ยูโรเปี้ยน เรดบูล ติดปีกให้ดีเจสัญชาติไทยสู่เวทีระดับโลก
แม้จะต่างที่มา ต่างสไตล์ แต่จุดมุ่งหมายที่นำพาให้ทุกคนมารวมตัวกันก็คือ ใจที่รักในเสียงเพลง และความสุขที่ได้เห็นผู้คนขยับตัวไปตามจังหวะดนตรีที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้น นี่จึงเป็นการกลับมาอีกครั้งของ Red Bull Thre3Style Thailand 2016 การแข่งขันเพื่อเฟ้นหาสุดยอดดีเจ ที่จัดโดย ยูโรเปี้ยน เรดบูล ซึ่งเป็นมากกว่าการสร้างความสนุกให้คนดูเพียงชั่วข้ามคืน แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ดีเจสัญชาติไทยได้บินไกลไปโชว์สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองบนเวทีการแข่งขันระดับโลกอีกด้วย ซึ่งปีนี้ผู้ชนะจะไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศชิลี ในเดือนธันวาคม
DJ Shintaro performs prior the final night of the competition at the Red Bull Thre3Style World Final at Cristal Hall in Baku, Azerbaijan, on September 6th, 2014. // Denis Klero/Red Bull Content Pool // P-20140907-00246 // Usage for editorial use only // Please go to www.redbullcontentpool.com for further information. //
Red Bull Thre3Style คือการแข่งขันที่จัดขึ้นมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาสุดยอดดีเจที่ทำให้ผู้ชมมีความสนุก พร้อมทั้งต้องทำให้กรรมการประทับใจ เพราะไม่ใช่แค่เทคนิคเท่านั้นที่เป็นตัวตัดสิน แต่สิ่งที่น่าติดตามยังอยู่ที่การเลือกเพลง การทำเพลงออกมาไม่ซ้ำใคร และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด และที่ขาดไม่ได้คือความท้าทายที่จะต้องทำให้ผู้ชมได้ตื่นเต้นกันอย่างเต็มที่ โดยดีเจแต่ละคนจะต้องใช้เพลงอย่างน้อย 3 สไตล์มามิกซ์ให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียวภายในเวลาเพียง 15 นาที เรียกได้ว่าเวทีนี้เป็นเวทีเฟ้นหา DJ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ และความหลงใหลในเสียงเพลงหลากหลายสไตล์ เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้คนที่รักการปาร์ตี้ในแบบที่ไม่จำเจอย่างแท้จริง
ซึ่งหลังจากที่ทำการเฟ้นหาสุดยอด DJ จากทั่วประเทศในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สุดท้ายจึงได้ผู้เข้ารอบทั้ง 6 คน ซึ่งประกอบไปด้วย BOMBER SELECTA, WHATDATFROG, NUTTY, BUTUNG, PAKA และ ISTYLE ซึ่งต่างคนจะมานำเสนอสไตล์ที่สะท้อนตัวตนของตัวเองโดยมีกรรมการอย่าง DJ SHINTARO แชมป์โลก Red Bull Thre3Style 2013จากญี่ปุ่น DJ BYTE แชมป์โลก Red Bull Thre3Style 2015 จากชิลี และ MISTER MEEH จากประเทศไทย เป็นผู้ตัดสิน โดยผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะได้เป็นตัวแทนไปแข่งขัน Red Bull Thre3Style 2016 ในระดับโลกที่จะเกิดขึ้นในประเทศชิลีต่อไป
ร่วมเชียร์ และสนุกไปกับการแข่งขัน Red Bull Thre3Style Thailand 2016 ได้ในวันที่ 24 มิถุนายน 2559 ณ CE VA LI ตั้งแต่เวลา 3 ทุ่มเป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
Facebook : www.facebook.com/thre3style
Website : www.redbull.com/th/th
BUTUNG
“ผมคือ Turntablist”
BUTUNG อีกหนึ่งผู้แข่งขัน Red Bull Thre3Style ที่มีดีกรีแชมป์ Denon Dj Rookie of the year 2008 กับการแข่งขันที่เวทีนี้ เขาบอกว่าไม้ตายคือโชว์ ไม่ใช่แนวเพลง
“ผมคิดว่า การแข่งขัน Red Bull Thre3Style ไม้ตายของผมคือ energy ตอนโชว์เพราะว่าอันนี้ผมว่าสำคัญพอๆกับเซตเพลงเลย เพราะมันคือการใช้หลายอย่างอะครับ มันคือตัวตน อย่างเวลาที่เปิดเพลงธรรมดาเล่นแข่ง เล่นโชว์ event มันก็เล่นคนละแบบเปิดเพลงแข่งก็เป็นอีกคนนึงเปิดเพลงธรรมดาก็เป็นอีกคนนึงอีกอารมณ์นึง”
“ผมเริ่มสนใจ คลับดีเจ ตั้งแต่ ม.1ครับ แต่เริ่มเล่นจริงๆ ตอน ม.4 ครับ ก็คือเห็นพี่เต้งสแครชอยากเล่นสแครช ไปบอกที่บ้านเขาไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ เขาก็ให้เรียนดนตรีไปก่อนพอถึง ม.3-4 ก็เริ่มบอกแม่ได้ถูกแล้วว่าที่เราอยากเล่นจริงๆคืออะไรแล้วสุดท้ายก็ได้เล่น มีเครื่องดีเจที่บ้านคุณแม่ซื้อให้มาเล่นที่บ้านเขาก็ซื้อผิดๆถูกๆ มีTurntable ต้องมี Mixer ด้วยนะ เครื่องเล่นดีเจประกอบไปด้วย Section ต่างๆ Section เครื่องเล่น หรือเครื่องผสม ผมได้แต่เครื่องเล่นมา แต่ไม่รู้ว่าต้องมี Mixer ”
“ถ้าให้เรียกสไตล์เรียกว่า Turntablist เป็นดีเจที่ใช้อุปกรณ์เป็น Turntable การเล่นลักษณะจะแตกต่างกันกับดีเจ EDM คือ วิธีการต่อเพลงคือถ้าอย่างแบบ EDM จะเป็นการเล่นที่แบบสมูทเป็นอย่างมากการต่อเพลงเนียนเน้นอารมณ์ค่อยๆบิ้วท์อารมณ์เยอะ Turntablist เนี่ยจะใช้วิธีการต่อเพลงโดยใช้ทักษะเทคนิคที่ออกมาจากร่างกายของเราคือ การโชว์การ Scratch เพื่อต่อเพลง หรือว่าใช้มีทั้งการต่อเพลงแบบรวดเร็วจะเน้นไปทางโชว์ทักษะการต่อเพลงมากกว่าเอาทักษะมาดึงดูดความสนใจแทนที่จะไล่ฟิลต่อเพลง”
Red Bull Thre3Style ของคุณ คืออะไร
“เป็นโจทย์ที่คิดเองไม่รู้ตรงกันหรือเปล่าที่ผมคิดว่ามันคือ Creativity หรือ Energy อะไรก็ได้แต่ต้องมี creative มีพลังที่ทำให้คนสนุกไปด้วยไม่ใช่การโชว์ทักษะอย่างเดียว ผมรู้สึกว่า การแข่งขัน Red Bull Thre3Style ทำให้คนเข้าใจในทักษะของดีเจมากขึ้นดีเจสามารถปล่อยทักษะได้มากขึ้นคือเขาเริ่มรู้เริ่มดูเป็นเหมือนมันคล้ายๆกับนักดนตรีผับเราก็ต้องเล่นแต่เพลงตลาด ถ้าคนฟังรู้จักเพลงมากขึ้นเราอาจจะผสม jazz เข้าไป อันนี้ก็เหมือนกันเวลาเรามีงานแข่งมาคนติดตามเยอะขึ้นคนก็จะเข้าใจแล้วว่าการต่อเพลงมันมีแบบนี้อีกนะแล้วมันสนุกไปอีกแบบด้วย”
Bomber Selecta
Bomber Selecta แชมป์ Red Bull Thre3Style Thailand คนแรก
“Red Bull Thre3Style คืออิสระ ที่ connect กับคนฟังด้วยเสียงเพลง”
ตัวแทนแชมป์ประเทศไทยไปแข่ง Red Bull Thre3Style World DJ Championship ที่ญี่ปุ่นมาเมื่อปีที่แล้ว และในปีนี้… เป็นอีกครั้ง ของ Bomber Selecta 1 ใน 6 ดีเจตัวแทนประเทศไทย การกลับมาคราวนี้แน่นอนว่าประสบการณ์ที่มากขึ้น และความสนุกที่เต็มเปี่ยม สิ่งนี่แหละ!! ที่ Bomber Selecta คิดว่าเป็นหมัดเด็ดของเค้า
อยากให้คุณบาส (Bomber Selecta) เล่าถึงเส้นทางการทำอาชีพดีเจอีกสักครั้ง
“ก็ย้อนไปเมื่อ10กว่าปีก่อน ดีเจก็เป็นงานอดิเรกที่เริ่มทำตั้งแต่ตอนเรียน มีรุ่นพี่ถ่ายทอดวิชาเบื้องต้นให้และก็ฝึกฝนด้วยตัวเองโดยตลอด ประมาณว่าเป็นงานอดิเรกเพราะผมมีงานหลักเป็นงานด้านวิศวกรรม ซึ่งดีเจก็เป็นงานที่ผมคิดว่าถนัดมากที่สุดและรักมากที่สุด ผมมองว่า ไม่ว่าเราจะมีงานหลักเป็นอะไร สุดท้ายพอแก่ตัวลงคนเราก็ต้องพัก แต่หากเราอยู่กับศิลปะ ดนตรี นั่นคือคุณทำได้ตลอดชีวิต คุณแก่คุณก็ยังวาดรูปได้ เล่นกีตาร์ได้ แล้วมันก็มีความสุข อย่างผมทุกวันนี้ก็ซ้อมได้เกิน5ชม. เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารัก”
ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว อะไรทำให้มาลงแข่ง Red Bull Thre3Style และทำไมปีนี้ลงแข่งอีก ทั้งที่ได้แชมป์ไปแล้ว
“ผมศึกษา Red Bull Thre3Style มาตั้งแต่ปีแรกๆ ตั้งแต่ที่ฝรั่งเศส แคนาดา อเมริกา จนล่าสุด ผมทราบก็จากสื่อออนไลน์ เพราะเราเป็นคนที่ชอบการเปิดเพลงแบบ open format อยู่แล้ว ชอบเปิดหลายแนวเพลงแล้วก็ใส่เทคนิคของเราเข้าไป ก็สนใจในรูปแบบมานาน พอทราบว่าเมืองไทยจัดก็ลงแข่งเลย ส่วนเหตุผลที่กลับมาลงแข่งปีนี้ทั้งที่ปีที่แล้วได้ตำแหน่งแชมป์ ก็คงเป็นความสุขที่อย่างน้อยก็ได้มาสนุก คือแพชชั่น คือความหลงใหลในศิลปะ อยากให้คนดูอยากให้คนฟัง เรื่องผลแพ้ชนะมันเป็นอีกเรื่องนึง เพราะคนชนะยังไงก็มีแค่คนเดียว”
1 ปีหลังการประกวด Red Bull Thre3Style และประสบการณ์การแข่งในระดับเวทีโลกเป็นอย่างไรบ้าง
“ผมก็มีโอกาสได้ไปเปิดงานสำคัญๆ แล้วก็ตามเฟสติวัล เช่น WRAP MUSIC ที่พัทยา และก็พวกงาน Pool Party ที่สำคัญกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่มาก คือการได้ไปแข่งผม Red Bull Thre3Style ชิงแชมป์โลก ซึ่งผมไม่คิดว่าจะได้ไปเจอเวทีนอกบ้านเรา จากที่เราคิดว่าเรารู้อะไรระดับนึง แต่เราเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราะมีคนที่เก่งอีกเยอะ เราคิดว่าเราฟังเพลงเยอะ ก็มีคนที่ฟังมากกว่าอีก การแข่งขันที่ญี่ปุ่น เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมครับ ก็คือว่าทำให้คนรู้จักผมมากขึ้นแล้วก็มีมิตรภาพใหม่ๆมากขึ้น และที่สำคัญผมได้เรียนรู้และเห็นทักษะของดีเจที่มีความสามารถจากทั่วโลก ถือเป็น 10วันที่ ได้ประสบการณ์ขึ้นอย่างมากเค้าจะเป็น workshop แนะนำอุปกรณ์ใหม่ๆของการเรียนดีเจ เป็นอุปกรณ์ใหม่ๆ ซึ่งเราก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้ ถึงไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวเท่าไหร่ อยู่ที่นู้นคือ กิจกรรมจะวางไว้หมดเลย ต้องไปดูเค้าแข่ง เค้าจะมีเป็น head liner เป็นโอกาสที่คุณจะได้ดูคนระดับโลกเล่น”
ฉะนั้นคุณก็ได้เห็น Red Bull Thre3Style World DJ Championship 2015 วันนั้นดีเจไบร์ท เป็นอย่างไร
“เค้าเป็นคนมหัศจรรย์ครับ เค้าเป็นมิสเตอร์มิวสิคได้เลยครับ เค้าอยู่กับเพลงมากกว่าทุกอย่างในชีวิตเค้า ดนตรีก็ให้เค้ากลับ เค้าจะเข้าใจเพลงทุกอย่าง เพลงเป็นส่วนหนึ่งของตัวเค้า เค้าเป็นคนที่มากประสบการณ์”
เทคนิคและหมัดเด็ดของคุณในปีนี้คืออะไร
“ผมจะชอบการ mashup เช่น ผมหยิบเนื้อร้องของเพลงร็อคมา ผมเอาbeat ซึ่งเป็นดนตรีเปล่าๆของอีกแนวเพลงมาใส่ แล้วก็ข้ามไปอีกแนวเพลงนึงชอบตรงที่มันเข้ากันได้ เอา beat ของเรกเก้ เนื้อร้องของ hiphop มาผสมก็ไปด้วยกันได้ คนฟังก็จะ เอ้ย.. ไม่เคยได้ยินเวอร์ชั่นนี้ หมัดเด็ดผมคงพูดออกมาเป็นคำพูดไม่ชัดอะนะครับ ก็คือเรา เอ็นจอยไปกับมัน สนุกกับมัน ดนตรีมันทำอะไรได้หลากหลายมากกว่านี้ เพลงมันสามารถ เอามานำเสนอ และ ถ่ายทอด แตกแขนงไปได้อีกเพลงนึง โดยที่จะไม่เป็นการต่อเพลงแบบปกติที่เค้าเอามาแปะๆ กัน คือเอาเทคนิคเข้ามาใส่ได้ เช่นการสแครช หรือว่าใช้เมโลดี้เพลงหรือว่า เป็นบทเพลง ทักษะต่างๆ อย่างที่ผมบอกก็คือว่า Red Bull Thre3Style เป็นการแข่งขันที่รวบรวมศิลปะของดีเจทั้งหมดเข้ามาใส่ ที่จะต้องมีอย่างน้อย 3 แนวเพลง ทีนี้มันอยู่ที่คุณ ว่าคุณจะจัดการยังไง จะ manage ยังไงใน 15 นาที”
Red Bull Thre3Style ของคุณ คืออะไร
“คืออิสระ ที่จะ connect กับคนฟังด้วยเสียงเพลง แค่นั้นเองเป้าหมายคืออย่างงั้น ถ้าคุณพูดคุณสื่อสารอะไรถ้าคนฟังไม่เข้าใจมันก็เท่านั้น ให้เสียงเพลงอยู่กับคุณ ให้กรรมการประทับใจคุณ กรรมการผมว่าอีกเรื่องนึง อยู่ที่คนฟัง เราต้องคอนเนคกับคนฟัง ไม่ใช่แค่เปิดผ่านเสียงเพลง ผ่านเครื่องมือที่คุณมี คุณจะเห็นตามเฟสติวัลหรือตามคลับเนี่ยคนเป็น 100 ผ่านเซตดีเจแค่คนเดียว ก็เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์เหมือนกันนะ”
ISTYLE
“10 กว่าปีที่ผ่านมา การฝึกฝน Scractching คืองานอดิเรกที่มีความสุขที่สุด”
เจน หญิงสาวที่รักในดนตรีทุกแขนง ทั้งยังเป็นมือแซคโซโฟนประจำวงโยทวาทิต สมัยยังเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ทำให้เจนฟังเพลงหลากหลาย แต่ที่สนใจเป็นพิเศษจะเป็น House’90 จนวันนึงได้รู้จักกับการเป็นดีเจจากการไปเที่ยวบ้านรุ่นพี่ ดีเจสลัม (เจ้าจองร้าน DJ Slum LTD.) และถูกชักชวนให้ลองสัมผัสแผ่นไวนิลโดยเริ่มจากการทำถ้าพื้นฐาน ซึ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือสามารถทำได้อย่างเป็นธรรมชาติและรู้สึกหลงเสน่ห์ทันที และสิ่งนี้ก็กลายเป็นงานอดิเรกที่เจน ทำมาตลอดเกือบ10 ปี มีลงแข่งบ้าง ภายใต้ชื่อ Isytle ที่มีรุ่นพี่ตั้งให้หลังจากการลงแข่ง DMC THAILAND 2009 แต่กลับได้ลองทำเป็นอาชีพตอนตามแฟนหนุ่มไปทำงานที่ประเทศเวียดนาม จึงได้เริ่มทำการแสดงที่นั่นอยู่ 2 ปี ทั้งนี้ I STYLE หรือ เจน อาจจะห่างหายจากสนามแข่งมาสักพัก แต่การแข่งขัน Red Bull Thre3Style ในครั้งนี้ เธอเองก็มั่นใจเต็มร้อย ที่จะสร้างความสนุกตลอดโชว์ ด้วยเทคนิคที่เธอจะงัดมาใช้ตลอดการฝึกซ้อมมาหลายปี
ไม้เด็ดของ Istyle
“น่าจะเป็นเรื่องของ Technical ในการสแครชคิดว่า90%เลยดีกว่านำมาใช้คนไทยไม่ค่อยรู้จักอะไรกับมันเท่าไหร่หรือบางคนฟังแล้วคุณทำอะไรฟังไม่รู้เรื่องเลย คุณจะได้เข้าใจว่าทำให้การเปิดเพลงดูน่าสนใจขึ้นดูเท่ค่ะ”
นิยามของ Red Bull Thre3Style ในความหมายของคุณคืออะไร?
“ถ้าเกี่ยวกับทางด้านดนตรีด้วยก็คิดว่า สามสิ่งที่คุณคิดว่ามันดุเดือดที่สุดปล่อยมาให้เต็มที่เลย”
PAKA
“เมื่อสิ่งที่ชอบ กลายมาเป็นสิ่งที่ใช่”
PAKA สาวสถาปัตย์สายตื๊ด วัย 26 ปี จากรั้วศิลปากร ที่การันตีความสามารถด้วยดีกรีแชมป์ Pioneer Lady DJ 2015 สู่การเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทย ที่จะร่วมแข่งขัน Red Bull Thre3Style 2016 เพื่อจุดมุ่งหมายที่จะได้เรียนรู้ทำในสิ่งที่เธอชอบให้มากที่สุด
Paka กับการเป็นดีเจ เป็นมาอย่างไร
“ถ้าย้อนไปตอนที่เรียนอยู่ ก็คิดเสมอว่าถ้าเรียนจบออกไปแล้วจะทำอะไร เพราะส่วนตัวชอบดนตรีมากกว่าการเป็นสถาปนิก ก็เลยหาอะไรที่ตัวเองสนใจอยู่เรื่อยๆ จนมาเห็นรุ่นพี่ที่คณะเป็นดีเจ ก็เกิดสนใจและอยากลองดูบ้าง จึงไปลงเรียนที่ DJ Plus เรียนการใช้เครื่องเปิดเพลงทั่วไปเลยค่ะ เป็นลักษณะดีเจ EDM ซะมากกว่า เพราะตอนเรียนหลักๆก็ฝึกใช้เครื่อง CDJ เป็นหลัก ยังไม่ค่อยได้ฝึกการสแครช”
ความแตกต่าง ระหว่าง เครื่องTurntable กับ เครื่องCDJ
“มันเล่นได้เหมือนกันค่ะแค่ไม่ได้ใช้แผ่นไวนิล คือถ้าเป็นเทิร์นเทเบิ้ล ก็ต้องใช้แผ่นไวนิล อันนี้เป็นดิจิตอลค่ะใช้ usb หมุนๆหาเพลงแล้วก็เล่นได้เลย คือเป็นดิจิตอลมากขึ้น ตอนแข่ง Pioneer หนูใช้ CDJ ประมาณ 4 เครื่อง และก็ เอฟเฟ็คอีกเครื่องนึง ถึงจะถนัด CDJ มากกว่า แต่หนูก็จะฝึกสแครชกับเทิร์นเทเบิ้ล เวลาหนูไปทำงานก็จะสแครชกับ CDJ เลย มันไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นเทิร์นก็คือใช้เทคนิคของมันโดยไม่ต้องใช้ไวนิล เอาจริงๆ หนูอยากเล่นเทิร์นนะคะ แค่ยังไม่เคยเล่นแบบจริงๆจังๆแต่ว่าสแครช ที่บ้านมีเครื่องอยู่แต่ว่าฝึกสแครชกับเครื่องเทิร์น แต่ว่ายังไม่เคยกับเซตเต็มๆกับเทิร์นเทเบิ้ลจริงๆ ก็ตอนนี้เตรียมตัวอยู่ เล่นกับ Turntable ถ้าไม่ถนัดเราก็จะเล่นกับ CDJ เพราะว่า เราชินมือมากกว่าทำงานก็เล่น CDJ สแครชเราก้ได้ด้วยความที่ใจอยากเล่นเทินเทเบิ้ลรุ้สึกว่ามันดูเหมาะกับการเล่นเลยอยากเล่น Turntable มากกว่า”
เชื่อแล้วว่า Paka รักการเป็นดีเจ… ช่วยเล่าถึงการได้แชมป์ Pioneer Lady DJ 2016
“พอรู้แล้วว่าตัวเองรักและชอบในตรงนี้ ก็เริ่มฝึกฝนจริงจังมากๆ จนกระทั่งได้มีโอกาสแข่ง Pioneer Lady DJ 2015 ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่ๆ คิดว่าได้รางวัลชนะเลิศในปีนั้น อาจเป็นเพราะ คนอื่นอาจจะเน้นไปทางสายตื๊ดมากกว่า แต่ PAKA ฉีกแนวเล่นแตกต่างจากคนอื่น ก็ด้วยการเอาสองแนวมาผสมกัน คือ progressive house กับ trap twerk เพราะว่าหนูอยากเล่นแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าคนจะมองว่า มันจะเข้าได้ยังไง แต่ว่าเราชอบ หนูอยากนำเสนอ จะเอาให้ได้ แล้วก็ใส่สกิลการสแครชเข้าไปด้วย และวันนั้นค่อนข้างเล่นได้มั่นใจ ก็พยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด”
ความรุ้สึก Paka เมื่อทราบว่าเข้ารอบ 6 คน ของ Red Bull Thre3Style 2016
“ช็อคค่ะ อึ้งเหมือนกัน เพราะตัวเองชอบดูคลิปดีเจทางยูทูป ทำให้เจอคลิปจาก Red Bull Thre3Style ก็ติดตามมาโดยตลอด ไม่คิดว่าวันนึงตัวเองจะได้เข้าแข่ง และพี่ๆที่ผ่านเข้ามารอบนี้ก็สายแข็งทั้งนั้น คือหนูมาจากการแข่งขันสายตื๊ด พอมาเป็น Red Bull Thre3Style ก็ต้องทำการบ้านหนักมาก ตั้งแต่การใช้เครื่อง ศึกษาแนวเพลง คือต้องกว้างกว่า EDM เลยค่ะ หลังจากทราบผล อย่างแรกเลยหนูก็ต้องไปศึกษาเพลงมาก่อนก็คือเอาเท่าที่เราอยากเล่นด้วย แล้วก็เพิ่มพวกเพลงเก่าๆเข้ามา ช่วงหลังๆหนูเริ่มฟังเพลงเก่าๆมากขึ้น มากๆ บางเพลงคือเคยได้ยินนะ แต่ไม่เคยไปศึกษาว่ายุคนี้มีเพลงไหนดังๆก็เลยกลับไปฟัง เพราะว่าต้องการหยิบเพลงพวกนี้มาใส่ในเซตด้วยก็คือศึกษาจากทางนี้ เอาที่ตัวเองถนัดพวกกดๆ สแครชนิดหน่อย และที่สำคัญ ตอนนี้หนูกำลังหัดเล่น Turntable อยู่ค่ะ”
สไตล์ของ PAKA คือ
“progressive house กับ trap twerk ค่ะ เพราะว่าหนูอยากเล่นแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าคนจะมองว่า มันจะเข้าได้ยังไง แต่ว่าเราชอบ หนูอยากนำเสนอ จะเอาให้ได้ แล้วก็ใส่การสแครชเข้าไปด้วย”
ความคาดหวังในการแข่งขัน
“หนูไม่คิดว่าหนูต้องการชนะคนอื่น เพราะหนูรู้ว่าหนูได้แค่ไหน โอกาสมาแล้ว ก็อยากทำให้มันเต็มที่ ทำอะไรที่อยากทำ มันไม่มีอะไรที่บอกว่าคุณดีไม่ดี แค่ตอนนี้หนูเจอแล้วค่ะสิ่งที่ตัวเองชอบ ก็อยากเต็มที่ค่ะ”
Red Bull Thre3style ของคุณ คืออะไร
“คือความท้าทาย คือการสร้างสรรค์แนวเพลงอะไรก็ได้ให้มีความเป็นไปได้เท่าที่หนูฟังของดีเจ Trayze คือหนูชอบมากเขาเล่นทุกอย่างที่เป็นเพลงที่คนรู้จักแล้ว ไม่คิดว่าเป็นไปได้แต่เขาทำให้มันสมูทได้มันน่าประทับใจมาก คือบางคนเล่นแล้วแบบไม่เข้า แต่ว่าเขาแบบมันทำให้เราตามเขาได้มันรู้สึกสร้างสรรค์”
WHATDATFROG
“Red Bull Thre3Style คือพื้นที่ที่ให้ดีเจได้แสดงตัวตนของตัวเอง”
WHATDATFROG หรือ คุณกบ หนึ่งในผู้แข่งขัน Red Bull Thre3Style ที่มีโอกาสได้ลองสนาม มาเมื่อปีที่แล้ว แม้จะพลาดโอกาสไป แต่ในการแข่งขันครั้งนี้ เขาคือ 1 ใน 6 ตัวแทนดีเจ ที่พร้อมจะมาคว้าชัยในการแข่งขันครั้งนี้
ปัจจุบันนอกจากคุณกบ จะเป็นดีเจ แล้ว เขายังเป็นผู้จัดการร้าน Tha Beatlounge และโรงเรียนสอนดีเจที่ RCA Block D อีกด้วย และไม่น่าเชื่อว่า จุดเริ่มต้นการเป็นดีเจของเขา มาจากการที่ได้ดูโชว์ของ ดีเจSpydaMonkee จนกระทั่งได้ลงสนามแรก กับการแข่งขัน DMC (Disco Mix Club) ประเภททีม (ออนไลน์) ได้อันดับ 4 ของโลก
“จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจ จำได้ว่าตอนนั้น พี่เต้ง SpydaMonkee มาเล่นที่โรงเรียนราชวินิตบางเขนครับ เป็นอะไรที่ใหม่มาก เพราะส่วนตัวเรารู้แต่เบส กีตาร์ กลอง ตอนนั้นเตะบอลอยู่เพื่อนก็วิ่งมาชวน วันนี้มีดีเจมาสแครชแผ่น เราก็งงว่ามันคืออะไรก็ขึ้นไปดูเท่านั้นแหละ มันคือสิ่งที่เราอยากทำ แรกเริ่มเลย ผมฟังเพลง Hardcore ครับ มันคนละแนวเลย จากนั้นก็เริ่มฟังเพลงหลากหลายแนวมากขึ้น”
เล่นเพลงไม่ฮิตนี่แหละ หมัดเด็ดมัดใจกรรมการ
“Story ที่ผมจะใช้ในการแข่งขัน Red Bull Thre3Style ครั้งนี้ ผมจะใช้เป็นสไตล์การเล่าเรื่องครับแบบ word play ครับ คือเอาเนื้อร้องที่คล้ายๆกัน แล้วก็เอามาแปลงใหม่ประโยคนี้ของอีกเพลงนึงมาสลับอีกเพลงนึง ใส่อีกเพลงนึง ส่วนการเลือกเพลง ผมจะไม่ใช้เพลงฮิตติดชาร์ตเลยครับ มันอาจจะเป็นเพลงที่คุณอาจไม่เคยได้ยิน เราเลยอยากนำเสนอความแปลกและแตกต่าง เพราะว่าเพลงดีๆ เพราะๆ มีเยอะนะ ก็เลยอยากให้คนฟังเขารู้ว่าเราเล่าเรื่องให้เขาฟัง ให้คนเขาเต้นได้แบบไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเพลงดัง”
Red Bull Thre3Style ของคุณ คืออะไร
“เป็นอะไรทีมันใหม่มากแล้วมันดีด้วย ที่ให้ดีเจได้แสดงตัวตนของตัวเอง เพราะว่าดีเจตามคลับก็จะเปิดตามที่เจ้าของร้านบอกตามกระแสไรงี้ ไม่ได้create การมีพื้นที่ที่ทำให้เหล่าบรรดาดีเจได้โชว์ของอย่างเต็มที่ และ ฟรีสไตล์ที่สุด”
Bomber Selecta
Bomber Selecta แชมป์ Red Bull Thre3Style Thailand คนแรก
“Red Bull Thre3Style คืออิสระ ที่ connect กับคนฟังด้วยเสียงเพลง”
ตัวแทนแชมป์ประเทศไทยไปแข่ง Red Bull Thre3Style World DJ Championship ที่ญี่ปุ่นมาเมื่อปีที่แล้ว และในปีนี้… เป็นอีกครั้ง ของ Bomber Selecta 1 ใน 6 ดีเจตัวแทนประเทศไทย การกลับมาคราวนี้แน่นอนว่าประสบการณ์ที่มากขึ้น และความสนุกที่เต็มเปี่ยม สิ่งนี่แหละ!! ที่ Bomber Selecta คิดว่าเป็นหมัดเด็ดของเค้า
อยากให้คุณบาส (Bomber Selecta) เล่าถึงเส้นทางการทำอาชีพดีเจอีกสักครั้ง
“ก็ย้อนไปเมื่อ10กว่าปีก่อน ดีเจก็เป็นงานอดิเรกที่เริ่มทำตั้งแต่ตอนเรียน มีรุ่นพี่ถ่ายทอดวิชาเบื้องต้นให้และก็ฝึกฝนด้วยตัวเองโดยตลอด ประมาณว่าเป็นงานอดิเรกเพราะผมมีงานหลักเป็นงานด้านวิศวกรรม ซึ่งดีเจก็เป็นงานที่ผมคิดว่าถนัดมากที่สุดและรักมากที่สุด ผมมองว่า ไม่ว่าเราจะมีงานหลักเป็นอะไร สุดท้ายพอแก่ตัวลงคนเราก็ต้องพัก แต่หากเราอยู่กับศิลปะ ดนตรี นั่นคือคุณทำได้ตลอดชีวิต คุณแก่คุณก็ยังวาดรูปได้ เล่นกีตาร์ได้ แล้วมันก็มีความสุข อย่างผมทุกวันนี้ก็ซ้อมได้เกิน5ชม. เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารัก”
ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว อะไรทำให้มาลงแข่ง Red Bull Thre3Style และทำไมปีนี้ลงแข่งอีก ทั้งที่ได้แชมป์ไปแล้ว
“ผมศึกษา Red Bull Thre3Style มาตั้งแต่ปีแรกๆ ตั้งแต่ที่ฝรั่งเศส แคนาดา อเมริกา จนล่าสุด ผมทราบก็จากสื่อออนไลน์ เพราะเราเป็นคนที่ชอบการเปิดเพลงแบบ open format อยู่แล้ว ชอบเปิดหลายแนวเพลงแล้วก็ใส่เทคนิคของเราเข้าไป ก็สนใจในรูปแบบมานาน พอทราบว่าเมืองไทยจัดก็ลงแข่งเลย ส่วนเหตุผลที่กลับมาลงแข่งปีนี้ทั้งที่ปีที่แล้วได้ตำแหน่งแชมป์ ก็คงเป็นความสุขที่อย่างน้อยก็ได้มาสนุก คือแพชชั่น คือความหลงใหลในศิลปะ อยากให้คนดูอยากให้คนฟัง เรื่องผลแพ้ชนะมันเป็นอีกเรื่องนึง เพราะคนชนะยังไงก็มีแค่คนเดียว”
1 ปีหลังการประกวด Red Bull Thre3Style และประสบการณ์การแข่งในระดับเวทีโลกเป็นอย่างไรบ้าง
“ผมก็มีโอกาสได้ไปเปิดงานสำคัญๆ แล้วก็ตามเฟสติวัล เช่น WRAP MUSIC ที่พัทยา และก็พวกงาน Pool Party ที่สำคัญกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่มาก คือการได้ไปแข่งผม Red Bull Thre3Style ชิงแชมป์โลก ซึ่งผมไม่คิดว่าจะได้ไปเจอเวทีนอกบ้านเรา จากที่เราคิดว่าเรารู้อะไรระดับนึง แต่เราเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราะมีคนที่เก่งอีกเยอะ เราคิดว่าเราฟังเพลงเยอะ ก็มีคนที่ฟังมากกว่าอีก การแข่งขันที่ญี่ปุ่น เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมครับ ก็คือว่าทำให้คนรู้จักผมมากขึ้นแล้วก็มีมิตรภาพใหม่ๆมากขึ้น และที่สำคัญผมได้เรียนรู้และเห็นทักษะของดีเจที่มีความสามารถจากทั่วโลก ถือเป็น 10วันที่ ได้ประสบการณ์ขึ้นอย่างมากเค้าจะเป็น workshop แนะนำอุปกรณ์ใหม่ๆของการเรียนดีเจ เป็นอุปกรณ์ใหม่ๆ ซึ่งเราก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้ ถึงไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวเท่าไหร่ อยู่ที่นู้นคือ กิจกรรมจะวางไว้หมดเลย ต้องไปดูเค้าแข่ง เค้าจะมีเป็น head liner เป็นโอกาสที่คุณจะได้ดูคนระดับโลกเล่น”
ฉะนั้นคุณก็ได้เห็น Red Bull Thre3Style World DJ Championship 2015 วันนั้นดีเจไบร์ท เป็นอย่างไร
“เค้าเป็นคนมหัศจรรย์ครับ เค้าเป็นมิสเตอร์มิวสิคได้เลยครับ เค้าอยู่กับเพลงมากกว่าทุกอย่างในชีวิตเค้า ดนตรีก็ให้เค้ากลับ เค้าจะเข้าใจเพลงทุกอย่าง เพลงเป็นส่วนหนึ่งของตัวเค้า เค้าเป็นคนที่มากประสบการณ์”
เทคนิคและหมัดเด็ดของคุณในปีนี้คืออะไร
“ผมจะชอบการ mashup เช่น ผมหยิบเนื้อร้องของเพลงร็อคมา ผมเอาbeat ซึ่งเป็นดนตรีเปล่าๆของอีกแนวเพลงมาใส่ แล้วก็ข้ามไปอีกแนวเพลงนึงชอบตรงที่มันเข้ากันได้ เอา beat ของเรกเก้ เนื้อร้องของ hiphop มาผสมก็ไปด้วยกันได้ คนฟังก็จะ เอ้ย.. ไม่เคยได้ยินเวอร์ชั่นนี้ หมัดเด็ดผมคงพูดออกมาเป็นคำพูดไม่ชัดอะนะครับ ก็คือเรา เอ็นจอยไปกับมัน สนุกกับมัน ดนตรีมันทำอะไรได้หลากหลายมากกว่านี้ เพลงมันสามารถ เอามานำเสนอ และ ถ่ายทอด แตกแขนงไปได้อีกเพลงนึง โดยที่จะไม่เป็นการต่อเพลงแบบปกติที่เค้าเอามาแปะๆ กัน คือเอาเทคนิคเข้ามาใส่ได้ เช่นการสแครช หรือว่าใช้เมโลดี้เพลงหรือว่า เป็นบทเพลง ทักษะต่างๆ อย่างที่ผมบอกก็คือว่า Red Bull Thre3Style เป็นการแข่งขันที่รวบรวมศิลปะของดีเจทั้งหมดเข้ามาใส่ ที่จะต้องมีอย่างน้อย 3 แนวเพลง ทีนี้มันอยู่ที่คุณ ว่าคุณจะจัดการยังไง จะ manage ยังไงใน 15 นาที”
Red Bull Thre3Style ของคุณ คืออะไร
“คืออิสระ ที่จะ connect กับคนฟังด้วยเสียงเพลง แค่นั้นเองเป้าหมายคืออย่างงั้น ถ้าคุณพูดคุณสื่อสารอะไรถ้าคนฟังไม่เข้าใจมันก็เท่านั้น ให้เสียงเพลงอยู่กับคุณ ให้กรรมการประทับใจคุณ กรรมการผมว่าอีกเรื่องนึง อยู่ที่คนฟัง เราต้องคอนเนคกับคนฟัง ไม่ใช่แค่เปิดผ่านเสียงเพลง ผ่านเครื่องมือที่คุณมี คุณจะเห็นตามเฟสติวัลหรือตามคลับเนี่ยคนเป็น 100 ผ่านเซตดีเจแค่คนเดียว ก็เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์เหมือนกันนะ”