[คลิปเต็มไม่ตัด] เปิดใจ “ฟิล์ม ณัฐกวี” หลังถูกแฉ ซ้อม “ลูก-เมีย” ลั่นคิดมากอยากฆ่าตัวตาย!
“ฟิล์ม ณัฐกวี” น้ำตาคลอโผล่กอด “แม่” ยกมือไหว้ขอโทษสังคมยัน….ไม่เคยทำร้ายลูก!!
น้องฟิล์มอายุเท่าไหร่ครับ?
“21 ปีครับ ปัจจุบันเป็นนักแสดง มีสัญญา มีสังกัดอยู่สังกัดหนึ่งครับ ส่วนคุณแม่อายุ 42 ปี มีลูกสองคน น้องฟิลฺมเป็นคนที่สอง”
ขอโทษนะครับคุณพ่อกับคุณแม่ของน้องฟิล์ม?
“ก็แยกทางกันมาได้ตั้งแต่ฟิล์มอยู่ป.2อะค่ะ น้องฟิล์มจะอยู่ในความดูแลของคุณแม่ ส่วนพี่สาวจะอยู่ในความดูแลของคุณพ่อค่ะ จะมีไปเยี่ยมเยียนบ้าง น้องฟิล์มกับคุณแม่อยู่ด้วยกัน พี่สาวอยู่กับคุณพ่อ”
ทีนี้ประเด็นที่มันเกิดขึ้นว่าตัวน้องฟิลฺมเองมีภรรยาแล้วอันนี้ยอมรับไหมครับ?
“ยอมรับครับ แต่งงาน แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียน มีงานแต่งเกิดขึ้น ตั้งแต่ผมอายุ 19 ตอนนี้ 21 แต่งมาประมาณ 2 ปีเกือบสามปี มีลูกผู้ชาย มีลูกก่อนที่จะแต่งงานครับ”
ตอนนั้นคุณแม่ทราบไหมครับว่าลูกชายตัวเองแต่งงาน?
“ไม่ทราบค่ะ ไม่เคยทราบมาก่อนเลย”
คุณไม่ได้บอกแม่คุณเลยหรอ เพราะอะไรถึงไทม่ได้บอกครับ?
“คือท่านก็ตั้งความหวังกับเราไว้เยอะ คิดว่าคงออกมาแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ของเราดีกว่า ห็คือทำงานของเราใช้ชีวืตเป็นครอบครับ คือกลัวท่านเสียใจ”
คุณแม่ครับที่บอกว่าฟิล์มแต่งงานคุณแม่ไม่เคยทราบมาก่อน?
“ค่ะ ไม่เคยทราบเลยค่ะ เริ่มต้นจากฟิล์มเขาประสบอุบัติเหตุแล้วขาเขาหัก แล้วก็เรียนเรียนอยู่ไกลบ้าน หลังจากที่ขาเขาเริ่มฟื้นฟูหรือดีขึ้นบ้างก็จะให้อยู่หอใกล้ ๆ โรงเรียน”
คือคุณแม่ไม่ได้อยู่กับน้องฟิล์ม น้องฟิล์มอยู่หอจนไปเจอผู้หญิงคนนั้น จนมีลูกกันก่อนทีจะแต่งงาน พอมีลูกแล้วก็แต่งงานกันโดยที่ไม่ได้บอกคุณแม่?
“ครับ ไม่ได้บอกคุณแม่ครับ”
คุณแม่มารู้เมื่อไหร่?
“รู้พร้อม ๆ กับทุกคนเนี่ยแหล่ะค่ะ รู้พร้อม ๆ กับตอนที่มีข่าวออกมา รู้พร้อมกับประชาชนค่ะ ก็ตกใจ ทั้งตกใจทั้งเสียใจมากเลยค่ะ ยิ่งมารู้เรื่องราวที่ย้อนกลับไปแล้ว ยิ่งเสียใจมาก”
ตอนนี้ลุกคุณหรือหลานคุณแม่ก็อายุประมาณ2ขวบ?
“ใช่ครับ สองขวบไปเมื่อ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา”
ประเด็นมันเกิดอะไรขึ้น ที่แต่งงานนี่คือครอบครัวของทางเขาทราบใช่ไหมครับ?
“ทราบครับ ทราบทุกอย่าง ที่แต่งงานผมคิดว่ามันคือความรับผิดชอบ และก็แสดง แบบเราก็อยู่กับเขา ยังไงก็คือแต่งงานแล้ว”
คุณคิดว่าคุณมีวุฒิภาวะพอหรือครับอายุ19ปีและคุณมีลูกโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานแล้วคุณบอกว่าคุณรับผิดชอบเขา?
“ถามผมว่ามันเร็วไหม มันก็เร็วครับ คือเขาเกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องรับผิดชอบตรงนี้ให้ได้ คิดว่ายังไงก็ต้องผ่านไปให้ได้ ที่แต่งก็เพราะว่าเป็นห่วงความรู้สึกของลูกด้วย ตอนที่แต่งงานยังไม่เข้าวงการครับ”
นี่เป็นที่มาของคำสัมภาษณ์ของน้องผู้หญิงคนนั้น เขาบอกเลยว่าตอนนั้นคุณเป็นคนที่ดีมาก คุณเพอเฟ็ค แสดงความรับผิดชอบกับเขากับลูกเป็นอย่างดี จนวันนึงคุณเข้าวงการเขาบอกว่าคุณเปลี่ยนไปจริงไหม เขาบอกคุณทิ้งเขา?
“คือมันไม่มีเวลาครับ ไม่ถึงกับทิ้งครับ คือเราก็ยุ่ง ๆ ด้วย และก็เขาก็เรียกร้องให้เราพาไปไหนมาไหน เราก็ทำไม่ได้”
ในช่วงนั้นคุณเพิ่งเข้าวงการบันเทิง แต่งงานกันไปไม่นานเขาอบกว่าคุณเปลี่ยนไป มีลูกไม่สนใจเขา รวมถึงคุณหลงระเริงไปมีผู้หญิงคนอื่น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?
“คือมันก็นานแล้ว ก็มสีบ้างครับ มีคนเข้ามาก็คุย ยอมรับว่ามีจริง ๆ ครับ ณตอนนั้นลูกกับภรรยาก็ดูแลอยู่ นอนกินอยู่ด้วยกันตลอด”
เห็นว่าคุณดูแลเขาจนวันหนึ่งคุณไม่มีเงินเลยต้องไปขายของจริงหรือเปล่า?
“จริงครับ ก็ขายขนมจีบที่ตลาด แต่ก็ขายด้วยกัน ช่วยกัน ก็ช่วยกันทำ ตอนนั้นยังไม่ได้เข้าวงการบันเทิง จนมาเจอคนติดต่อมาให้เข้าวงการบันเทิง เราก็เลยเข้ามาในวงการ”
คุณแม่ทราบไหมว่าเข้าวงการ?
“ทราบค่ะ สืบเรื่องมาจากตอนนั้นน้องฟิล์มอายุ 18 เรียนอยู่มัธยม แล้วไปเจอกับน้องผู้หญิงที่เป็นครูฝึกสอน เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักกัน กับผู้หญิงก็คืออายุห่างกัน 5 ปี”
ทางฝั่งเขาบอกว่าคุณไปตีลูกชายคุณเองตอนอายุ 3 เดือน?
“คือตอนนั้นเนี่ย ผมก็ไม่ได้ตี ถ้าเป็นสามเดือนคือไม่ได้ตีครับ ไม่ใช่ฝีมือผมครับ มีหลายครั้งที่เขาลงไปเซเว่นแล้วผมอยู่กับลูก เรื่องคืออย่างนี้คือไม่เคยเกิดขึ้น รูปที่มีรอยแบบนี้คือผมไม่เคยเห็นเลยครับ”
อาการแบบนี้ผมถามหน่อย เป็นขนาดนี้ มีแผลแบบนี้ คุณไม่ได้นอนอกับลูกคุณหรอ คุณไม่เห็นหรอว่าสภาพลูกคุณเป็นแบบนี้?
“ผมไป ๆ มา ๆ ไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้อยู่กับลูก ลูกเป็นแบบนี้ตอนที่ผมไม่อยู่บ้าน คือรูปนี้ผมไม่เคยเห็น ถ้าลูกมีอาการคือจะไม่เยอะครับ เคยตีลูกตอนที่ลูกอายุ 1 ขวบ เขาโตแล้ว ตีแบบพ่อสอนลูก บางทีลูกซน แต่ตีตอนสามเดือนไม่มีแน่นอนครับ ยืนยัน”
และใครทำแบบนี้ถ้าคุณไม่ได้ทำ?
“ไม่รู้ครับ ไม่ทราบจริง ๆ ก็เครียดครับ เครียดมาก ตั้งแต่มีข่าวออกมาเครียดมาก ตั้งแต่มีข่าวออกมาก็ไม่อยากอยู่แล้วครับ อยากตาย คิดจะฆ่าตัวตายหลายครัง”
วันนี้ได้ไปเจอหน้าลูกบ้างไหม?
“ไม่ได้เจอเลยครับ ผมไม่สามารถติดต่อเขาได้ ผมไม่ได้เจอลูกมาสองเดือนกว่า ๆ สามเดือน”
ผลกระทบต่อการงาน?
“ตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป มืดมนหนทางไปหมด ก็มีการขอโทษกับผู้ใหญ่บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอย่างไรต่อไปเหมือนกัน”
เขาบอกว่าคุณเป็นคนอารมรณ์รุนแรงมาก เวลามีปัญหาคุณชอบทำร้ายร่างกายจริงหรือเปล่า?
“มันก็มีการทะเลาะปกติของวัยรุ่น ทำลายข้าวของ ทะเลาะกันรุนแรงอย่างมากก็แค่ผลัก และก็ด่ากันมากกว่า แค่นั้นเอง ไม่เคยลงไม้ลงมือ ตีลูกก็ตีแบบสอน ปกติเหมือนพ่อตีลูก”
คุณแม่รู้สึกอย่างไรบ้าง ลูกชายตัวเองไม่อยากอยู่?
“เสียใจมากค่ะ (ร้องไห้) คือสถานการณ์ตอนนี้โดนนักเลงคีย์บอร์ดเล่นงานครอบครัวเราทุกวัน เพราทุกบ้านก็มีหลาน พอเขาไปโรงเรียนก็จะมีคำถามมาว่าที่บ้านเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอ ก็จะมีคนมาตั้งคำถามกับเราว่าเกิดอะไรขึ้น”
ก็มีคนตั้งคำถามขึ้นมาว่าถ้าเกิดคุณตีลูกตอนอายุสามเดือนเหตุการณ์มันผ่านมานานมากแล้ว สองปีแล้วทำไมเพิ่งออกมาพูดตอนนี้?
“ในมุมของผม ผมคิดว่า ผมออกมานานแล้ว ผมเลิกจริง ๆ ผมไม่กลับไปแล้ว คือตัด คือส่งเงินให้ลูก เดือนละหมื่นสองทุกเดือน (โชว์หลักฐานการโอนเงิน) โอนเงินให้เขาสองเดือนแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็ยังเจอกันอยู่ ก็จะให้เป็นเงินสด ให้ทีหนึงก็หมื่นสอง มีน้อยกว่านี้ก็ประมาณแปดพัน เพราะบางทียังหาเงินไม่ได้ ที่น้องเขาออกมาพูดก็เพราะว่าผมเดินออกมาจากเขา”
ต่อไปจะทำอย่างไรกับชีวิต?
“ก็ยังไม่รู้เลยครับ ผมคิดว่าสิ่งที่ผมพูดในวันนี้ไม่มีกั๊ก เป็นความจริงทุกอย่าง มันเครียดมากครับ ผมอยากจะบอกว่าอยากจะขอโทษทุกคน ขอโทษแม่ ขอโทษทุกฝ่าย ขอโทษสังคม ขอโทษเขาและก็ครอบครัว ผมยอมรับว่าผมมีลูกตอนเด็ก แต่ผมก็รักลูกของผม แต่ผมก็ไม่มีวันทิ้งลูก และเรื่องทำร้ายร่างกายลูกผมก็ไม่มีวันทำแน่นอน อยากจะฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าคิดมีรักในวัยเรียนถ้ายังไม่พร้อม ควรจะเรียนจบก่อนครับ”