“แพร” สาวไทยยันไม่มโนสัมพันธ์ “วิค F4” ฟุ้ง! ฝ่ายชายมอบแหวนแทนใจ
กลายเป็นประเด็นดราม่าใหญ่ เมื่อมีไทยสาวนิรนามอ้างมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักร้องไต้หวันชื่อดัง โจว อวี้หมิน หรือ “วิค F 4” หรือ “ไจ๋ไจ๋ F4” นาน 5 ปี ถึงขั้นตั้งท้องและสุดท้ายต้องทำแท้งออก กลายเป็น “ทอล์คอ๊อฟทาวน์” ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ สติโอ ช่อง 2 สาวนิรนามคนดังกล่าว “แพร-แพรอร สร้อยสน” อายุ 28 ปี ได้เดินทางมาอัดรายการ “ข่าว 2” ทาง ช่อง 2 บันเทิง มาเต็ม กดเลข 38 พร้อมตั้งโต๊ะเปิดใจกับสื่อไทยทุกเรื่อง
ที่ออกมาวันนี้เพราะอะไร


​“เห็นจากหลายๆ อย่างที่ถาโถมเข้ามา ก็เลยอยากมาพูด”
ไปรู้จักเขาได้ยังไง
​“เรารู้จักกันผ่านเพื่อนค่ะ ก็เลยคุยกันเรื่อยมา ตอนแรกก็คุยกันเฉยๆ แล้วก็เริ่มสานสัมพันธ์กันโดยที่เขาเข้ามาหาเราก่อน รู้จักกันผ่านเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ไต้หวัน เพราะหนูมีญาติอยู่ที่นั่นคะ เขาเป็นเพื่อนกัน แล้วเขาก็เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของหนูอีกทีหนึ่ง”
ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ต้องการอะไรจากสังคม
​“หลักๆ ของหนู หนูเห็นจากหลายๆ คนที่พูดถึงกัน ประติดประต่อกัน พูดถูกบ้างไม่ถูกบ้าง หนูเลยอยากออกมาพูด มาตอบคำถามที่หลายคนสงสัย”
มันมีผลกระทบอะไรกับเราบ้าง
​“ก็รู้สึกแย่นิดหนึ่ง แต่ไม่เท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านั้นเจอมาเยอะแล้ว”
เจอเขาที่ไต้หวันหรือเจอที่ไทย
​“ที่ไต้หวันค่ะ”
ตอนนั้นเราไปทำอะไรที่ไต้หวัน
​“ไปกลับๆ เพราะว่าหนูมีญาติอยู่ที่โน้น”
ทำไมเราถึงเจอดาราไต้หวันได้ง่ายจัง
​“มันเป็นเพราะเขาเปิดทางให้เราเข้ามามากกว่า”
เจอกัน เริ่มคบกันยังไง
​“จริงๆ เป็นเพื่อนกันก่อน แล้วก็ค่อยมาขยับความสัมพันธ์ทีหลัง”
ปีอะไรที่เป็นเพื่อนกัน
​“เราคบกัน 5 ปี แล้วก็เป็นเพื่อนกัน 2 ปี เริ่มที่ปี 2009”
ตอนเป็นเพื่อนคุยกันเยอะไหม คุยปกติ
​“ไม่ค่อยได้เจอกันด้วยซ้ำ คุยกันน้อยๆ ส่วนใหญ่ก็คุยเหมือนเป็นเพื่อนๆ กัน ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่”
คบกันลับๆ ตกลงกันทั้งคู่ว่าเราคบกัน
​“บอกใครไม่ได้”
เพื่อนๆ เรารู้ไหม
​“รู้น้อยมาก รู้ไม่กี่คน”
ตกใจไหม เขาคือซูเปอร์สตาร์เอชีย แต่มาคบกับเรา
​“ไม่ตกใจค่ะ”
ทำไมไม่ตกใจ
​“เพราะว่ารู้นิสัยอะไรหลายๆ อย่าง เหมือนคนเรารู้จักกันก็จะเห็นนิสัยกัน เห็นนิสัยแล้วเราก็เฉยๆ”
นิสัยเขาเป็นยังไง
​“ถ้าเอาจริงๆ แล้วเขาจะเป็นคนติสท์ๆ เป็นคนพูดเยอะด้วยซ้ำ ไม่ค่อยเหมือนในทีวีเท่าไหร่”
บอกว่าเขาเข้าหาเราก่อน อะไรที่ทำให้คิดว่าเขาจีบ
​“หลังๆ ก็คุยกันบ่อย แสดงอาการอะไรประมาณนี้ มันบอกยากนะคะความรู้สึกแบบนี้”
เขาบอกเรา หรือเรารู้สึกเอง
​“จะพูดยังไงดีล่ะ”
เขาคุยกับเรายังไง คุยบ่อยไหม หรือสวีต
​“ตอนนั้นเราเจอกันที่โรงแรม(หัวเราะ) แล้วก็ได้มีการพูดคุยกัน”
คุยกันยังไง
​“ก็จะคุยกันผ่านโปรแกรมเรื่อยๆ”
ตลอด 5 ปีนี่ยังไง
​“เราจะเจอกันบ้าง เขาไปทำงานที่ไหน ถ้าใกล้ที่นั่นเราก็จะไปเจอกัน อย่าล่าสุดเขามาถ่ายที่ไทย เขาก็จะเรียกเราไป”
เขาบอกไหม ชอบเราเพราะอะไร
​“ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยถาม รู้แต่ว่าเขาเคยบอกว่าเราเป็นคนไม่พูดเยอะ ไม่จี้มากกว่า หนูเป็นคนที่พูดน้อย”
ตอนนี้ใช้ว่าแฟนเลยไหม
​“ใช้ยังไง ต่างชาติกับไทยมันสื่อกันยากมากเลย”
อะไรที่เขาแสดงออกว่าเราเป็นแฟนเขา หรือเขาเป็นแฟนเรา
​“แบบนั้นเหรอ ความรู้สึกแบบนั้นเหรอ คือเขาจะเป็นคนใส่ใจเวลาตื่นเช้าเขาก็จะมาทัก อย่างเวลาเขาไปทำงานเขาก็จะบอกว่า เขาไปทำงานแล้วนะ เหนื่อยมากเลย คุณทำอะไรอยู่ นิสัยจะเป็นแบบนี้มากกว่า ถ้าเกิดเราอยู่ห่างกันนะส่วนใหญเวลาที่เราเจอกันจะค่อนข้างน้อย”
ตอนไปไต้หวันที่ไปเจอเขาทำอะไรบ้าง เที่ยว กินข้าว
​“เอางี้เลยเหรอ หนูกับเขาเวลาเจอกัน การเจอกันมันค่อนข้างที่จะเปิดเผยไม่ได้ เวลาเจอกัน เราจะเจอกันในห้อง แล้วเราก็…อื้ม”
เขามีพาไปกินข้าว เดินเล่นอะไรไหม
​“ไม่ได้ มันทำแบบนั้นไม่ได้ เขาก็ดังในประเทศเขา”
ย้อนกลับไปตอนที่ไปเจอกันในห้องคือเป็นแฟนกันรึยัง
​“คือเราก็ได้เสียกันก่อน ประมาณ 2 ครั้ง”
รู้จักกันปี 2009 เป็นแฟนกันปีไหน
​“ก็ประมาณปี 2012 มันไล่ๆ หลัง ปลายๆ ของปี2011 แล้วก็ 2012”
ที่คุยกันในห้องปีไหน
​“จริงตอนนั้นที่ได้เสียกัน(ยิ้ม) จะพูดยังไงดีล่ะ มันก็ยังเป็นกึ่งๆ เป็นเพื่อน ก็น่าจะประมาณปลายๆ ปี 2011 จะเข้า 2012 ที่เราเริ่มคุยกัน”
บางสื่อ ที่หนูให้สัมภาษณ์บอกว่าเขาขืนใจ
​“ถูกต้องค่ะ ครั้งแรกเขาเริ่มเข้ามาก่อน โดยการที่บอกให้เราเข้าไปหา เขาบอกว่าให้หนูเข้าไปหาหน่อย ตอนแรกเขาก็อ้างโน้นอ้างนี่แหละ พอหนูเข้าไปก็ให้หนูนั่งที่ปลายเตรียง หนูก็เออๆ นั่งๆ พอนั่งเสร็จเขาก็บอกให้หนูนอนลง หนูไม่ยอมนอนอยู่นั่งอยู่อย่างนั้นนานมาก 10 นาทีได้มั้ง แล้วเขาก็ทำเป็นนอน นอนให้เราชิน แล้วสักพักเขาก็เดินมาจับแขนหนูให้ไปนั่งข้างๆ เขา แล้วก็จับหนูนอนเลย”
นั่นขืนใจหรือเรายอม
​“เราไม่ยอม แต่เขาพยายาม ตอนแรกหนูนั่งเฉยๆ พยายามที่จะไม่มีอะไรกับเขา”
ไม่คิดอะไรเลย อยู่ในห้องกับผู้ชาย 2 คนแบบนั้น
​“หนูเป็นคนมีเพื่อนชายเยอะมากเลย จะไม่ค่อยคิดเรื่องแบบนี้”
ครั้งที่ 2 เขาให้ไปหาก็ไม่กลัว ทั้งที่บอกว่าครั้งแรกเขาขืนใจ
​“ไม่คิดค่ะ หนูมีเพื่อนผู้ชายเยอะ หนูไว้ใจเขานะ”
ไว้ใจยังไง ครั้งแรกเราโดนขืนใจไปแล้วนะ
​“มันได้แล้วอ่ะ หนูเป็นคนคิดแบบว่าคนมันได้เสียกันแล้วเนาะ แล้วมันก็เป็นเพื่อนๆ กัน คือตอนที่เราได้เสียกันครั้งแรกใช่ไหม ตอนแรกก็ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน แต่พอกลับไปต่างคนต่างแยก พอหนูกลับก็มีการคุยกันบ้าง ประมาณว่าเป็นยังไงบ้าง ครั้งที่ 2 ก็ลักษณะเดิม หลอกให้ไปอีก แต่ก็แบบไม่ได้คิดอะไร คิดแบบนั้นจริงๆ”
ครั้งสุดท้ายที่เจอเมื่อไหร่
​“วันที่ 18 มิถุนาปีที่แล้ว(2015) ที่สมุย”
เห็นว่าท้อง(เอาออกแล้ว) ยืนยันว่าเป็นลูกของเขา
​“เขาคือคนที่หนูมีความสัมพันธ์ด้วยมาตลอด”
ไม่ได้มีการป้องกัน
​“ไม่ได้ป้องกัน”
ครั้งล่าสุดที่ท้องคือที่สมุย ถูกไหม
​“ใช่ หลังจากที่เขากลับไปก็ท้อง ประมาณ 2 เดือน”
มั่นใจไหมว่าเป็นลูกเขา
​“หนูมีความสัมพันธ์ล่าสุดกับเขา เพราะหนูไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคนอื่นในเรื่องของเรื่องบนเตียง ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายอะมีแต่ไม่ได้มีเรื่องบนเตียงด้วยกัน”
ตัดสินใจทำแท้งเพราะกดดัน ทำไมไม่เก็บลูกไว้ ตรวจ DNA ก็ได้
​“หนูไม่ได้อยากเรียกร้อง หนูกำลังออกมาพูดความจริง จริงๆ ตั้งแต่แรกหนูไม่ได้อยากทำอะไรเลย ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นมาหนูแค่ต้องการคำอธิบายเท่านั้น หนูก็เลยพยายามทำทุกอย่างให้เขาออกมาพุแต่เขาก็ไม่ออกมาพูด ก็เลยทำให้หนักขึ้น”
เรียกร้องในสื่อบ้านเขา
​“มีค่ะ ตอนนั้นติดต่อกับสื่อแอ๊ปเปิ้ลเดลี่ค่ะ เขาก็มาคุยกับเรา พอได้คุยกันเขาก็ออกข่าววันนั้นเลย วันที่ 1 มกราคม”
ฟีดแบคข่าวเป็นไง
​“ก็แรงนะ ฉาวเลย”
เห็นว่าของแทนใจคือแหวน
​“ใช่ค่ะ ที่เขาก็มี”
เขาให้แหวนเนื่องในโอกาสอะไร
​“วันเกิดค่ะ”
เขาเคยใส่ไหมแหวน
​“(ส่ายหน้า)”​
ประชาสัมพันธ์ ช่อง 2 บันเทิงมาเต็ม
ข้อมูลเพิ่มเติม อู๊ด 096-5355195,บาส 081-9269006