Share Button

CHICAGO JUSTICE ซีซั่น1 ออกอากาศทุกวันอังคารเริ่มเป็นตอนแรกในวันที่2 มีนาคม2017เวลา20.55 น. ทางช่องSony Channel ทรูวิชั่นส์ช่อง135 (HD) และ225โดยออกอากาศในสัปดาห์เดียวกันกับที่ออกอากาศในอเมริกา
เรื่องย่อ
‘Chicago Justice’ เป็นซีรีส์เรื่องที่สี่ของจักรวาลChicago ที่สร้างโดยDick Wolf อดีตผู้สร้างซีรีส์กฏหมายที่คอซีรีส์ต้องรู้จักอย่าง ‘Law&Order’ นำแสดงโดยPhilip Winchester (“Strike Back”) ผู้นำทีมอัยการและนักตรวจการที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้านกฎหมายและรับมือกับคดีใหญ่ๆของเมือง “Windy City” ภายใต้การนำของอัยการ Mark Jefferies (Carl Weathers, “Rocky”), อัยการ Peter Stone (Winchester) และเพื่อนร่วมงานของเขาที่ทำงานหักโหมแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในสืบหาความจริงเพื่อรักษาความยุติธรรมและรักษาซึ่งกฎหมายไว้แต่การสืบสวนที่ท้าทายและคดีที่มีเงื่อนงำซับซ้อนมักจะทำให้เกิดเส้นบางๆระหว่างความถูกต้องและความผิดที่มาทำให้ทีมงานผู้ที่ต้องรักษาความยุติธรรมนั้นเกิดความกลัวและหวั่นไหว

บทสัมภาษณ์ CHICAGO JUSTICE

CARL WEATHERS รับบทเป็น “MARK JEFFERIES”

ผู้สื่อข่าว: คุณได้เตรียมตัวในการแคสงานเรื่องChicago Justiceอย่างไรบ้าง?
CARL WEATHERS:ผมก็อ่านบทก่อนเตรียมเข้าที่ประชุม แล้วเค้าก็อัดวิดีโอผมไป แล้วผมก็ได้งานเลยครับ (หัวเราะ)…

ผู้สื่อข่าว: เล่าให้เราฟังเกี่ยวกับบทที่คุณรับเล่นสักหน่อยได้มั้ย?
CARL WEATHERS:ผมเล่นเป็น Mark Jefferies ครับ เขาเป็นอัยการประจำรัฐ Cook County รัฐหนึ่งในชิคาโก้ โดยเรื่องนี้ได้เล่าถึงเรื่องราวความวุ่นวายที่เกิดภายในเมืองใหญ่ และการทำงานขององค์กรของเราในการดำเนินคดีผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรในฐานะผู้บริหารรัฐโดยการเลือกตั้งภายในองค์กรอัยการรัฐ ผมต้องควบคุมการทำงานของพนักงานของผม และต้องมั่นใจว่าพวกเขาจะดูแลกิจการของชิคาโก้ได้เป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าว: ก่อนที่จะเล่นเรื่องนี้ คุณได้มีความรู้เกี่ยวกับโลกของนักกฎหมายบ้างหรือไม่?
CARL WEATHERS:น้อยมากครับ โชคดีที่ผมไม่เคยมีเรื่องที่จะต้องเข้าไปที่สถานีตำรวจเพราะว่าผมก่ออาชญากรรมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดหรือรับอยู่ใกล้กับอาชญากรรม (หัวเราะ) … แต่แน่นอนว่าผมเห็นข่าว ผมอ่านหนังสือพิมพ์ ผมชอบเรื่องราวแบบนี้ เราโชคดีที่ได้ทำงานกับDick Wolfเพราะว่า Dick เป็นคนที่ในวงการบันเทิงรู้กันดีเกี่ยวกับผลงานทางทีวีโชว์และเนื้อเรื่องของซีรีย์โทรทัศน์ของเขาว่ามันดีแค่ไหน ดังนั้นผมจึงมั่นใจว่ายังไงงานมันก็ต้องออกมาดีครับ
ผู้สื่อข่าว: บทอัยการรัฐของเรื่องนี้แสดงถึงการเป็นนักการเมืองแบบสุดกู่ หรือว่าผู้ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมกันแน่?
CARL WEATHERS:เป็นคำถามที่ดีมากนะเนี่ยผมคิดว่าเขาเป็นนักการเมืองที่มีความทะเยอทะยานและยังเป็นข้าราชการที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่องานเป็นอย่างมากแต่ว่าไปแล้วคำจำกัดความมันก็ยังคลุมเครืออยู่ และผมคิดว่ามันเป็นเสน่ห์ของบทMark Jefferiesซึ่งขึ้นอยู่กับทัศนคติของผู้ชมที่จะตัดสินว่าเขาเป็นคนดี หรือว่าเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงกันแน่ (หัวเราะ) …
ผู้สื่อข่าว: บทของคุณกับบท Philip Winchester มักจะมีปัญหากันตลอดเลยใช่มั้ย?
CARL WEATHERS:ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะ ผมว่าเราควรเรียกว่า ความเห็นไม่ลงรอยกันมากกว่ามันแค่เป็นความขัดแย้งเล็กน้อย ประมาณว่าถ้าเจ้านายของคุณต้องการให้คุณทำงานอะไรบางอย่าง แต่คุณไม่สามารถทำได้ตรงตามเวลาที่ต้องการ หรือไม่ได้ทำในแบบที่เจ้านายของคุณต้องการ เจ้านายของคุณก็มักจะตักเตือนคุณเสมอ อะไรประมาณนั้น
ผู้สื่อข่าว: เราได้ยินมาว่า ซีรียเรื่องนี้ได้มีบางส่วนที่ผูกโยงกับเรื่องราวในชีวิตจริงของนักแสดงแต่ละคนด้วย
CARL WEATHERS:ผมก็คิดว่าอย่างนั้น และก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ จริงๆแล้วเวลาที่เรารับบทแต่ละบทนั้น บางทีเราก็เพิ่งจะได้รู้ว่าเราจะต้องไปเจออะไรบ้างเพียงแค่หนึ่งวัน หนึ่งคืน หรือไม่กี่ชั่วโมงล่วงหน้า… เพราะฉะนั้นมันคงจะดีถ้าได้มีอะไรบ้างอย่างสอดคล้องกับชีวิตจริงของเราหรือมีความเป็นตัวตนของเราซ่อนอยู่
ผู้สื่อข่าว: คุณได้มีบทที่จะต้องไปอยู่ในห้องพิจารณาคดีบ้างมั้ย?
CARL WEATHERS:ไม่นะ งานในบทของผมจะเป็นการบริหารงานโดยรวมมากกว่า… โดยเรื่องราวในเรื่องจะเล่าเกี่ยวกับว่า เขาได้มีระบบการจัดการ การบริหารองค์กรอย่างไร หรือแม้กระทั่งว่าเขาทำอย่างไรเพื่อให้เขาได้หน้า

JOURNALIST: Did you base him on anybody?
CARL WEATHERS:Not really. I think the scripts that the writers has given us so far are great. With every role I’ve ever done, I try to bring certain things to it that ultimately are kind of the way I’d like to see the world… And so I try to take a lot of that and really infuse whatever I’m doing with that. So far, after 45 years, it’s worked. People seem to remember me in those performances, regardless of what’s on the page… I’ve said this many, many times over the years, but one of the things I wanted to do when I was very young was I wanted my sons to be able to look at something that I did and never have to ask me the question, “Dad why did you do that?” And so whether they’re my biological sons or all the sons that every man has, you know, can you have them not ask, “Why did you do that?”

JOURNALIST: Justice is a spin-off of the three previous series. How important is it to establish itself as its own show also?
CARL WEATHERS:Well I don’t see it as a spin-off, really. I mean we were introduced in P.D., you know. But that story was contained by the fact that it was really about these people in the State’s Attorney’s office. And at this point, I mean we’re… You know we’re in the business of defining who we are and defining what this show is about. And personally, I think we’ve done it. We’re five episodes in now. But I think right off the bat, in the first one, it had a tremendous amount of definition and shape to it. When I read the first script, to me, it was so clearly what it was. Which is why I wanted to be a part of it.

JOURNALIST: Any piece of advice that Dick Wolf gave you going in?
CARL WEATHERS:(Laughs)… None.

JOURNALIST: No words of wisdom?
CARL WEATHERS:I mean, he’s wise, period (laughs)… But no. There was one point when I called him and I was talking about something and basically he just said, “Don’t worry. We’ll get it there.” And you what? We got it there. He’s done this. He’s been there and done that. So being a part of one of these shows is a very secure feeling from the very top. I mean it’s run so well. People just seem to do their job, get along, and keep moving.

JOURNALIST: You said you liked to make your characters memorable. What will people remember most about this character?
CARL WEATHERS:That’s going to be up to the person who’s watching. Hopefully I will infuse it with enough good stuff that you can choose what’s memorable to you.

JOURNALIST: What do you like most about him?
CARL WEATHERS:There’s a lot of things that I like – are you kidding me? A lot of things that I like. But what I’d really like is for people, the audience, to walk away with some of their own preconditioned ideas dispelled. For a moment, for a second, for an hour, lose themselves in the show and find some appreciation in Mark Jefferies that they could not have imagined earlier. To see a character crafted that is a side of me that they hadn’t experienced before. And ultimately that they want to come back to next week and check it out again. And then the following week, again. And then again and again. That to me is success.

PHILIP WINCHESTER
รับบทเป็น“PETER STONE”

MONICA BARBARO
รับบทเป็น “ผู้ช่วยอัยการรัฐ ANNA VALDEZ”

ผู้สื่อข่าว: ขอแสดงความยินดีกับเรื่องChicago Justice ด้วยนะ คุณรู้สึกยังไงบ้างกับการแสดงเรื่องนี้?
PHILIP WINCHESTER: มันจะต้องได้รับการตอบรับที่ดีแน่ครับถึงมันต่างจากงานใหญ่ๆเรื่องอื่นที่ผมเคยทำมาแต่ผมเชื่อว่ามันจะออกมาดีแน่นอน สำหรับผมเองแล้ว เรื่องนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และฝึกทักษะใหม่ มันท้าทายมากนะครับเมื่อเช้า Eamonn Walker จากเรื่อง Chicago Fire) เพิ่งถามผมว่าเป็นไงบ้าง ผมก็บอกว่า “ผมโอเค…” แต่ก็ต้องเตรียมรับมือกับอุปสรรคที่จะถาโถมเข้ามาเสมอ ตอนนี้ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ในห้องพิจารณาคดีผมก็จะนั่งฝึกซ้อมบทของผมตลอด… ผมยังไม่เข้าใจภาษาทางกฎหมายสักเท่าไหร่ ทุกวันผมจะมีคำถามเสมอเวลาที่อ่านบทว่า “มันแปลว่าอะไรเนี่ย” แต่นักเขียนที่เขียนบทเรื่องนี้เจ๋งสุดๆ พวกเราเลยต้องทำงานหนักมากๆ

ผู้สื่อข่าว: ตอนนี้ถ่ายทำกันไปถึงไหนแล้ว?
PHILIP WINCHESTER: ตอนที่ 5 แล้วครับ ผมหล่ะแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามัน 5 ตอนแล้ว

JOURNALIST: คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับบทที่คุณเล่นให้เราฟังหน่อยได้มั้ย
PHILIP WINCHESTER: ผมเล่นเป็น Peter Stone ผู้ช่วยอัยการรัฐCook County ภายใต้การควบคุมของMark Jefferies (รับบทโดยCarl Weather)และเขาก็เป็นลูกชายของBen Stone ด้วย

JOURNALIST: นี่เราเพิ่งรู่นะเนี่ย
PHILIP WINCHESTER: ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน! (หัวเราะ)… จริงๆก็เพิ่งรู้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเองนี่แหละ (หัวเราะ)…
MONICA BARBARO: ฉันเองเพิ่งรู้วันนี้เหมือนกันค่ะ

ผู้สื่อข่าว: เราเองก็เพิ่งรู้ชื่อของตัวละครที่คุณเล่นวันนี้เองเช่นกัน
MONICA BARBARO: ใช่ค่ะ เพิ่งประกาศสดๆร้อนเลย ฉันเพิ่งได้รับบท“ผู้ช่วยอัยการรัฐ”

ผู้สื่อข่าว: เขาบอกคุณแค่นั้นเหรอ
MONICA BARBARO: ดูเหมือว่าฉันจะเป็นตัวละครเสริมจากตัวหลักที่เขาได้ตั้งไว้นะ แต่มันเป็นบทที่ดีมาก…

ผู้สื่อข่าว: ช่วยเล่าบทที่คุณเล่นให้เราฟังหน่อย?
MONICA BARBARO: ฉันเล่นเป็น ผู้ช่วยอัยการรัฐชื่อ Anna Valdez ตำแหน่งเดียวกันกับ Philip ผู้ทำงานอยู่ในคนละเขตปกครอง การได้รับเลือกจ้างของเธอนั้นเป็นเคสพิเศษ เพราะว่าโดยปกติแล้ว Cook County จะจ้างเสมียน และทนายภายเขตของเขาเท่านั้น แต่เขาได้เกิดประทับใจใน Anna เป็นพิเศษเลยจ้างเธอ! ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นของเรื่องเราทั้งสองจะต้องหาทางในการจูนการทำงานของกันและกันให้ติด
PHILIP WINCHESTER: มันเลยทำให้งานเรื่องนี้ออกมาดีไงครับ
MONICA BARBARO: ใช่ค่ะมันเพอร์เฟกต์เลย! ตอนถ่ายเสร็จเรามานั่งดูกัน และเราก็รู้สึกชอบมันมาก

ผู้สื่อข่าว: เราได้ยินมาว่าบทของ Philip ค่อนข้างยาก บางครั้งเค้าก็เกิดโทสะ เพราะเค้ามีความสามารถในการล่วงรู้สถานการณ์ล่วงหน้าใช่มั้ย?
PHILIP WINCHESTER: ใช่ครับ
MONICA BARBARO: จริงค่ะ เขาสามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ผู้สื่อข่าว: ส่วนบทของคุณ คุณมีหน้าที่ที่จะทำให้เขาอ่อนลงบ้างใช่มั้ย?
MONICA BARBARO: จริงแล้วเธอไม่มีสิทธิที่จะบอกให้เค้าสงบลงนะคะ
PHILIP WINCHESTER: แต่เธอก็ทำ
MONICA BARBARO: ใช่ค่ะ… เขาทั้งสองมักจะมีความเห็นไม่เหมือนกัน แต่เธอก็มีวิธีของเธอในการจัดการ
PHILIP WINCHESTER: ผมว่านี่แหละครับเป็นจุดที่ทำให้เรื่องมันสนุก และน่าสนใจแต่ละคนไม่เห็นตรงกันสักอย่าง
MONICA BARBARO: พวกเขาค่อนข้างตึงเครียด มันเป็นเรื่องที่ไม่มีความโรแมนติคเข้ามาแทรกแซงเลยแต่การรวมตัวกันของตัวละครในเรื่องนี้ทำให้เรื่องมีพลังในการดำเนินเรื่อง และมันก็เข้ากันกับเรื่องราวของกฎหมายได้เป็นอย่างดี
PHILIP WINCHESTER: เราทั้งหมดมักจะมีความเชื่อเหมือนกันในบางเรื่อง เพียงแต่เรามีมุมมองบางมุมที่ต่างกันเท่านั้นเอง

ผู้สื่อข่าว: Philip บอกว่าเขาต้องเรียนรู้เยอะมากสำหรับบทใหม่นี้ แล้วคุณหล่ะ?
MONICA BARBARO: ฉันโตมาพร้อมกับเรื่องLaw & Orderนะ(หัวเราะ)…ฉันเป็นแฟนตัวยงของละครทางกฎหมายเลยหล่ะ แต่เรื่องของภาษาทางกฎหมายก็ยังยากสำหรับฉันอยู่ดี บางทีฉันก็ยังสับสนและไม่เข้าใจเกี่ยวกับการ “คัดค้าน” ของศาล และอะไรที่พยานสามารถ และไม่สามารถตอบได้ในการถามคำถามของทนาย มันค่อนข้างยากที่จะเข้าใจได้

ผู้สื่อข่าว: เรื่องนี้ต่างจากซีรีย์ทางกฎหมายเรื่องอื่นอย่างไง
MONICA BARBARO: เราไม่มีดนตรีประกอบตอนสรุปเรื่องไง
PHILIP WINCHESTER: และเราก็ไม่มีกีตาร์โซล่ตอนเริ่มต้นเรื่องเหมือนLaw & Order ด้วย (หัวเราะ)… ผมว่าถึงแม้ว่าแนวเรื่องจะคล้ายกัน แต่ครั้งนี้เราปรับมาทำให้ดีกว่า เรามีพนักงานสืบสวนที่ออกไปทำการสืบสวน จับผู้ต้องสงสัย จัดการการผู้ร้ายในบางครั้ง และงัดข้อมูลมาให้กับเรา แล้วเราก็เอาเรื่องราวมาปะติดปะต่อกันก่อนนำเรื่องเข้าศาล หากเป็นสมัยก่อนเราคงโดลงจาเฮลิคอปเตอร์ แล้ววิ่งเข้าไปต่อยผู้ร้าย แต่เรื่องนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้นเลย
MONICA BARBARO: ฉันชอบลุคของพวกเรานะ (หัวเราะ)…

ผู้สื่อข่าว: คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้เจอ Dick Wolf เป็นครั้งแรก?
PHILIP WINCHESTER: ผมเกร็ง และกังวลมาก เพราะเรากำลังคุยถึงโอกาสที่ผมจะได้ร่วมงานนี้(หัวเราะ)… เขามีพูดออกมาว่า “ผมไม่ใจว่าคุณจะเหมาะกับเรื่องนี้รึเปล่า” และผมก็ตอบไปว่า “ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” แล้วเขาก็พูดว่า “งั้นมาลองดูกันสักตั้ง” ขณะนั้นผมก็คิดว่า ใช่สิเขาคือ Dick Wolf หนิ ผมจะพูดอะไรได้อีก? แน่นอนหล่ะครับว่าเราได้ลองกันมาถึงจุดนี้ บอกได้เลยว่าเขาเป็นผู้จัดที่สุดยอดจริงๆเขามาจัดการและดำเนินการควบคุมการถ่ายทำเองทุกอย่างเอาจริงๆนะครับ ผมว่าระดับเขาแล้วไม่ต้องมาทำเองทุกอย่างแบบนี้แล้ว แค่เข้ามาเช็คงานในกองก็พอ
MONICA BARBARO: ส่วนของฉัน ครั้งแรกที่ฉันรอพบเขา เขานั่งอ่านหนังสือด้านเคมีอยู่ในห้องทำงานของเขา ซึ่งเหมือนกับห้องทำงานของอัยการมาก ห้องทำงานเขาอย่างกับห้องสมุด ฉันว่า “มันเจ๋งมาก”

ผู้สื่อข่าว: เราได้ยินมาว่า ในเรื่องนี้ได้มีตอนที่คุณต้องกล่าวโอวาท หรือว่าต้องพูดโซโล่คนเดียวเยอะมาก?
PHILIP WINCHESTER: ใช่ครับ (หัวเราะ)… มันเป็นใจหลักสำคัญราวกับว่าเป็นส่วนสมองของร่างกายเลยก็ว่าได้ มันค่อยเริ่มง่ายขึ้นเรื่อยเมื่อผมได้ฝึกเยอะขึ้น. แต่ผมก็ต้องหมั่นฝึกฝนมันอยู่เพื่อไม่ให้พลาดได้ง่ายๆ
MONICA BARBARO: ในทุกการเปิด และปิดของการโต้วาทะในศาลจะต้องเป็นการกล่าววาทะนำเรื่องและสรุปเคสเพียงคนเดียวค่ะ
PHILIP WINCHESTER: และปกติแล้ว… ตอนจบในแต่ละตอนมักจะจบในศาล ซึ่งคุณต้องกล่าววาทะจากบทกว่า 16 หน้าในการเปิด และปิดคดี
MONICA BARBARO: และเราต้องถ่ายทำในทุกมุมกล้อง รวมๆแล้วก็เท่ากับว่าเราต้องพูดบทนั้นกว่า 50 ครั้ง

ผู้สื่อข่าว: อะไรคือสิ่งที่คุณได้รับจากเรื่องี้?
PHILIP WINCHESTER: ก็เท่าที่ผมเล่ามาแค่นั้นแหละครับเพราะวันๆผมก็ได้แต่นั่งอยู่ที่ศาล นั่งฟังการโต้วาทะของอัยการ และเตรียมบทพูดของผม นี่ถ้าผมขายลูกแล้วได้หยุดจากงานนี้ไปทำอย่างอีกบ้างผมว่าผมจะทำละ
MONICA BARBARO: (หัวเราะ)…
PHILIP WINCHESTER: ล้อเล่นหน่า ผมไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอก (หัวเราะ)… พ่อรักลูกนะ Charlie พ่อรักลูกที่สุด!

MICHAEL S. CHERNUCHIN
โปรดิวเซอร์อาวุโส

ผู้สื่อข่าว: คุณได้รับโปรเจคซีรีย์เรื่องใหม่นี้ได้อย่างไร?
MICHAEL S. CHERNUCHIN:ผมรู้จักกันกับ Dick Wolf มานานมากแล้ว ผมเองเป็นผู้จัดเรื่องLaw & Orderด้วย ผมได้กำกับเรื่องนั้นมาหลายปี แล้วผมก็ได้รับโทรศัพท์จาก Dick โทรมาถามว่า “อยากทำโปรเจคนี้มั้ย?” ผมก็รีบตอบเลยว่า “แน่นอน”

ผู้สื่อข่าว: ช่วยเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับ Dick Wolfในการทำงานให้เราฟังหน่อย
MICHAEL S. CHERNUCHIN: ย้อนกลับไปเมื่อปี 1990 ผมได้เริ่มจากการเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ Law & Order เพิ่งจะเริ่มออกอากาศ ผมได้เตรียมตัวกลับไปที่นิวยอร์ก เพราะผมไม่ได้มีงานอย่างอื่ทำแล้วผมได้รับโทรศัพท์โทรมาว่า “เราต้องการให้คุณมาทำงานกับเรา เราได้แบ่งตอนที่คุณเขียนออกเป็นสองส่วน” และไม่กี่ปีต่อจากนั้นผมก็ได้เป็นผู้กำกับ (หัวเราะ)… ผมไม่คิดเลยว่าโทรศัพท์สายเดียวจะเปลี่ยนชีวิตผมได้ถึงขนาดนี้นี่ถ้าวันนั้นก็ไม่รู้ว่าชีวิตผมจะเป็นยังไงนะ (หัวเราะ)…

ผู้สื่อข่าว: What sets Dick Wolf and his shows apart for you?
MICHAEL S. CHERNUCHIN: Dick เป็นผู้ชายที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ผมเจอมา ผมกับDick สามารถนั่งดื่มและคุยกันได้ทั้งวัน คุยกันได้ทุกเรื่องไม่มีเบื่อเขารู้ว่าเขาควรขายอะไร และควรคุยกับใคร ดังนั้นตอนที่เขาบอกผมว่าอยากให้เรื่องนี้เข้มข้นยิ่งกว่า Law & Orderผมรู้เลยว่าเขาหมายความว่าอย่างไร… จริงๆแล้วผมก็ไม่ควรพูดว่าอย่างนั้นนะ ต้องเรียกว่ามันคือLaw & Order อีกเวอร์ชั่นมากกว่าประมาณว่าLaw & Order 2.0 อะไรอย่างนั้นแต่ละตอนจะมีตอนจบของมัน โดยคุณไม่ต้องรอลุ้นว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร เราจะได้รู้กันไปเลยว่าคนเลวจะต้องเข้าคุก หรือว่าหลุดออกมาได้

ผู้สื่อข่าว: แต่ตัวละครแต่ละตัวมีเรื่องที่ต้องสานต่อที่จะต้องปฏิบัติการในตอนต่อไปใช่หรือไม่
MICHAEL S. CHERNUCHIN: ใช่ครับ

ผู้สื่อข่าว: ตอนนี้ถ่ายทำกันไปถึงไหนแล้ว?
MICHAEL S. CHERNUCHIN: ตอนนี้เรากำลังเตรียมถ่ายทำตอนที่ 6 อยู่ครับ

ผู้สื่อข่าว: เรายังไม่ได้ดูตัวอย่างเลยสักตอน ช่วยบอกเราหน่อยได้มั้ยว่าเราจะได้ชมอะไรในChicago Justice?
MICHAEL S. CHERNUCHIN: คุณจะได้ชมคดีอาชญากรรมคุณได้ชมการทำงานของอัยการรัฐ, นักสืบสวน และการสืบคดีนอกจากนี้คุณจะได้ชมการฟ้องคดีของอัยการรัฐอีกด้วย คล้ายๆกับLaw & Order แต่ต่างกันตรงที่เรื่องนี้ไม่ได้มีแม่แบบที่ต้องตามตลอดเรื่อง อย่างเช่นต้องมีแต่ ‘ตำรวจ-ตำรวจ-ตำรวจ-ตำรวจ-ตำรวจ; ทนาย-ทนาย-ทนาย…’ แต่เรื่องนี้จะมีหลายส่วนเกี่ยวข้อง ปกติคนจะคิดว่าตำรวจจับผู้ร้าย แล้วติดตามเคสนั้นต่อ แต่จริงๆแล้วตำรวจส่งต่อไปให้อัยการรัฐดำเนินการต่อต่างหาก…
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือตัวละคร Carl Weather อัยการประจำรัฐในชิคาโก้ คนที่ได้กลายมาเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในชิคาโก้รองจากนายกเทศมนตรี โดยตำแหน่งนี้มาจากการเลืกตั้ง อีกทั้งเขายังเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจสั่งให้พนักงานสืบสวนของเขาทำทุกอย่างที่เขาต้องการ

ผู้สื่อข่าว: คุณได้มีการใส่เรื่องราวทางการเมืองลงไปในเรื่องนี้มั้ย?
MICHAEL S. CHERNUCHIN: แน่นอนอยู่แล้ว ผมชอบเรื่องการเมืองเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วและผมก็สามารถเขียนได้เป็นร้อยๆตอนเลยด้วยซ้ำ เพราะผมอยากให้ผู้ชมได้ชมมุมมองทั้งสองด้าน ละครที่ดีต้องมีตัวละครหลัก 5 ตัวที่มีความคิดเห็นต่างกัน แต่ก็ทำงานร่วมกันได้ นั่นแหละครับผมถึงเรียกมันว่าเป็นการลงตัวที่สมบูรณ์แบบ

ผู้สื่อข่าว: อะไรคือสิ่งที่คุณคิดว่ามันท้าทายมากที่สุดในการถ่ายทำซีรีย์เรื่องนี้?
MICHAEL S. CHERNUCHIN: เป็นคำถามที่น่าสนใจนะเนี่ย เราเตรียมที่จะถ่ายทำ 4 ตอนต่อเนื่อง แต่ติดปัญหาตรงที่การจัดตารางเวลาของนักแสดง เพราะพวกเค้าต้องไปถ่ายทำซีรีย์ตระกูลชิคาโก้เรื่องอื่นด้วย มันก็เลยไม่เสร็จสักที อันที่จริงแล้วเรื่องของเรานี่ง่ายสุดแล้ว เพราะแค่ไปถ่ายทำที่ศาล ไม่เหมือนเรื่องของหมอหรือว่าตำรวจดับเพลิง…
คุณรู้มั้ยว่าสิ่งที่ผมภูมิใจมากที่สุดในเรื่องนี้คือ ตอนที่ Philip จัดการกับผู้ต้องหาในห้องพิจารณาคดี… มีอยู่คืนหนึ่งผมนั่งอยู่บ้าน แล้วเปิดดูKing Lear และ ซ๊รีย์เก่าๆของ BBC… ผมเพิ่งรู้ว่าคนที่เล่นเป็น Edmund คือ Philip นั่นเอง ผมอึ้งจนหลุดคำพูดออกมาว่า ‘โอ้วแม่เจ้า… เค้าคือนักแสดงตัวจริง…ในการถ่ายทำเรื่อง Chicago Jusitce เค้าดำเนินเรื่องคนเดียวในการเปิดตัวเรื่อง แล้วเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม จนทีมงานทั้งหมดลุกขึ้นมาปรบมือให้เขา นี่ผมพูดจริงนะ ปกติไม่มีใครที่จะได้ใจทีมงานง่ายๆแบบนี้นะ(หัวเราะ)…

ผู้สื่อข่าว: Philip เล่นเรื่องStrike Back เช่นกัน และเขาก็มีบทบู๊เยอะมาก ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นบทบู๊ของเขาบ้างมั้ย?
MICHAEL S. CHERNUCHIN: เราบอกเขาว่า“Philip เรื่องนี้คุณไม่ต้องไปชกต่อยกับใครเขานะ แต่คุณจะต้องต่อสู้กับพวกเขาด้วยสายตา” ใตอนที่หนึ่ง และสองพวกคุณจะได้ชมเขาต่อสู้ในห้องพิจารณาคดีผมอยากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่Law & Order เพราะฉะนั้นเราจะได้ชมการต่อสู้ในชั้นศาลแบบดุเดือดถ้าคุณได้ชมซ๊รีย์เรื่องนี้ บอกได้เลยว่าไม่มีใครอยากสู้กับ Phillip ในศาลหรอก (หัวเราะ)…

Facebook Comments
Share Button