Share Button

“Cordelia”ซิงเกิ้ลอย่างเป็นทางการลำดับที่ 3 ของ My Life as Ali Thomasเพลงที่ถูกเขียนขึ้นบนพื้นฐานความรู้สึกของมนุษย์ ที่อยู่ในอิริยาบถใดๆ เพื่อใช้ความคิดกับตัวเอง กำลังพิจารณาตนเอง ว่าตัวเรานั้นเป็นอย่างไร ทั้งในมุมของการเล่าเรื่องของตัวเองด้วยตัวเอง และในมุมของการวางตัวเองเป็นบุคคลที่ 3 เพื่อเล่าเรื่องของบุคคลอื่นที่ตัวเองได้พบเห็น ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่สื่อถึงความเป็นเพลงส่วนบุคคลของผู้ฟังได้อย่างดีผู้ที่กำลังฟังเพลงนี้ จึงสามารถเข้าถึงเพลงได้อย่างไม่ยากด้วยตัวคนเดียวประกอบกับการเรียบเรียงดนตรี ที่อ้างอิงลักษณะของความเคลื่อนไหวในการเล่าเรื่องของคนๆ หนึ่งที่กำลังพิจารณาตนเอง ทำให้ดนตรีมีความเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก เพื่อให้สอดคล้องกับอารมณ์ของคำร้องที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาของความคิดในการเล่าเรื่อง เมื่อองค์ประกอบของคำร้อง ทำนอง และดนตรี รวมเข้าหากันแล้ว จึงเกิดเป็นเพลง Cordeliaซึ่งเป็นเพลงที่ให้ความสำคัญกับการแสดงความรู้สึกนึกคิดในแต่ละช่วงเวลาของผู้ที่กำลังเล่าเรื่อง โดยไม่ได้คำนึงถึงพื้นฐานของแนวดนตรี หรือรูปแบบของท่อนเพลง มากนัก Cordeliaจึงเป็นเพลงที่แสดงออกถึงลักษณะเฉพาะของบุคคลที่กำลังเล่าเรื่องได้อย่างครบถ้วน บนพื้นฐานดนตรีในเอกลักษณ์ของ My Life as Ali Thomasอย่างชัดเจน

ชมมิวสิควิดีโอเพลง “คอร์ดีเลีย” Cordelia ซิงเกิ้ล3

ศิลปิน “มาย ไลฟ์ แอส อะลิ โทมัส”
วงดนตรีสี่ชีวิต “มาย ไลฟ์ แอส อะลิ โทมัส” My Life As Ali Thomas ที่สมาชิกประกอบด้วย ‘พาย’ กัญญภัค วุธรา (ร้องนำ, กีตาร์), ‘แร็ก’ วิภาต เลิศปัญญา (กีตาร์), ‘โอ๊ก’ โชติวัฒน์ ภูริพันธุ์ (เบส) และ ‘ตาว’ วรรณพงศ์ แจงบำรุง (กลอง) เปิดตัวในวงการเพลงไทย ด้วยซิงเกิ้ลแรก “ดอเธอร์ แอนด์ ซัน” Daughter and Son ที่ได้รับการตอบรับจากคอเพลงคุณภาพ หัวก้าวหน้าทั้งหลายในบ้านเราอย่างอบอุ่น และตามด้วยซิงเกิ้ล 2 “วินเทอร์ส เลิฟ” Winter’s Love ที่พาผู้ฟังดำดิ่งลึกไปกับบทเพลงของพวกเขาออกมา โดยสามารถตอกย้ำการเป็นคนเพลงรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับสิ่งใหม่ๆ ในวงการเพลงบ้านเราได้สำเร็จ และวันนี้ “มาย ไลฟ์ แอส อะลิ โทมัส” สานต่อความสำเร็จ และคำชื่นชมจากสองซิงเกิ้ลแรก ด้วยเพลงใหม่ “คอร์ดีเลีย” Cordelia บทเพลงที่เขียนขึ้นบนพื้นฐานความรู้สึกของมนุษย์ ที่จมอยู่กับความคิด พิจารณาตัวเอง และมองคนรอบข้างด้วยมุมมองแบบบุคคลที่สาม ทำให้เพลงนี้มีความเป็นส่วนตัวเอามากๆ และสามารถสื่อสาร รวมไปถึงแทนความรู้สึกของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ขณะที่ดนตรี ก็เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวที่หลากหลาย เพื่อที่จะแทนความคิดและอารมณ์ของตัวละครที่อยู่ในเพลง ทำให้ “คอร์ดีเลีย” กลายเป็นเพลงที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ ส่วนเนื้อร้องกับดนตรีก็ลงตัวกลมกลืนกัน ในแบบที่ผู้ฟังจับความรู้สึกที่อยู่ข้างในได้อย่างเต็มที่ โดยมีซาวนด์ดนตรีในแบบของ “มาย ไลฟ์ แอส อะลิ โทมัส” เช่นเดียวกับที่เคยได้ยินจากสองซิงเกิ้ลแรกของพวกเขา ที่ใครๆ ก็จำได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นการตอกย้ำตัวตนของตัวเองให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก แฟนเพลงที่อยากสัมผัสงานเพลงเท่ๆ ดนตรีล้ำๆ ที่เป็นความใหม่ ความสด สำหรับวงการเพลงไทย และอาจจะหมายความรวมถึงวงการเพลงสากลด้วยก็ยังได้จาก “มาย ไลฟ์ แอส อะลิ โทมัส” สามารถฟัง “คอร์ดีเลีย” Cordelia ได้แล้วที่ไอทูนส์ สโตร์, DEEZER, KKBOX, JOOX, TrueMusic และแอปเปิล มิวสิค โดยวอร์นเนอร์ มิวสิค
20160711jiggabanรูปศิลปิน My Life As Ali Thomas ใหม่

My Life as Ali Thomas(มาย ไลฟ์แอสอะลิ โทมัส)
Genres : Alternative, Pop, Rock, Indie-Folk
Years Active:พ.ศ. 2557 – ปัจจุบัน
Members :‘พาย’ กัญญภัค วุธรา– vocal, guitar / ‘แร็ก’ วิภาตเลิศปัญญา– guitar /‘โอ๊ก’ โชติวัฒน์ ภูริพันธุ์– bass / ‘ตาว’วรรณพงศ์ แจงบำรุง– drums
Hometown : Bangkok, Thailand

Band Concept
เนื่องจากจุดเริ่มต้นของวงเกิดจากการรวมตัวของสมาชิก ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ซึ่งทุกคนมีความชอบและประสบการณ์ทางดนตรีที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรสนิยมด้านการฟังหรือการเล่น ส่งผลให้การสร้างสรรค์ดนตรีของวง ไม่ได้ถูกตีกรอบให้เป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นการรวมเอาสิ่งที่เหมาะสมทั้งหมดเข้าหากัน บนพื้นฐานการสร้างสรรค์ดนตรีให้เป็นดนตรี และคงไว้ซึ่งmelodyที่สามารถเข้าถึงได้ไม่ยากจนเกินไป

Biography
วง My Life As Ali Thomas เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2556 โดยนักร้องนำ พาย กัญญภัค วุธรา โดยชื่อวงอ้างอิงความหมายมาจากรากศัพท์กรีกโบราณ คำว่า Ali Thomas แปลตรงตัวว่า Another Twin ซึ่งมีความหมายตรงกับความต้องการของนักร้องนำ ที่ต้องการสื่อถึงความมีตัวตนในอีกมิติหนึ่งที่ตรงกันข้ามกับชีวิตจริง พาย เขียนเนื้อเพลงและแต่งทำนองเพลงทุกเพลงด้วยตนเอง โดยเริ่มจากการร้องและเล่นกีตาร์ภายในห้องนอน เนื้อหาเพลงส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต ไม่ว่าจะด้านอารมณ์ ความรัก และ ความต้องการในเบื้องลึกของตน
ในปี พ.ศ. 2557 การรวมวงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเมื่อ แร็ก วิภาตเลิศปัญญา และพายได้มาพบกันจากการแนะนำของ คุณก้อง เจ้าของร้าน Cosmic Cafe บาร์ชื่อดังในกรุงเทพซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการอินดี้เมืองไทย ณ ขณะนั้น นับเป็นเรื่องดีที่สไตล์ดนตรีบริทร็อคของแร็กเข้ากันได้อย่างสวยงามกับดนตรีโฟล์คซองที่ละเอียดอ่อนของพาย และดียิ่งขึ้นเมื่อแร็กได้ชักชวนมือกลองเข้ามาเล่นเสริมให้กับวง ทำให้วง My Life As Ali Thomas พร้อมสำหรับการเแสดงโชว์สด ประมาณ 3 เดือนหลังจากที่วงเริ่มแสดงสดตามที่ต่างๆ My Life As Ali Thomas ได้รับการติดต่อจากค่าย Tigger Twins เพื่อเซ็นสัญญาเข้าไปเป็นศิลปินในสังกัดเมื่อทางค่ายได้เห็นผลงานของวงที่แสดงในคืนส่งท้ายก่อนที่จะปิดตัวลงของร้าน Cosmic Cafe โอ๊กและตาว สมาชิกอีก 2 คนของวง เข้าร่วมในช่วงที่สองของ My Life As Ali Thomas โอ๊กโชติวัฒน์ภูริพันธุ์ เป็นมือเบสอาชีพ ที่มีความโดดเด่นในเรื่อง Sound การเล่นของโอ๊กช่วยประสานให้สไตล์ดนตรีของวงมีความต่อเนื่องและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ส่วน ตาว วรรณพงศ์ แจงบำรุง นักดนตรีฝีมือดี ได้ถูกนำเข้ามาเป็นมือกลองของวงแทนมือกลองคนเก่า ซึ่งการรวมกันของส่วนประกอบทั้งหมดนี้ส่งผลให้วงได้ค้นพบ Sound ใหม่ที่ลงตัวมากขึ้นและนำมาสู่ความเป็นดนตรีในแบบ My Life As Ali Thomas เช่นในปัจจุบัน อัลบั้มแรกของวงจะออกสู่ตลาดในช่วงประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 โดยทางวงได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรก Daughter and Son ในเดือนตุลาคม 2558 และได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่ 2 Winter’s Love ออกมาในเดือนมกราคม 2559และล่าสุดได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่ 3 Cordeliaออกมาในเดือนสิงหาคม 2559

ชมมิวสิควิดีโอเพลงซิงเกิ้ลแรก “ดอเธอร์ แอนด์ ซัน” Daughter and Son

MEET BAND:
► Facebook www.facebook.com/mylifeasalithomas
► YouTube www.youtube.com/mylifeasalithomastv
► IG www.instagram.com/mylifeasalithomas

Previous Shows
Cat T-shirts Music Festival August 4, 2014
Melody of Life 8 Music Festival October 18, 2014
Cat Expo Music Festival November 2, 2014
Big Mountain 6 Music Festival December 6, 2014
Wonderfruit Music Festival December 20, 2014
Opening for ErlendØye and The Rainbows Live in BKK March 21, 2015
La Boutique Spring-Summer 2015 Collection Launch March 25, 2015
Grand opening of Marimekko Thailand May 14, 2015
Cat ExpopoTamus November 14, 2015
Wonderfruit Music Festival December 19, 2015
Big Mountain 7 Music Festival December 20, 2015
Stone Free 4 Music Festival January 16, 2016
Singha Craft January 31, 2016
Gypsy Carnival Music & Lifestyle Festival February 6, 2016
Cat Three Shirt Music Festival April30, 2016

Press
BK Magazine April 7, 2014
2Magazine June Issue June 12, 2014
Fungjai September 24, 2014
Bangkok Post Brunch September 28, 2014
Fungjai October 7, 2014
You2Play.com October 23, 2014
BK Magazine October 24, 2014
Big Boom Box Voice TV October 28, 2014
BK Music Awards BK Magazine January 5, 2015
Beehype’sBest of 2014 January 8, 2015
Big Boom Box Voice TV January 13, 2015
News Plus January 17, 2015
The Guitar Mag online January 18, 2015
Chiangmai City News January 26, 2015
Entertainment Now Mono 29 December 15, 2015
Cat Radio December 17, 2015
Nine Entertain December 17, 2015
Big Boom Box Voice TV December 20, 2015
Thairath TV December 20, 2015
mthai.com December 20, 2015
Banpraram 4 – 3 SD Channel December 22, 2015
Now 26 Nation Channel January 25, 2016
True4U January 26, 2016
Hamburger Magazine February 10, 2016
DONT Magazine May 12, 2016

Facebook Comments
Share Button