“ปากโป้ง” เปิดใจ!น้องสาวร้องทุกข์…คดีไม่คืบ!!พี่เคยถูกรางวัลที่ 1 ตายอย่างมีเงือนงำ!!
รายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 กดเลข 27 ที่มี “หนุ่ม –กรรชัย กำเนิดพลอย” และ “เข็ม – ลภัสรดา ช่วยเกื้อ” เป็นพิธีกร วันศุกร์ที่ 16 กันยายนนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของสาวใหญ่ที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยถูกรางวัลที่ 1 และอยู่ ๆ ก็ผูกคอตายที่ขอนแก่น แต่ญาติไม่เชื่อ หวั่นเป็นฆาตกรรมอำพรางเพราะวันเกิดเหตุไปกับหนุ่มต้องสงสัยกลางดึก แถมเข้าแจ้งความ 2 เดือนกว่าแล้ว แต่คดีก็ยังไม่คืบ บุกร้องกองปราบช่วยรื้อคดีส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ไปฟังจากปาก “คุณมัทนา เตโช” เป็นน้องสาวผู้เสียชีวิต ซึ่งจะเป็นอย่างไรไปฟังกัน
เล่าเรื่องราวให้ฟังหน่อยครับ?
“พี่สาวได้รับการผ่าตัดเพราะเป็นนิ่วในถุงน้ำดีตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.พอออกจากโรงพยาบาลก็มาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านด้วยกันอาทิตย์นึง และอาทิตย์ต่อมาแกก็เลยขอไปพักที่บ้าน ซึ่งบ้านพี่สาวจะอยุ่ห่างจากบ้านของหนูไปประมาณกิโลครึ่ง ซึ่งพื้นที่นั้นจะเป็นทุ่งนา ซึ่งแกก็จะอยู่คนเดียว แต่แม่จะให้พี่ชายไปนอนเป็นเพื่อนอยู่ตลอด แต่ในวันเกิดเหตุพี่ชายไปเข้าเวรที่เทศบาลด้วยกัน แกก็เลยอยู่คนเดียว แต่ปรากฏว่าตอนเช้ารุ่งขึ้นหนูก็จะเอาเสื้อผ้าไปซัก ไปหาแกด้วย พอซักผ้าเสร็จก็จะเดินไปทักทายแก ก็เปิดประตูเข้าไป เรียกแก ก็สังเกตุว่าทำไมเรียกแล้วไม่มีใครขานรับ และก็สังเกตว่าไฟในตัวบ้านก็ยังเปิดอยู่ ด้วยความที่ตัวเองรับร้อนหลับบ้านด้วย ก็เลยคิดว่าพี่สาวน่าจะเดินเล่นอยู่กับบ้านเนี่ยแหล่ะ ก็เลยกลับบ้านเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็เลยให้พี่ชายที่กลับมาจากเข้าเวรพอดีมาตามหา ก็ตามหาไม่เจอ แล้วก็กลับไปอีก ไปตามชาวบ้านมาช่วยกันหา ก็ไม่เจอ ก็ตามหามาโดยตลอดแต่ก็ไม่เจอ เลยไปแจ้งความเป็นหลักฐานว่า”
ตอนแรกคิดว่ายังไง คิดว่าถูกลักพาตัวไหม?
“ยังค่ะ ยังไม่ได้คิดว่าถูกลักพาตัว พอหลังจากที่แจ้งความ ทีนี้ก็มีคนมาแจ้งเบาะแสว่าเมื่อวันที่ 10 มีคนมาบอกว่ามีพยานเห็นว่าพี่มุกดา(ผู้เสียชีวิต) นั่งรถไปกับใครที่ไหน คือไปกับผู้ชายคนหนึ่ง โดนส่วนตัวแล้วเราไม่รู้จักผู้ชายคนนั้นค่ะ คือผู้ชายคนนั้นเป็นคนในหมู่บ้าน เราก็เรียกเขาไปสอบถาม เขาก็ให้การปฎิเสธว่า เขาไม่เคยพาพี่สาวไปไหน รู้จักกันในฐานะคนที่มีทุ่งนาติดกัน เขาก็ยืนยันว่าวันนั้นเขาไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย หลังจากนั้น 7 วันก็มาพบเป็นศพถูกแขวนอยู่บนต้นไม้”
ไปเจอศพได้อย่างไร?
“คือบริเวณนั้นก็จะเป็นนาของญาติๆของพี่มุกดาเองค่ะ เขาไปหว่านผล เขาก็เลยเห็น เขาสงสัยเขาก็เลยมาตามหนูกับสามีแกและก็ญาติๆไปดูศพสิ ว่าใช่ไหม สภาพศพเราไปเห็นปุ๊บเราเห็นว่ามีความผิดปกติมาก เพราะต้นไม้ต้นประดู่มันสูงประมาณ 4 เมตร แล้วเชือกก็เป็นผ้าขาวม้ามาต่อกัน 3 ผืน ลักษณะของต้นไม้คือเป็นต้นไม้เดี่ยว ๆ ใหญ่ ๆ ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเป็นพี่สาว ด้วยความเสียใจ ด้วยความตกใจ เราไม่กล้าไปจ้องมอง”
นอกจากความผิดปกติเรื่องต้นไม้สูง มีอะไรอีกไหม?
“คือสูงขนาดนั้นผู้หญิงก็ขึ้นไปไม่ได้อยู่แล้ว และสองก็เพิ่งผ่าตัดมาเอง และสามคือรองเท้าก็ยังสวมอยู่ที่เท้าเลย เลยสงสัยว่าคนเราปีนต้นไม่แล้วจะต้องใส่รองเท้าด้วยหรือ”
หลังจากนั้นตำรวจบอกว่าอะไร?
“สมองขาดออกซิเจนเนื่องจากถูกรัดที่คอ มีอย่างอื่นที่ผิดปกติก่อนที่จะเสียชีวิตคือ ฟันบนกับฟันล่างหลุด พอมูลนิธิเอาศพไปแล้วเราก็ตามไป และก็ได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ เขาก็ถามว่าปกติพี่สาวฟันครบไหม หนูก็บอกว่าแกก็มีหลออยู่ข้างนึงนะ ด้วนขวา ก็แค่นั้น เจ้าหน้าที่บอกว่ามีฟันหลุดด้วย เราก็เลยไปตามหาฟัน เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าเอาจจะเกิดจากการเน่าแล้วหลุด เขาก็ไปตามหาตามใต้โคนไม้ ตำรวจก็ไป หาหลายรอบก็ไม่เจอ”
ตอนที่คุณไปพบศพพี่สาว หลังจากที่หายไปกี่วัน?
“5-7วัน จากนั้นหนูก็ไปติดตามผลอยู่เรื่อย ๆ นะคะ เขาก็บอกว่ารอผลจากการชันสูตร กับผลพิสูจน์หลักฐานมาแล้วจะแจ้งให้ญาติทราบ ตำรวจบอกว่ายังไม่สามารถเปิดเผยได้ หลังจากวันนั้น พอเรียกไปพบเพื่อให้รายละเอียดว่าผลเป็นอย่างไร หนูก็ดูได้จากภาพถ่าย ที่ขาของแก เหมือนมีเครือเถาวัลย์มัดไว้ ขาไขว้กันด้วย มีปมอยู่ชัดเจน หนูก็เลยสังเกตุว่าคือถ้าคนที่ผูกคอตาย ขาก็จะทิ้งตัวลงมา แต่นี่คือขาไขว้กันแล้วก็โก่งเข้าไปติดกับโคนต้นไม้เลย พบว่ามีเถาวัลย์ผูกกับขา ตอนนั้นหนูดูจากภาพ เปิดไปเรื่อย ๆ หนุก็เห็นเสื้อพี่สาวหนู ก็เลยบอกว่า คุณตำรวจคะ เสื้อผ้า ณ วันนั้น หนูเห็นเฉพาะในรูปถ่าย หนูก็เลยเห็นคราบเหลือง ๆ เลยถามว่านี่คราบเหลือง ๆ คือคราบน้ำเหลือ หรือว่า คราบจากโคลนตม หนูก็เลยขอดู เห็นภาพจะจะเลยว่า พี่สาวหนูโดนขนาดนี้เลยหรอ เป็นโคลนทั้งนั้นเลย กางเกงก็มีรอบรูด รอยฉลอก ก็เลยทำให้เรามั่นใจว่าไม่ใช่การผูกคอตายเองแน่นอน”
ได้มีการพูดคุยกันต่อแล้วยังไง?
“สำนวนเขาก็ยังไม่ได้สรุป เขาก็ยังตั้งประเด็นว่าอาจจะผูกคอตายเองหรือว่าโดนทำให้ตาย คือภาพเถาวัลย์ตำรวจบอกว่าอาจจะเป็นเถาวัลย์เลื้อยไปที่ขาศพ”
เห็นว่าก่อนหน้านี้ 14 ปีที่แล้วพี่สาวคุณได้ถูกรางวัลที่ 1 ด้วย เอาเงินไปทำอะไรคะ?
“ได้รับเงิน 6 ล้านบาท พี่สาวก็เอาไปซื้อที่ดิน ที่ปลูกบ้าน ณ ตอนนี้ค่ะ หลังจากถูกรางวัลเขาใช้ชีวิตปกติธรรมดา ไม่หรูหรา ฟู่ฟ่า มีอาชีพเย็บผ้า สามีภรรยาก็ต่างคนต่างเย็บ คือพี่สาวจะเย็บผ้าโหล เงินก็จะเป็นที่นา ที่ดิน รถไถ และก็เก็บไว้สร้างบ้านประมาณ 2 ล้าน หมู่บ้านเขาก็จะรู้ว่าเขาใช้จ่ายแบบนี้เขาน่าจะเหลือเงิน ทำไม 14 ปียังเหลือเงินอยู่”
เห็นว่าเรื่องที่ดินพี่สาวได้มาจำนองด้วย?
“เรื่องนี้เรามาทราบหลังจากที่พี่สาวหายไป เรามาค้นดูเอกสารที่สำคัญว่าพี่สาวมีเอกสารอะไรบ้าง ก็เลยมาพบว่าโฉนดที่ดินต่าง ๆ โดนไปจำนอง 1 แปลง 4 แสนบาทในเดือนตุลา 58 และอีกแปลงหนึ่งเป็นจำนวนขายฝาก”
แล้วมันเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้ชายคนที่คุณสงสัย?
“ไม่ทราบว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่คิดว่ามันน่าจะมีเกี่ยวข้องกันเรื่องเงิน เพราะเงินในบัญชีพี่สาวประมาณ 7 แสนกว่า พี่เขยบอกว่าหลังจากทำบ้านเสร็จได้สอบถามภรรยาว่าเงินเหลือเท่าไหร่ เขาก็บอกว่าเหลือ 7 แสนห้า แต่ล่าสุดเราไปเช็คดูเป็นบัญชีคู่ แต่เงินหมดไปเลยอ่ะค่ะ โดยที่พี่เขยไม่ได้เซ็นร่วมด้วย”
กลับมาพูดคุยพร้อมกับทนายโต้ง!ทนายฟังแล้วว่าอย่างไร?
“คือดูจากภาพถ่ายแล้วมันผิดปกติจริง ๆ ตายใน 5 วัน เถาวัลย์มันจะเลื้อยขึ้นมาได้อย่างไร แถมยังมีปมที่ผูกติดด้วย เป็นสิ่งที่น่าแปลก และก็มีน่าแปลกในอีกหลายจุด ตรงเสื้อที่มีดินอะ ต้องตรวจสอบว่ามันเป็นดินในพื้นที่เดียวกันหรือเปล่า ถ้าเป็นดินในคนละพื้นที่อะ มันก็น่าสงสัย แต๋โอเค เรื่องนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สอบสวย เราต้องให้อำนาจเขา ถ้าหากว่าเรื่องไม่คืบหน้า แล้วญาตรู้สึกว่าทำไมเรือ่งไม่คืบหน้า ต้องทำหนังสือถึงผู้กำกับ ตอนนี้ถามญาตรู้สึกว่าจะทำไปแล้ว สามารถตามคำสั่งตรงนี้ได้ แล้วถ้าหากว่ามีเอกสารเพิ่มเติม เราสามารถทำหนังสือเพิ่มได้”
สามารถติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งหมดนี้ได้ในรายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 กดเลข 27 วันศุกร์ที่ 16 กันยายนนี้ เวลา 11.15น.