Share Button

ดรอปโซนฯ ทุ่มงบกว่า 100 ล้าน พร้อมผนึก ททท. – ไทยแอร์เอเชีย สร้างปรากฏการณ์ใหม่มิวสิกเฟสติวัล หนุนไทยขึ้นเดสติเนชั่นใหม่เทศกาลดนตรีระดับโลก – ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ปรากฏการณ์มิวสิค เฟสติวัล รูปแบบใหม่ในภูมิภาคเอเชีย เป็นครั้งแรก!!!บริษัท ดรอปโซน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์นำโดย 2 ผู้บริหารของบริษัท อาทิคุณเมลตี้ เมลาณีตันติวานิชและมร.เฮอมาน พาเลา ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท พร้อมผนึกกำลังกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยคุณยุทธศักดิ์สุภสรผู้ว่าการททท.และสายการบินไทยแอร์เอเชีย โดยคุณซูซาน ยิน ผู้บริหารของสายการบินจัดแถลงข่าวการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก “Dropzone Festival Bangkok 2018 (ดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018)โดยภายในงานแถลงข่าวยังมีคณะผู้บริหารจากภาคส่วนอื่น ๆ อาทิ คุณวินิจเลิศรัตนชัย CEO บ.เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ให้เกียรติมาร่วมงานและพูดคุยบนเวทีกันอีกมากมาย ตลอดจนเหล่าศิลปินดารา อาทิ เคนภูภูมิพงศ์ภาณุ , ทิมมี่ทิโมธีสุปรีย์ลีลาติช่ากันติชาชุมมะที่มาร่วมโชว์เรียกน้ำย่อย ณพารากอนซีนีเพล็กซ์ วันก่อน


ทางด้านนางสาวเมลาณี ตันติวานิช เอ็กเซ็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์ บริษัท ดรอปโซน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงานเทศกาลดนตรี ดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018 เปิดเผยว่า “งานเทศกาลดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ (International Tech – Music Festival) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนทั่วโลกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 60% และประเทศไทยก็เป็นตลาดหนึ่งที่มีศักยภาพที่พร้อมมากในการจัดงานเทศกาลดนตรีระดับโลก บริษัทฯ จึงได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท จัดงาน “ดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018” เทศกาลดนตรีในรูปแบบ Tech – Integrated Music Festival เป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 2 – 3 มีนาคม 2561 นี้ ณ วันเดอร์เวิร์ลเอ็กซ์ตรีมปาร์ค (Wonderworld Extreme Park) ถนนรามอินทราโดยงานมหกรรมดนตรีระดับโลกดังกล่าวนี้ บริหารจัดการตามมาตรฐานระดับโลก ทั้งระบบภาพ แสง และเสียงที่มีเทคนิคสุดล้ำทันสมัย และมีทีมงานชื่อดังจากยุโรป Switch Audiovisuals ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงาน Sónar Barcelona ร่วมกับ Ledscontrolทีมงานด้านโปรดักชั่นดีไซน์ระดับโลกที่มีรางวัลการันตีมากมาย และยังเป็นผู้สร้างเวที Garuda ของ DWP และคลับชื่อดังต่างๆ ของโลกรวมถึง Zoukในสิงคโปร์ และซุเปอร์คลับอย่าง Space และ Amnesia ที่อีบีซาในสเปนอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญสายต่างๆ ที่มีผลงานระดับแนวหน้าของยุโรปอีกเป็นจำนวนมาก เช่น Tomorrowlandและ PrimaveraSound เป็นต้น ที่สำคัญความสดใหม่และความไม่ธรรมดาของงานนี้คือ ความสร้างสรรค์ในการผสมผสานคุณสมบัติของวีดีโอเกมส์ และภาพยนตร์เข้าไปในเทศกาลดนตรีได้อย่างลงตัว ซึ่งทีมงานพร้อมพันธมิตรการันตีว่างานนี้จะฉีกกฎ และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับมิวสิคเฟสติวัลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย ทั้งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของการจัดงานมิวสิคเฟสติวัลระดับโลกอีกด้วย” นางสาวเมลาณีกล่าว

นางสาวเมลาณีกล่าวต่อไปว่า“บริษัทฯ วางแผนจะจัดงานขึ้นเป็นเทศกาลประจำปีในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวถึง 5 ปี (2561–2565) โดยทั้ง 5 ครั้งนี้จะจัดเป็นธีมในแนวนวนิยายแบบ Sci-fi ที่บอกเล่าเรื่องราว Post – apocalyptic หรือโลกในยุคที่เพิ่งผ่านพ้นจากภัยพิบัติแบ่งเป็น 5 ตอนด้วยกัน โดยในปีแรกใช้ชื่อว่า Chapter 1: Apocalypse เป็นการเปิดตัวและแนะนำนักปาร์ตี้ทั้งหลายสู่โลกแห่งดรอปโซน เน้นไปที่สุนทรียะแนวไซเบอร์พังก์ โดยมีเหล่า Audiomancers หรือดีเจแนวอิเล็กทรอนิกส์มิวสิคชื่อดังมากมาย อาทิ Dash Berlin, Kaskade, Sven Väth, Paul Van Dyk, Valentino Khan ฯลฯ ประจำอยู่ตามเวทีต่างๆ ซึ่งผู้จัดตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ให้งานนี้เป็นงานปาร์ตี้แบบเกมส์MMORPG เสมือนจริงครั้งแรกในโลก เรามีเวทีหลัก 3 เวทีคือ The Core, The Station และ The Armory นอกจากนี้ยังมีโซนต่างๆ อาทิ โซน The Arcade ที่มี 360VR Domeของเล่นจากPro-toys และInstaroidพร้อมผลงานจากสตูดิโอภาพยนตร์ชื่อดังของโลก และของเล่นเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย โซน The Arena เป็นโซนเล่นยิงเลเซอร์นำเสนอโดย Lazgamและ The Bazaar โซนอาหารและงานศิลปะที่จะถูกตกแต่งเสมือนฉากในภาพยนตร์Sci-fi ต่างๆ และในปีต่อๆ ไปเราก็จะเน้นการสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าขึ้นไปเรื่อยๆ โดยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สนุกกับการเล่นและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกที่ดรอปโซนได้สร้างขึ้นการจัดงานในครั้งนี้เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสายการบินแอร์เอเชียพร้อมทั้งหน่วยงานภาคเอกชนอีกหลายองค์กรซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่าการจัดงานเทศกาลดนตรีดรอปโซน เฟสติวัล แบงค็อก 2018 จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาท่องเที่ยวในเมืองไทยเพิ่มมากขึัน อีกทั้งยังทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเดสติเนชั่นใหม่แห่งเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติอีกด้วย”
สำหรับบัตรเข้างานจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 3,500 บาท แบ่งเป็นบัตร EARLY ACCESS Silver Pass(2 วัน) และ Gold Pass (2 วัน) พร้อมมี Diamond Dome สำหรับ 10 ท่าน และ Gold Tables สำหรับ 6 ท่าน โดยบัตรแต่ละประเภทจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆกันผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถซื้อบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/event/dropzonefestivalbangkok2018และทำการสำรอง Diamond Dome ได้ที่ อีเมล์: reservations@dropzonefestival.com// ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซด์:www.dropzonefestival.com และช่องทางโซเชียล มีเดีย ได้ที่ : @dropzonefestivalทั้งนี้ทางผู้จัดมั่นใจว่าผู้เข้าร่วมงานจะได้รับความสนุกสนานพร้อมสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นประทับใจมากมายในงานเทศกาลดรอปโซนเฟสติวัล รวมไปถึงการจัดพรีปาร์ตี้ (Pre – Party) ที่คลับชั้นนำของเมืองไทยก่อนวันจัดงานจริงอีกด้วย

Facebook Comments
Share Button