้ง comment ไว้ หรือส่งมาที่ comment@jiggaban.com
วิน : พูดคุยกับเราได้ตลอด จะมี สิงห์ คอยอัพเดท แล้วก็มีตารางงานช์ของเรา ภายใน เดือน หรือ 2 เดือน
สิงห์ : http://www.myspace.com/sqweezanimal
วิน : มีเพลงให้ลองฟังดูด้วย
อ๊อฟ : ขอบคุณ spicydisc เอื้อเฟื้อสถานที่ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีคะ

ประวัติ Sqweez Animal

ก้าวแรกในต่างแดน วงดนตรีชื่อแปลกๆว่า Sqweez Animal คือ สองหนุ่มนักเรียนอังกฤษที่เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่ต่างแดน ก่อนจะกลับมาสานฝันในการมีอัลบั้มของตัวเองในบ้านเกิดวันนี้

(วิน) วิน ศิริวงศ์ – ร้องนำ
แม้จะไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเป็นนักร้องอาชีพในทุกวันนี้ แต่วินก็เป็นชายหนุ่มที่บอกใครๆได้เต็มปากว่า รักการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ วินเริ่มต้นร้องเพลงด้วยการชักชวนจากเพื่อนๆ จากนั้นเขาก็เริ่มแต่งเพลง และเริ่มสนุกจนหลงรักการร้องเพลงไปในที่สุด

(สิงห์) ประชาธิป มุสิกพงศ์ – กีตาร์
หนุ่มท่าทางเงียบๆ ที่กำลังศึกษาด้านกราฟฟิคดีไซน์ เติบโตมาในบ้านที่รักเสียงดนตรี เขาฝึกเล่นดนตรีมาตั้งแต่ 12 ขวบ และเคยเล่นมาแล้ว ทั้งกีตาร์ เบส กลอง สิงห์ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ใฝ่ฝันอยากทำเพลงของตัวเอง อยากมีอัลบั้มเหมือนศิลปินที่เป็นฮีโร่ของตัวเอง และการได้ทำเพลงออกมาให้คนได้ฟังวันนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของ เขา

เรื่องของวงดนตรีวงนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่วินเริ่มเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ที่เมืองนอกมาตั้งแต่เข้าวัยรุ่น เขาเริ่มตั้งวงดนตรีของตัวเองตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ที่อังกฤษ เวลาที่มีงานของคนไทยในอังกฤษก็จะเป็นวงขาประจำที่ได้ไปแสดงโชว์ จนภายหลังเมื่อได้รู้จักกับสิงห์ ซึ่งเป็นน้องของเพื่อน และรู้ว่าเป็นมือกีต้าร์ฝีมือดีก็รู้สึกชอบพอในฝีไม้ลายมือ จนกลายมาเป็นเพื่อนร่วมวงกัน วันเวลาผ่านไป ด้วยภาระในชีวิตจริงที่เพิ่มขึ้น สมาชิกในวงดนตรีก็เริ่มแยกย้าย จนเหลือเพียงวิน และสิงห์ ที่ยังเล่นดนตรีอยู่ และมีความฝันว่าจะเอาจริงด้านนี้ต่อไป แล้วพวกเขาก็กลายเป็นวง ดูโอ “Sqweez Animal” โดยได้ชื่อวงมาจากการเอาคำสองคำที่โปรดปรานมารวมกัน คำว่า Animal มาจากการที่วินและสิงห์เปรียบตัวเองเหมือน ลิงกลางคืน ที่จะคึกคักเมื่อตะวันตกดิน คำว่า Animal ก็เป็นอารมณ์สนุกสนานประมาณนั้น ส่วนคำว่า Sqweez นั้นพวกเขาได้จากชื่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมหนึ่งเป็นคำเทห์ๆ ที่มีความหมายว่า บีบ ซึ่งคำนี้ปกติจะสะกดว่า Squeeze แต่พวกเขานำมาเขียนในแบบตัวเอง เหมือนที่ใครๆบอกว่าวินชอบร้องเพลงด้วยเสียงบีบ แต่ก็เป็นวิธีการร้องที่เค้นอารมณ์และฟังดูดีในแบบของเขาเองอยู่ดี

ก้าวแรก : ในบ้านเกิด
เมื่อกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย เสียงร้องของวินก็กลายเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้นเมื่อเขาร้องเพลง “ไม่มีความหมาย” ในอัลบั้ม singing in the Playground ให้ค่าย Playground Record เมื่อ 4 ปีก่อน เพลงนี้ได้รับรางวัล Virgin Hit Award จากการติดอันดับอยู่ในชาร์ตนานถึง 28 อาทิตย์ ติดกัน วินยังได้สร้างเครดิตที่หลากหลายให้กับตัวเองต่อๆมาอีกด้วย ตั้งแต่การไปร้องประสานให้กับ โยคีเพลย์บอย ไปร้องให้กับอัลบั้มของ Jerry และ Sleeper 1 และยังไปร้องเพลงในอัลบั้มป๊อปๆ อย่าง Behind The Song ของ เอิ้น พิยะดา และยังไปร่วมร้องให้กับวง HipHop และเขายังเขียนเพลง และร้องเพลงให้กับวง BK1 เพลงหนีไม่พ้น จากอัลบั้ม T-Hop รวมไปถึง การได้รับเลือกให้เป็นหนุ่มโสดที่น่าสนใจจากนิตยสารผู้หญิงอันดับ 1 อย่างคลีโอมาแล้ว แต่เขากับสิงห์ยังคงเกาะกลุ่มเล่นดนตรีกันอย่างเหนียวแน่น ในระหว่างนั้นสิงห์ก็ยังเล่นดนตรีและทำเพลงของวงตลอดเวลา
ก้าวต่อๆมาของวินและสิงห์ก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาทำเพลง อาจยังไม่สาย และ ฉันไม่เหงา ในนามวง Sqweez Animal ออกวางขายในงาน Fat Festival 4 9อนปลายปี 2547 ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีทั้งที่ยอดขาย และอันดับในชาร์ตเพลงที่เข้าไปถึง Top 5 ของแฟตชาร์ตได้ทั้ง 2 เพลง และหลังจากการตระเวน แสดงดนตรีตามที่ต่างๆ ตั้งแต่งานเล็กไปถึงงานใหญ่ ตั้งแต่กรุงเทพ๐ไปถึงเชียงใหม่ แคมปัสทัวร์ในมหาวิทยาลัยอีกหลายต่อหลายแห่ง จนวันนี้ที่ฝีมือและความมั่นใจเต็มเปี่ยม ก็ถึงเวลาของอัลบั้มเพลงเต็มรูปแบบจากวง Sqweez Animal ในสังกัด Spicy Disc แล้ว

อัลบั้ม : อาจยังไม่สาย
อาจยังไม่สาย คือ อัลบั้มที่วิน และ สิงห์ตั้งใจทำเต็มที่ให้สมกับเป็นงานชุดแรกในชีวิต วินรับหน้าที่แต่งเพลงและร้องเพลง ส่วนสิงห์ ก็โชว์ฝีมือทางดนตรีโดยเป็นผู้เรียบเรียบดนตรีแทบจะทั้งหมด โดยมี มณเฑียร แล้วกำเนิด หรือ โต้ง Save The Last Piece คอยทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้ หากมีใครถามพวกเขาว่า งานชุดนี้มีคอนเซ็ปหรือคำจำกัดความแนวดนตรีอะไรหรือไม่ ทั้งสองหนุ่มก็คงส่ายหน้าแล้วบอกด้วยความภูมิใจว่า มันเป็นเพียงอัลบั้มที่พวกเขาทำในสิ่งที่ชอบเท่านั้น มันอาจจะมีกลิ่นของดิสโก้ ร็อก โซล หรือ อาร์แอนด์บี หรือแม้แต่อารมณ์ชิล์เอาต์แบบที่กำลังฮิตกันอยู่บ้าง เนื้อเพลงก็มีความเป็นป๊อปแบบที่มีวุฒิภาวะ แต่โดยสรุปแล้ว ทุกๆเพลงในอัลบั้มนี้ก็คืองานเพลงที่นำเสนอในแบบของ Sqweez Animal เท่านั้นเอง

15 เพลง จาก Sqweez Animal

1. Intro ฟังสบายๆ เพราะๆ จาก Sqweez Animal ก่อนที่จะนำเข้าสู่อีก 14 เพลงของเขา 2 คน

2. ครึ่งสายตา เปิดอัลบั้มด้วยเพลงงสนุกๆ กับกีตาร์คอร์ดแบบฟังก์ และกีตาร์ไฟฟ้าเป็นสีสันอยู่ฉากหลัง สื่อสารอารมณ์คึกคักของการตกหลุมรักแบแรกพบชวนให้ขยับเท้า และร้องตามเสียงร้องที่สนุกสนานของวิน เพลงนี้เป็นเพลงแรกๆ ในชีวิตที่วินแต่งเอาไว้

3. รักกันดีไหม อีกเพลงรักสนุกๆ คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นจังหวะดิสโก้บ้าง แต่ก็เป็นดิสโก้แบบร่วมสมัย มีเสียงอิเล็กทรอนิกส์อย่างเบสซินธ์ ที่ให้จังหวะหนักแน่นถึงขนาดที่อาจจะไปเปิดเป็นเพลงเต้นรำในคลับต่างๆได้เลย ทีเดียว

4. ฉันไม่เหงา เพลงเบาๆ เพราะๆ ที่เคยดังมาแล้วใน แฟตชาร์ต ถูกนำมามิกซ์ใหม่ในอัลบั้มนี้ เพลงนี้เป็นเพลงที่มีส่วนผสมของป๊อป บอสซาโนวา และแจ๊ส มี เครื่องดนตรีอย่างเปียโน และดับเบิ้ลเบสมาเพิ่มความนุ่มนวล รับกับเสียงร้องของวินที่ทั้งตัดพ้อและออดอ้อนคนรักอยู่ในที ทั้งที่ปากก็พร่ำบอกว่าไม่มีเธอก็คงไม่เหงาสักเท่าไหร่

5. รักไม่หลอก เพลงเท่ห์ๆที่คล้ายการเดินทางไปไกลไปพบเจออารมณ์หลากหลาย เริ่มต้นด้วยการประสานกันระหว่างกีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า พร้อมด้วย Groove ของกลอง และความหนักแน่นของเบส นำพาไปสู่ท่อนฮุกที่จะกลายเป็นดิสโก้ ก่อนจะถึงดิสโก้พร้อมด้วยช่วงเบรกซึ่งจะเป็นซาวด์ที่ล่องลอยอยู่ก่อนท้าย เพลง

6. ไม่มองกลับหลัง เพลงที่เป็นป๊อปร็อคชัดเจนเพลงเดียวในอัลบั้ม ขึ้นต้นด้วยซาวด์เอฟเฟคต์ กับกีตาร์ไฟฟ้าซึ่งเป็นตัวคุมจังหวะของเพลง ก่อนจะมาระเบิดเป็นร็อคในท่อนฮุก กลายเป็นเพลงสนุกๆน่าโยกหัวตาม

7. ทำไงดี เพลงจากการแต่งเนื้อ และร้องโดยสิงห์ ด้วยแนวโซลที่ฟังแล้วรู้สึกได้ว่าพลิ้วล่อยลอย มืดมน แต่ก็ไพเราะและสวยงาม เป็นอีก 1 เพลงที่บอกเล่าอีกแง่มุมในดนตรีของ Sqweez Animal ได้เป็นอย่างดี

8. นางในฝัน เพลงช้าๆที่ซาวด์จะไปทางฝั่งอังกฤษตามถิ่นฐานที่ทั้งวินและสิงห์เคยใช้ชีวิต อยู่ ในแนวที่เรียกว่า บริตป๊อป นั่นเอง เพลงรักเพลงนี้ดนตรีจะปูพื้นด้วยกีตาร์โปร่ง เปียโน เบส มีซาวด์ล่องลอยคล้ายหลุดลอยออกไปนอกห้วงอวกาศอยู่ข้างหลัง ดนตรีเล่นง่ายๆ แต่เนื้อหานั้นชั่งเป็นเพลงเศร้าที่ทำใจได้ไม่ง่ายเลย

9. อีกสักครั้ง เพลงนี้ใช้กีตาร์ไฟฟ้า 12 สาย เป็นสีสันเฉพาะบทเพลง ด้วยลีลาแบบโซลและป๊อป มีสีสันกรู๊ฟของกลอง กีตาร์แบบฟังก์ และเสียงไพเราะของเปียโน

10. อาจยังไม่สาย เพลงจากอีพีอีกเพลงที่นำมาปรับแต่งใหม่ เพลงเท่ห์ๆ เพลงนี้เริ่มต้นช้าๆ ก่อนจะเข้าจังหวะชวนโยกหัวน้อยๆ กีตาร์ไฟฟ้าโชว์ลีลาง่ายๆ แต่งดงาม เบสไลน์แอบชวนให้คึกคัก กลองตีพร้อมจะส่งอารมณ์ให้เสียงร้องของวินระเบิดอารมณ์ได้ทุกเมื่อ ลองตั้งใจฟังกันดู แล้วจะพบว่ายังไม่สายที่พวกเขาจะสื่อความหมายในใจใช่ไหม

11. Materialistic เพลงดิสโก้อีกเพลง แต่เป็นดิสโก้แบบหนืดหน่วง ชวนเต้นแต่ไม่ถึงกับชวนดิ้น เป็นการโยกย้ายแบบสบายๆ ไปกับเนื้อหาว่าด้วยวัตถุนิยม บวกกับเมโลดี้ที่ชวนวาบหวิว ฟังไปเต้นไป และคิดตามไป ก็จะได้ความบันเทิงในหลายมิติ หลากมุม

12. Let’s cry เป็นเพลงช้าซึ้งๆ ทางเดินคอร์ดติดหู เป็นเพลงที่น่าจะถูกใจใครๆได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือเป็นการผสมผสานกันระหว่างความเก่าและใหม่ได้ดังใจของ Sqweez Animal ทั้งท่วงทำนองแบบเก่าๆ แต่การเรียบเรียงกีตาร์แบบสมัยใหม่ ในขณะที่เบสก็เป็นดับเบิ้ลเบสแบบโบราณเพื่อให้ได้เสียงที่ใหญ่โตลึกซึ้ง

13. เริ่มใหม่ เพลงโปรโมตเพลงแรกของอัลบั้มนี้ ซาวนด์ทั้งกีต้าร์ เบส กลอง จะย้อนยุคไปถึงช่วงทศวรรษที่ 70 เมโลดี้ติดหู เสียงร้องเท่ห์ขาดใจ แต่ที่เท่ห์ที่สุดก็คือ ท่อนฮุกที่ร้องว่า เพียงเรายอมรับวันใหม่ เพียงเรายอมรับวันเก่าๆที่ผ่านไป เป็นคำคมง่ายๆ ที่อาจจะเป็นปรัชญาในการค้นพบความรักที่มีความสุขก็เป็นได้

0007