“บีบี เอกนรี” ดึง “ณเดชน์-โบว์” ประกบขึ้นสังเวียนคู่ปรับครั้งแรก! 14 พ.ค. นี้ ! เตรียมเบิ่งความม่วนพร้อมกันใน “มนต์รักหนองผักกะแยง”

ช่อง 3 ใส่เกียร์เดินหน้าชวนคลายความคิดถึงบ้านลดความทุกข์ใจไปกับละครไฮไลท์ของปี 2564 กับละครแนวฟีลกู๊ด โรแมนติก คอมเมดี้ผสมผสานกลิ่นอายถิ่นอีสาน “มนต์รักหนองผักกะแยง” สร้างจากบทประพันธ์ที่ได้รับการชนะเลิศ การประกวดของทางกระทรวงวัฒนธรรม โดยได้ “บีบี เอกนรี วชิรบรรจง” ทายาท “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” ขึ้นแท่นผู้จัดฯ ละครเต็มตัวเรื่องแรก ภายใต้ บริษัท ดูเอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด พร้อมกับการคว้าพระเอกแม่เหล็กระดับซุปตาร์อย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ในบท เขียว ประกบคู่นางเอกน้องใหม่ “โบว์ เมลดา” ในบท ชมพู่ กับผลงานเรื่องแรกของทางช่อง 3 นอกจากนี้ยังมากไปด้วยนักแสดงสายตลก นักร้องลูกทุ่งอีสาน อีกคับคั่ง อาทิ แดนนี่ ลูเซียโน่, นับตังค์ นันท์ณภัส, เต๋า ภูศิลป, เปรี้ยว อนุสรา, น้อย โพธิ์งาม, หยอง ลูกหยี, สมจิตร จงจหอ, ยิ่งยง ยอดบัวงาม, ชไมพร สิทธิวรนันท์ ฯลฯ การันตีความฮาแน่นอน

view More & Full size Photos
นอกจากจะเป็นละครคลายเครียดขายขำแล้วยังสอดแทรกหลักเศรษฐกิจพอเพียง การทำเกษตรอินทรีย์ผ่านการถ่ายทอดของตัวละครในเรื่อง รวมถึงการยึดสถาบันครอบครัวเป็นหลักในการดำเนินชีวิตตามคอนเซ็ปต์ “ที่ที่ดีที่สุด คือบ้านของเรา” ของผู้กำกับฯ “อ๊อฟ พงพัฒน์” ด้านผู้จัดฯ ลูกสาว “บีบี เอกนรี” ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นมาของละครเรื่องแรกที่เจ้าตัวดูแลเต็มตัวว่า

“บีมาทำหน้าที่ผู้จัดละครเต็มตัวเรื่องแรก เกร็ง และกดดันมาก ๆ บีทำการบ้านอย่างหนักร่วมกับคุณพ่อ พยายามปรับเปลี่ยนเรื่องราวให้เป็นไปตามสถานการณ์ ให้ทันสมัย เพื่อให้เนื้อเรื่องออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ส่วนคุณแม่ก็จะดูเรื่องแคสติ้งนักแสดง เราพยายามใช้นักแสดงที่เป็นคนอีสานจริงๆ เพื่อให้ได้กลิ่นอายของความเป็นอีสาน มีความเป็นคนพื้นถิ่น นักแสดงบางคนที่ไม่ใช่อีสานแท้ๆ ก็ต้องมาฝึกฝนออกเสียงพูดเยอะๆ สำหรับพระนาง ในเรื่องนี้อย่าง โบว์ เมลดา เจอตั้งแต่วันที่มาฟิตติ้ง เห็นความแก่น ความน่ารักเป็นธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับบทนี้มาก แล้วโบว์ก็เป็นคนขอนแก่นพูดอีสานได้ อาจจะมีเรื่องที่ต้องปรับเรื่องสำเนียงบ้าง เพราะไม่ได้พูดบ่อย แต่พอเข้าฉากบ่อยๆ ก็เริ่มไหลลื่นไปได้ค่ะ ส่วนพระเอก ณเดชน์ คนนี้ให้เกินร้อยเลยค่ะ ตั้งใจทำงานมาก ทุ่มเทกับทุกอย่าง ประทับใจมากๆ ซึ่งโดยภาพรวม เราโชคดีที่ได้นักแสดงเป็นทีมที่ดีมาก ทำให้การทำงานเป็นไปได้ด้วยดีมาตลอดค่ะ”

ด้าน “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ละครเรื่องนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับพี่อ๊อฟ แบบเต็มตัว เคยมีเจอกันบ้างตอนซีรีส์ 4 หัวใจแห่งขุนเขา ตอนมาเล่นรับเชิญในเรื่องของพี่อ๊อฟ แล้วก็มีภาพยนตร์นาคี ที่ได้พบกับพี่อ๊อฟ ซี่งในส่วนของละคร มนต์รักหนองผักกะแยง จึงเป็นการทำงานแบบเต็มตัวครั้งแรกที่ได้ทำงานกับพี่อ๊อฟ ซึ่งผมแฮปปี้มีความสุขมาก ได้เล่นละครเรื่องนี้เหมือนได้อยู่บ้าน ได้ทำงานกับคนในครอบครัว ได้พูดภาษาอีสาน กินอาหารอีสาน ได้รับรู้เรื่องราวของประเพณีอีสาน แล้วเนื้อเรื่องก็ยังแทรกเกี่ยวกับความรู้ในการทำเกษตร ไม่ใช่แบบสารคดี พี่อ๊อฟมีวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจ แล้วก็มีเส้นของความรักของผมกับนางเอกด้วย ผมว่าท่านผู้ชมน่าจะมีความสุขไปพร้อม ๆ กับผมด้วยเหมือนกันครับ”
และด้านสาว “โบว์ เมลดา” ได้พูดถึงความรู้สึกในเรื่องนี้ว่า “โดยส่วนตัว โบว์เป็นคนอีสานอยู่แล้ว เป็นคนขอนแก่น บ้านเดียวกับพี่ณเดชน์ แต่ชีวิตจริงก็ไม่ได้พูดอีสานบ่อยมาก มีเพี้ยนอยู่เหมือนกัน ต้องตั้งใจฟังกันให้ดี ละครเรื่องนี้เป็นผลงานละครเรื่องแรกที่โบว์มาทำงานให้กับทางช่อง 3 เป็นความโชคดีหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องของบท โปรดักชั่น ทีมงาน ดีใจมากที่ได้มาเล่นละครของพี่อ๊อฟ มันคือความใฝ่ฝัน แล้วมันก็ได้เป็นจริง ฝากติดตามละครกันด้วยนะคะ ทั้งโบว์และนักแสดงทุกคน ตั้งใจกันจริงๆ ค่ะ”

“ปฏิบัติการพาบักเขียวกลับบ้าน” เหนื่อยในเมืองหลวงมานานพอแล้ว พร้อมกลับบ้านด้วยกันในละคร “มนต์รักหนองผักกะแยง” เริ่มตอนแรก 14 พฤษภาคม นี้ ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 3 กด 33 และติดตามความป่วนตัวฮาเพิ่มเติมได้ทาง CH3Plus แล้วอย่าลืมกลับบ้านพร้อมกัน

เรื่อยย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง
บทประพันธ์/บทโทรทัศน์​​ช.เรเชล
กำกับการแสดง​​​ คุณ พงษ์พัฒน์​ วชิรบรรจง
ผลิตในนาม​​​​บริษัท ดูเอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด
ผู้ควบคุมการดำเนินการ​​ คุณ เอกนรี​​ วชิรบรรจง

เรื่องย่อ
​บ้านหนองกะแยงเป็นหมู่บ้านขนาดย่อมอยู่ในภาคอีสานในหมู่บ้านมีหนองน้ำหลายหนองกระจายอยู่รอบหมู่บ้านมีผักกะแยงรสเผ็ดกลิ่นร้อนแรงผักโปรดของชาวอีสานบ้านเฮา ขึ้นอยู่ริมหนอง ให้ชาวบ้าน ได้เก็บไปแกง ไปแซ่บได้ตลอดปี ทำให้เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน ธรากร หรือ “เขียว”มีคู่หูคู่ปรับอยู่ข้างบ้าน ชื่อเด็กหญิงชมพู่ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พอโตขึ้น เขียวย้ายไปเรียนที่กรุงเทพฯ ทำให้ทั้งสองตั้งแยกจากกัน จากที่เคยเป็นนักเรียนยอดนิยม นักกีฬาตัวเด่นเขียวกลายเป็นไอ้บ้านนอก ไอ้ลาวเด็กอีสาน พูดไทยไม่ชัดโดนเพื่อนร่วมชั้น นอกชั้นกลั่นแกล้งสารพัด กลายเป็นตัวตลกในโรงเรียน ธรากร สติแตก โทษว่าเป็นความผิดยายที่เป็นคนอีสานทำให้ตัวเองต้องโดนเพื่อนแกล้ง ไม่มีใครยอมรับแบบนี้ ประกาศกร้าวว่าจะไม่กลับไปบ้านหนองกะแยงอีก ยายเพียร เสียใจมากแต่ไม่โกรธโทษหลานรัก ตรงกันข้ามกลับเป็นห่วงหลานอย่างสุดหัวใจ ธรากร ฝึกพูดภาษาไทยจนชัดโดยที่ไม่มีสำเนียงอีสาน ได้กลับมาเป็นหนุ่มป๊อปปูล่าร์อีกครั้งหนึ่ง มันคือชีวิตที่เริ่ดเลอเพอร์เฟคของหนุ่มวัยรุ่น
​ชมพู่จบม.6สอบติดคณะเกษตรที่มหาวิทยาลัยประจำจังหวัด ส่วนเขียวได้เข้าเรียน คณะนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ วันรับปริญญาของเขียว ชมพู่เดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อมาแสดงความยินดี แต่เขาทำเมิน ดูถูกว่าชมพู่เป็นเด็กบ้านนอก ไม่ได้สนิทกัน มาทำไม ชมพู่โกรธและเสียใจมากพอเรียนจบ ชมพู่ได้งานเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรประจำจังหวัด และภายหลังตัดสินใจลาออกมาลงมือทำ ไร่แบ่งฝันปันรัก ไร่อินทรีย์ สอนและช่วยเหลือชาวบ้านหนองกะแยง ดูแลพ่อและแม่อย่างมีความสุข ส่วนเขียวพอเรียนจบ ก็ได้งานเป็นผู้กำกับละครตั้งแต่อายุยังน้อย ได้แฟนชื่ออลิซ เป็นนางร้าย เขียวรักมาก หลงมาก รับงานที่ผ่านเข้ามาทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อผ่อนคอนโด หลักหลายล้าน ที่ทำสัญญาซื้อ ในชื่อของอลิซ ตั้งใจจะใช้เป็นเรือนหอ และใช้สู่ขอแฟนสาว ระหว่างที่เขียวกำลังฝันหวาน อลิซก็นำโฉนดไปแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ อลิซประกาศแต่งงานกับชายอื่น แบบสายฟ้าแล่บ เขียวช็อกแทบบ้า เงินไม่เหลือ ติดต่ออลิซไม่ได้ สุดท้ายเขียวจึงจำใจ กลับบ้านหนองกะแยงในที่สุด
​เขียวมาถึงบ้านหนองกะแยงวันงานบุญของหมู่บ้าน โดยมีชมพู่ขับรถมารรับ ปิดหน้าปิดตาจนเขียวจำไม่ได้ ที่สำคัญ กว่าจะกลับถึงบ้าน ก็ต้องพบกับเรื่องราวมากมาย เกินบรรยาย จนเขียวถึงกับร้องไห้ออกมา ทั้งยายเพียร มานิต พิไล น้าพิลา ต่างดีใจที่เขียวกลับมาบ้าน แต่เขียวกลับมองว่า หากวันหนึ่ง เขาขายที่ดิน ซึ่งเป็นสมบัติของครอบครัวได้เมื่อไหร่ จะหอบเงินกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพฯให้ได้
​ชมพู่มาเช่าที่ดินของยายเพียร เพื่อทำไร่เกษตรอินทรีย์ มีชื่อว่า “ไร่แบ่งฝัน ปันรัก” ไร่อินทรีย์แห่งนี้มีการจัดสรรพื้นที่ให้มีการทำนา ปลูกผักหมุนเวียน ปลูกผลไม้หลายชนิด ที่ผลัดกัน ออกผลผลิตครบทุกฤดู เลี้ยงไก่อินทรีย์ เลี้ยงไส้เดือน ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยหมักเศษอาหาร และน้ำหมักชีวภาพ ไร่นี้ไม่มีลูกจ้าง อาศัยแรงงานอาสาสมัครชาวบ้าน ครูและนักเรียน มีการตอบแทนแรงงานด้วยตะกร้าอาหาร ผลผลิตจากไร่ อาสาสมัครตัวหลักประจำไร่ คือ ครูริช ครูอาสาชาวอเมริกัน สอนภาษาอังกฤษ ณ รร.บ้านหนองกะแยง หนุ่มรูปหล่อ นิสัยดี เป็นคนติดดิน พูดอีสานได้ ชอบวัฒนธรรม อาหารอีสาน แถมยังชอบสาวอีสานที่ชื่อชมพู่อีกด้วย
​ชมพู่เปิดตัวว่าเป็นเจ้าของโครงการไร่ เขียวเจรจาขอให้เธอยกเลิกสัญญา ชมพู่จึงมีข้อแม้ ให้เขียวเรียนรู้เรื่องการทำเกษตร จนครบทุกด่านเสียก่อน แล้วเธอจะยอมคืนไร่แบ่งฝันปันรักให้ การกลับมาครั้งนี้ เขียวได้พบกับเพื่อนเก่าอย่างยอด และส้มแป้น ซึ่งตอนนี้ยอด กลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หลังจากที่กระเจี๊ยบ เมียของเขาทิ้งไปมีสามีใหม่ ส่วนส้มแป้น ก็เปิดร้านขายส้มตำ เลี้ยงดูลูกสาวฝาแฝดสองคน เพราะสามีเอาแต่กินเหล้า และติดการพนัน จนต้องแยกทางกัน
​ถึงแม้เขียวจะไม่เต็มใจ ทำงานในไร่นัก แต่กาลเวลา ก็ทำให้เขาเกิดความรัก ความผูกพันกับบ้านเกิดอีกครั้ง ความสัมพันธ์อันเอื้อเฟื้อ มีจิตใจอันงดงามของผู้คนที่บ้านหนองผักกะแยง ทำให้เขียวเริ่มเปลี่ยนไป เขียวเริ่มเรียนรู้วิถีชีวิตที่แท้ ทั้งเรื่องการทำนาข้าวอินทรีย์ การเลี้ยงใส้เดือน การปลูกผักอินทรีย์ การทำน้ำส้มควันไม้ การเลี้ยงไก่อารมณ์ดี การทำน้ำหมักหลากสูตร อีกทั้งประเพณีของชาวอีสานอีกต่าง ๆ มากมาย ที่แสดงถึงความรักสามัคคีที่มีต่อกัน จากคนที่ไม่อยากพูดภาษาอีสาน เขียวกลับมาพูดภาษาอีสานอีกครั้ง อย่างภาคภูมิใจ ส่วนครูริช ก็ยังคงหลงรักชมพู่ โดยไม่ได้หันไปมองครูน้ำฝนเลย ว่าเธอเอง ก็รักและหวังดีต่อครูริชเช่นเดียวกัน เขียวเริ่มตัดใจจากคนรักเก่าได้แล้ว และเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักชมพู่เข้าให้แล้ว ทั้งพิลา พิไล ยายน้อย มานิต สมศักดิ์ ต่างเชียร์ให้ชมพู่และเขียวรักกัน เขียวเห็นว่าชมพู่สนิทสนมกับครูริชมาก ก็ลังเล และนึกน้อยใจ โดยที่ไม่มีใครรู้เลย ว่าชมพู่นั้น รักเขียวมาตั้งแต่วัยเด็ก และหัวใจของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง รอคอยวันที่เขียว จะกลับมาที่บ้านหนองกะแยงอีกครั้ง
​ครูริชได้รับรู้หัวใจของชมพู่ในที่สุด ว่าทั้งสี่ห้องของเธอ มีแต่เขียวเพียงคนเดียวเท่านั้น ครูน้ำฝน ปลอบใจครูริช จนทำให้ครูริชใจอ่อน ยอมเปิดใจให้กับครูน้ำฝน ส่วนยอดและส้มแป้น ก็มาช่วยงานที่ไร่แบ่งฝันปันรักเสมอ หัวใจที่เคยอ้างว้าง ผิดหวัง ของทั้งสองคน ต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทำให้ทั้งสองครอบครัว หล่อหลอมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว
​รวงข้าวในนาเริ่มตั้งท้อง มองไกลๆเห็นเมล็ดข้าวสีเขียว สีเหลืองอ่อน สลับกับสีทองระยิบระยับ แล้ววันหนึ่ง มอส ก็ยกกองถ่ายทำ มาที่บ้านหนองกะแยง โดยมีอลิซมาด้วย อลิซเลิกกับสามีแล้ว และตามกลับมาขอคืนดีกับเขียว เขียวสับสนว่าจะเลือกทางไหน ส่วนชมพู่ก็ร้องไห้เสียใจ ยิ่งเมื่อยายเพียรและครอบครัว รู้ความจริง ว่าเขียวจะขายที่ ทำให้ทุกคนผิดหวัง เสียใจมาก ชมพู่คืนสัญญา การเช่าไร่แบ่งฝันปันรักให้ แล้วเดินจากเขียวไปแบบหัวใจสลาย
​สุดท้ายเขียวจะทำเช่นไร เขาจะเลือกกลับไปใช้ชีวิตหรูหราที่กรุงเทพฯ กับคนรักเก่า หรือจะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหนองกะแยง ที่ไร่แบ่งฝันปันรักแห่งนี้ ติดตามกันต่อไป

รายชื่อนักแสดง
1. ณเดชน์ ​คูกิมิยะ​​​ รับบท​​ ธรากร/เขียว
2. เมลดา ​​สุศรี​​​ รับบท​​ ชมพู่
3. น้อย​​ โพธิ์งาม​​ รับบท ​​ยายเพียร
4. แดนนี่ ​​ลูเซียโน่​​ รับบท​​ ครูริช
5. นับตังค์​ นันท์ณภัส​​ รับบท​​ ครูน้ำฝน
6. เต๋า​​ ภูศิลป์​​​ รับบท​​ ยอด
7. อนุสรา ​วันทองทักษ์​​ รับบท​​ ส้มแป้น
8. สรวงสุดา ​ลาวัณย์ประเสริฐ​ รับบท ​​พิไล
9. หยอง ​​ลูกหยี​​​ รับบท​​ มานิต
10. สมจิตร​ จงจอหอ​​ รับบท​​ สมศักดิ์
11. ยิ่งยง​​ ยอดบัวงาม​​ รับบท ​​พิลา
12. ชไมพร​​ สิทธิวรนันท์​​ รับบท​​ พิกุล
13. ณัชพงศ์ พล​สุดดี​​​ รับบท​​ มอส
14. คาลิยา​​ นิฮุต​​​ รับบท ​​อลิซ
15. รุ่งฤดี​​ ข้อยุ่น​​​ รับบท​​ มายด์
16. รุ่งราตรี​ ข้อยุ่น​​​ รับบท​​ มิ้นท์
17. กมลรัศมิ์​ อารีสนั่น​​ รับบท​​ กระเจี๊ยบ
18. พีรสันต์​ บุญท้าว​​ รับบท ​​ตะขบ
19. อุ่นเรือน​ ราโชติ​​​ รับบท​​ เจ๊ลั้ง
20. เตชินท์​​ ปิ่นชาตรี​​ รับบท​​ อ้ายรุ่ง
21. ด.ช.ณัทวัตร​ ศรีระกิจ​​ รับบท​​ เขียววัยรุ่น
22. ด.ญ.คีตภัทร ​ป้องเรือ​​ รับบท​​ ชมพู่เด็ก
23. ด.ช.ศิวกร​ อุตะทอง ​​รับบท​​ เขียวเด็ก
24. ด.ช.ราชันท์​ หมัดสี​​​ รับบท​​ ยอดเด็ก
25. ด.ญง.กัญดาพร​ มูลทองเลิศ​​ รับบท ​​ส้มแป้นเด็ก
26. ด.ญ.ปารยา​​ แปชน​​​ รับบท​​ น้ำฝนเด็ก
27. ด.ช.ภคิณ​​กุล จิตติมาโนชย์​ รับบท​​ โต๋
28. ด.ช.ชนันทิชา​​ ชัยภา​​​ รับบท​​ กระต่าย
29. ด.ช.ติณณภพ ​​พิมเขต​​​ รับบท​​ ป๋องแป๋ง
30. ด.ช.ธนกร​​ ผลบุญ​​​ รับบท​​ ขอขวด

ตัวละคร มนต์รักหนองผักกะแยง
อัพเดท เมย. 2564
ธรากร พันธุ์วิเศษ / บักเขียว
ชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้า หน้าตาดี สูงโปร่ง ลูกชายคนเดียวของแม่พิไลและครูมานิต หลานชายคนแรก คนเดียวของยายเพียร เติบโตมาในครอบครัวที่เทความรักให้เต็มร้อย อยากได้อะไร ไม่ค่อยมีใครขัดใจ ตอนเกิดตัวดำมากจนออกเป็นสีเขียว จึงได้ชื่อเล่นว่าเขียว ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านหนองกะแยง สมัยเด็กเคย เป็นคู่หู คู่กัด ของชมพู่ ธรากรเป็นคนเรียนดี กีฬาเด่น ครอบครัวมีเหตุต้องย้ายเข้ากรุงเทพ ธรากรจึงได้มาเรียนในกรุงเทพ ด้วยสำเนียงอีสานที่ติดตัว โดนเด็กที่กรุงเทพแกล้งสารพัด ชีวิตวัยรุ่น ต้องมาเจอมรสุมหนัก เขาโทษว่าเป็นความผิดยาย ที่เป็นคนอีสาน เกลียดความเป็นอีสาน จึงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้คน เมือง ให้คนกรุงเทพยอมรับ ด้วยความมุ่งมั่นเขาล้างคราบเด็กอีสานออกจนหมดและกลายเป็นหนุ่มฮอต ยอดนิยม จนกระทั่งจบมหาวิทยาลัย ธรากรเป็นคนมีความพยายามสูงและมุ่งมั่น ปัจจุบันทำงานเป็นผู้กำกับละครชีวิตดีเว่อร์มานานจนกระทั่งโดน อลิซ แฟนสาว ดารานางร้ายหุ่นแซ่บหลอก เชิดคอนโด เขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดี ธรากรทั้งเจ็บ ทั้งอายไม่มีทางไป จำเป็นต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านหนองกะแยงชั่วคราว แต่ แล้วตัดสินใจไปทำเกษตรอินทรีย์เพื่อให้ยายตายใจ ยกที่ดินให้ จะได้เอาไปขาย ย้ายกลับกรุงเทพไปใช้ชีวิตไฮโซอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ตกหลุมรักชมพู่คู่กัดเก่า เรียนรู้ชีวิตพอเพียงจากชมพู่ ครูริชและชาวบ้าน ยอมรับในความเป็นอีสาน ในสายเลือด ยอมรับตัวเอง สำนึกรักบ้านเกิด และสานต่อไร่แบ่งฝันปันรักตามความฝันในวัยเด็กของตนเองและ ชมพู่

ชมพู่ แสนบุญมี
สาวอีสานบ้านหนองผักกะแยง เกิดและโตที่นี่อายุยี่สิบเก้า หน้าตาน่ารัก ผิวแทน แบบสาวไทยแท้สวย ธรรมชาติ ไม่แต่งหน้า แต่งตัว เป็นคนตรงๆ ปากและใจตรงกันเป๊ ะ เป็นที่เลื่องลือในหมู่บ้านถึงความไม่ยอมใคร มีฐานะปานกลาง รักพ่อและแม่มาก จริงใจ ซื่อสัตย์ไม่ซับซ้อน แต่มั่นคง และหยิ่งทะนงสุดๆ รักใครรักนาน เกลียดใครก็เกลียดนาน ไม่เปิดใจให้ใครง่ายๆ เป็นคู่หูคู่กัดธรากรตั้งแต่เด็ก เลิกเป็นเพื่อนกับธรากรเพราะโดนเขาดูถูก ชมพู่เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรประจำจังหวัด แต่ตัดสินใจลาออกมาดูแลพ่อ ครูสมศักดิ์และแม่ ครูพิกุล สองครูเกษียณ อดีตครูประถม โรงเรียนบ้านหนองกะแยง ยายเพียร เลี้ยงชมพู่มาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ติดนิสัยรู้จักเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือชาวบ้านมาจากยายเพียร ด้วยเหตุที่พ่อและแม่โดนโกงจนสูญเสียที่ดิน เพราะไปเซ็นค้ำประกันให้ญาติช่วงเดียวกันกับเอาบ้านไปกู้ เพื่อส่งชมพู่เรียนมหาลัย ทำให้ชมพู่ มีความเด็ดขาด รักความยุติธรรม และไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายอธรรมลอยนวล ชมพู่มีปม รู้สึกผิดลึกๆ แอบคิดเสมอว่าเพราะตัวเองเรียนต่อมหาวิทยาลัยทำให้พ่อและแม่ ต้องสูญเสียที่ดินมรดก ปัจจุบันชมพู่เช่าที่ดิน 10 ไร่ ของยายเพียร ตั้งใจเก็บไว้ให้ธรากร ทำไร่แบ่งฝันปันรัก ไร่นาผสม เกษตรอินทรีย์สร้างสรรค์อาหารอินทรีย์ แนะแนวทางการอยู่อย่างพอเพียงให้กับเด็กๆชาวบ้านและชุมชน ใช้ ชีวิตเรียบง่ายและสงบสุข แต่…ถูกรบกวนด้วยคู่กัดเก่า ธรากร เพราะเขาต้องการเอาที่ดินของไร่แบ่งฝันปันรักไปขาย ทั้งคู่กัดกันต่อเนื่องจนกลายมาเป็นคู่รักในที่สุด

ริช สมิท
ครูอาสาสมัครชาวอเมริกัน สอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนบ้านหนองผักกะแยง อายุ สามสิบสาม รูปหล่อ สูงโปร่ง หุ่นดีใจดี เด็กๆและชาวบ้านเรียก “คูลิด” เป็นคนเรื่อยๆ ไม่ทะเยอทะยาน รักความ สงบและเรียบง่าย มีความรู้ด้านการเกษตรอินทรีย์และ Permaculture (การออกแบบวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ ใช้ ทรัพยากรแต่น้อยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและหมุนเวียนในธรรมชาติได้) สมัยเด็กเติบโตมากับแม่เลี้ยงคนอีสาน ทำให้ พูดอีสานได้ รักในความเป็นอีสานหลงรักในรสชาดอาหาร ประเพณีและวัฒนธรรม อีสาน รวมไปถึงสาวอีสาน ตอนแรกชอบชมพู่ พยายามจีบและเอาใจ แต่ชมพู่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นได้แค่เพื่อน แม้จะอกหักแต่ก็เข้าใจ และสุดท้ายได้ปลูกรักต้นใหม่กับครูน้ำฝน

ยายเพียร นามดี
ยายของธรากร แม่ของพิไลและพิลา วัยเจ็ดสิบสี่ รักครอบครัว รักหลานมาก สามีชื่อ นายอินทร์ ที่เสียชีวิตในสงครามสู้รบกับคอมมิวนิสต์เมื่อปีพ.ศ. 2518(พิลา ลูกชายคนเล็กเพิ่งเกิด) ยายน้อยจึง ได้รับเงินบำนาญตลอดชีวิต ยายเพียรมีความแกร่งทั้งใจและกายเพราะต้องเลี้ยงลูกทั้งสองด้วยตัวเอง สมัยเป็นแม่หม้าย ใหม่ๆ ได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากบรรดาญาติๆ และชาวบ้านหนองผักกะแยง ทำให้ยายเพียร ซาบซึ้งใจมาก จึง ชอบช่วยเหลือคนอื่น มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ทุกคน ครอบครัวเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือในหมู่บ้าน ยาย เพียร อาหารโปรดอาหารประจำบ้านคือแกงหน่อไม้ผักกะแยง แม้จะจบแค่ป.4 แต่ดีกรีความฉลาด ไหวพริบไม่ด้อยไปกว่าด๊อกเตอร์ รักเขียว หลานชายมาก รวมถึงรักชมพู่เหมือนหลานแท้ๆอยากให้ชมพู่และธรา กรได้ลงเอยกันมาก ให้ชมพู่ ทำไร่แบ่งฝันปันรัก เพื่อรอธรากรกลับมา

พิลา นามดี
ลูกชายคนเล็กของยายน้อย น้องชายพิไล น้าชายของธรากร อายุ 45ปี อาชีพหลักเป็นผู้ใหญ่บ้านสายฮา ขาแดนซ์ ประจำบ้านหนองกะแยง ทำงานดี เป็นที่รักของลูกบ้าน งานถนัดและชอบมากคือเป็นดีเจช่วงเช้า-เย็น ได้เปิดเพลง เป็น โฆษกประกาศข่าวสารบ้านเมือง บอกเล่าเก้าสิบให้แก่ชาวบ้าน มีเพลงประจำตัวคือเพลง อีสานบ้านเฮา มีนิสัยชอบ ช่วยเหลือผู้อื่นเหมือนแม่

ครูน้ำฝน โพนภาคภูมิ
ครูภาษาไทย รร.บ้านหนองกะแยง เพื่อนสมัยเด็กของชมพู่ ธรากร ยอด และส้มแป้น ครูน้ำฝนเกิดและเติบโตที่ บ้านหนองกะแยง เรียนจบแล้วก็กลับมาทำงานที่โรงเรียนบ้านหนองกะแยงเ พ่อและแม่ย้ายไปอยู่กับพี่ชาย และพี่สะใภ้เพื่อช่วยเลี้ยงหลานในเมือง เป็นคุณครูหน้าสวย รูปร่างดี อดีตนางนพมาศหลายสมัย มีนิสัยอ่อนหวาน เรียบร้อย มารยาทงาม ใจดีแต่มีความเข้มงวดกับนักเรียน เพราะต้องการให้เด็กๆเติบโตมาอย่างมีคุณภาพ เป็นครูที่ทำเพื่อเด็กๆ ช่วยเหลือและดูแลนักเรียนเป็นอย่างดี มีความเป็นแม่พิมพ์ของชาติสูง แอบหลงรักครูริช ด้วยคุณงาม ความดีและ ความจริงใจ สุดท้ายได้ลงเอยกับครูริชแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

ยอด ยอดชาย โคตรสี
อายุยี่สิบเก้า ผิวเข้ม ขยัน แข็งแรงจิตใจดี นิสัยดี ยอมคน ไม่ชอบมีเรื่อง หรือหาเรื่องใคร การศึกษาระดับ ปวช. ช่างยนต์ อาชีพขับรถไถ รถปั่นดิน รถสีข้าว ขับได้ ซ่อมได้ ยอดเป็นเพื่อนสมัยเด็กของธรากร ชมพู่ ส้มแป้นและครูน้ำฝน เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวลูกสอง น้องโต๋ ลูกชายคนเล็กอายุขวบครึ่ง กระต่าย ลูกสาวคนโตอายุสี่ขวบ (ได้ลูก กับเมียทั้งสองอย่างละคน) เมียคนแรก สมศรี หนีไปเพราะทนอยู่บ้านนอกต่อไปไม่ไหว ส่วนเมียคนที่สอง กระเจี๊ยบ หนี ตามผู้ชายที่เจอกันทางอินเตอร์เนท ยอดเป็นเพื่อนที่คอยให้ความช่วยเหลือช่วงที่ธรากรกลับมาทำไร่ สุดท้ายได้ลงเอยกับส้มแป้น

ส้มแป้น นาบัว
เพื่อนสมัยเด็กของชมพู่วัยยี่สิบเก้า เป็นคนแรง ปากจัด ถึงจะไม่เริ่มก่อนแต่ก็ไม่ยอมใคร ด่าได้ ตบได้สไตล์ แม่ค้า แต่จิตใจดีงาม แม้จะผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน เลิกกับอ้ายรุ่ง สามีขี้เกียจ ซ้ำยังทำตัวเป็นคนขี้เหล้า เมายา ติดการพนัน สุดท้ายส้มแป้นกลาย เป็น แม่เลี้ยงเดี่ยวสายสตรองที่จบแค่ม.3 มีลูกสาวฝาแฝด น้องมาย น้องมินท์ เคยทำงานโรงงานแต่พอมีลูกก็ตัดสินใจเปิดร้านส้มตำไก่ย่าง อาหารอีสานรสแซ่บ

อลิซ เทเลอร์
นางร้ายลูกครึ่งหน้าสวยหุ่นแซ่บ อายุยี่สิบห้า แฟนธรากร มารยาหลายร้อยเล่มเกวียน คบซ้อน หลอกให้ธรากร โอนคอนโดให้เพื่อเป็นสินสอด พอได้คอนโดแล้วประกาศหมั้นสายฟ้าแล่บกับแฟนหนุ่ม แต่สุดท้ายก็ต้องแยกทางกัน และหาทางมาคืนดีกับเขียวในที่สุด

มอส ศราวุธ แซ่โอ๊ว
หนุ่มตี๋ วัยยี่สิบเก้า เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของธรากร รักเพื่อน จริงใจกับธรากร ทำงานอยู่ทีมกำกับละคร เดียวกัน เคยเห็นสภาพธรากรตอนที่ถูกอลิซทิ้ง แนะให้ธรากรขายที่ดินแล้วขนเงินกลับกทม. มาเปิดบริษัททำละครเอง

มานิต พันธุ์วิเศษ
พ่อของธรากร ครูเกษียณ อดีตครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองกะแยง พบรักกับพิไลตอนมาเป็นครูใหญ่บรรจุที่ร.ร.บ้านหนองกะแยง ย้ายกลับไปอยู่ กรุงเทพหนึ่งปีเพื่อดูแลพี่สาว นิตยา ที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เดินไม่ได้ ก่อนจะย้ายกลับมาประจำเป็นครูใหญ่ที่ โรงเรียนหนองผักกะแยงจนเกษียณ ทำให้พูดอีสานได้อย่างคล่องปาก ปัจจุบันอายุหกสิบสาม อยู่บ้านหนองผักกะแยง กับครอบครัวภรรยา รักครอบครัว เป็นเพื่อนสนิทกับครูสมศักดิ์พ่อของชมพู่

พิไล พันธุ์วิเศษ
แม่ของธรากร อายุห้าสิบหก เป็นแม่บ้านที่ดูแล ปรนนิบัติ สามี ลูก น้องชายและยายเพียร เป็นอย่างดี ใจดี ใจเย็นมาก รักครอบครัว แต่ข่มผัวได้ถ้าจำเป็น ชอบช่วยงานบุญของ บ้านหนองกะแยงเป็นประจำ แม่บ้านแม่เรือนตัวอย่าง ทำกับข้าวอร่อย เย็บปักถักร้อยได้งานฝีมือ แฮนด์เมดลายอีสาน งดงามเลยเชียว เป็นเพื่อนสนิทของครูพิกุล แม่ของชมพู่

สมศักดิ์ แสนบุญมี
พ่อของชมพู่ เพื่อนสนิทครูมานิต อายุหกสิบสอง ครูพละเกษียณ หลังจากเกษียณ ไม่ค่อยยอมใครง่าย ยกเว้น ครูพิกุลและชมพู่ แต่มีนิสัยใจกว้าง ชอบ ช่วยเหลือคนอื่นจนเกินความสามารถ พลาดไปเซ็นค้ำประกันให้ญาติ สุดท้ายต้องเสียที่ดินมรดกไปอย่างน่าเสียดาย

พิกุล แสนบุญมี
แม่ของชมพู่ อายุหกสิบ หุ่นดีครูคณิตศาสตร์เกษียณหมาดๆ ปัจจุบันชอบเล่นโยคะ ฤาษีดัดตน ชวนชาวบ้าน มาร่วมออกกำลังกายที่บ้านตอนเช้า ดูแลเรื่องอาหาร เลือกกินเฉพาะอาหารอินทรีย์รักษาหุ่นสุดขีด เป็นแม่ที่ใจดี รักและดูแล ชมพู่ ลูกสาวเป็นอย่างดี

ตะขบ ชาตรี ดวงดี
เด็กชายวัยสิบขวบ อยู่กับตาสอนและยายผา ครอบครัวยากจน พ่อกับแม่ทำงานอยู่กรุงเทพ เป็นช่างก่อสร้าง หาเช้ากินค่ำ ส่งเงินมาเลี้ยงตาสอนกับยายผาและตะขบเดือนละไม่กี่พันบาท พอกินบ้างไม่พอกินบ้าง ตะขบติดชมพู่มาก แกล้งธรากรเพื่อช่วยชมพู่ เพราะไม่ชอบคนกรุงเทพ เกลียดกรุงเทพที่พรากพ่อและแม่ไป นอกจากจะมีตาสอนกับยายผาคอยดูและ ตะขบยังเป็นที่รักของชาวบ้าน และได้รับการดูแลจากชมพู่อยู่เสมอ

มาย-มินท์
ลูกสาวฝาแฝดของส้มแป้น เป็นเด็กน่ารัก ร่าเริง เด็กดี ขยัน หลังจากกลับจากโรงเรียนก็มาช่วยแม่ขายส้มตำ เรียนดี กิจกรรมเด่น ได้ทุนการศึกษาทุกปี แม้จะมีพ่อขี้เมา ก็ยังให้ความเคารพ แถมไม่ให้ปม ด้อยใดๆมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต

กระเจี๊ยบ นาโล่ง
เมียคนที่สองของเต๋า วัยยี่สิบ ชอบแต่งตัวแต่งหน้าขี้เกียจทำงาน ให้ผัวหาเลี้ยง ยอด ก็ตามใจ เพราะรัก หลงเมีย กระเจี๊ยบเป็นคนหน้าตาสวย ชอบเล่นโซเชี่ยล สุดท้ายจึงหนีตามชายอื่นไป ทิ้งให้ยอด เลี้ยงดูลูกลำพัง

เพลง อีสานบ้านเฮา Ost.มนต์รักหนองผักกะแยง

ศิลปิน : ณเดชน์ คูกิมิยะ, เมลดา สุศรี, เต๋า ภูศิลป์ , อนุสรา วันทองทักษ์, แดนนี่ ลูเซียโน่, นับตังค์ นันท์ณภัส
คำร้อง/ทำนอง : พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา
เรียบเรียง : พิทยา พูลดาวทอง

หอมดอกผักกะแยง ยามฟ้าแดงค่ำลงมา
แอ๊บแอ๊บ เขียดจานา ร้องยามฟ้าฮ้องฮ่วนฮ่วน
เขียดโม้เขียดขาคำ เหมือนหมอลำพากันม่วน
เมฆดำลอยปั่นป่วน ฝนตกมาสู่อีสาน
หมู่หญ้าตีนกับแก้ ถูกฝนแลเขียวตระการ
ควายทุยเสร็จจากงาน เล็มหญ้าอ่อนตามคันนา
รุ่งแจ้งพอพุ่มพู่ ตื่นเช้าตรู่รีบออกมา
เร่งรุดไถฮุดนา รีบนำฟ้าฟ่าวนำฝน
อีสานบ้านของเฮา อาชีพเก่าแต่นานดน
เอาหน้าสู้ฟ้าฝน เฮ็ดนาไร่บ่ได้เซา เฮ็ดนาไร่บ่ได้เซา

*ม่วนเย๊ย..ฮะโอโอ้หนอ
ฮ่ะ โอ้ โอ่ โอ้ โอ้ โอ้ โอ้หนอ ฮะโอ้ โอ่ โอ้ โอ่ โอ โอ่ โอ โอ่ โอ โอ้ …หนอ
ม่วนเอยม่วนเสียงกบ ร้องอ๊บอ๊บ กล่อมลำเนา
ผักเม็กผักกะเดา ผักกระโดนและผักยีฮีน
ธรรมชาติแห่งบ้านนา ฝนตกมามีของกิน
ฝนแล้งแห้งแผ่นดิน ห้วยบึงหนองแห้งเหือดหาย
มาเด้อมาเฮ็ดนา มาเด้อหล้าอย่าเดินผ่าย
นับวันจะกลับกลาย บ่าวสาวไหลเข้าเมืองกรุง
เสียงแคนกล่อมเสียงซุง ตุ้งลุงตุ้ง แล่นแตนลุ่งตุง
เสียงแคนกล่อมเสียงซอ อ้อนแล้วอ๋ออ้อนอีแล้วอ๋อ
มาเด้อมาช่วยกันก่อ อีสานหนอ…บ้านของ…เฮา
(*ซ้ำ)

เพลง มาเด้อขวัญเอ้ย Ost.มนต์รักหนองผักกะแยง

ศิลปิน : ณเดชน์ คูกิมิยะ
คำร้อง/ทำนอง : จอร์น ขวัญชัย
เรียบเรียง : จอร์น ขวัญชัย/วชิระ จำปาหอม,/ณัฐภูมิ คุ้มวงษ์
มิกซ์มาสเตอร์ : วชิระ จำปาหอม

น้ำกะไหลออกตา ขาบ่มีแฮงยาง โดดเดี่ยวอ้างว้าง หาทางบ่เห็น
สิเฮ็ดจั่งใด ไปต่อบ่เป็น บทละครที่เขียนให้เล่น กะบ่เป็นคือจังความฝัน

*ขอลาออกจากเมืองใหญ่ หวนคืนไปบ้านเฮา
กลับมากอดผู้เฒ่า ที่จากมาโดน

*** แสงตะเว็นยามเซ้า เคล้าลมพัดจากท้องนา
โอดินกลิ่นฟางบ้านป่า ส้มตำปลาร้ายังอยู่ในใจ

มาเด้อขวัญเอ้ย อีพ่ออีแม่เพิ่นผูกแขนให้ จากนี้สิบ่ไปไส ย้อนว่าหัวใจลูกอยู่อีสาน อยู่ไสกะบ่คืออยู่บ้าน ไทอีสานบ้านเฮา
(ซ้ำ*/***)

เพลง ขอใช้คำว่าแฟน Ost.มนต์รักหนองผักกะแยง
ศิลปิน ณเดชน์ คูกิมิยะ & เมลดา สุศรี
คำร้อง กฤชยศ เลิศประไพ
ทำนอง/เรียบเรียง ปรเมศวร์ เหมือนสนิท

สงสัยว่าฉันนั้นเป็นอะไรหรือเปล่า? ก็ตั้งแต่เช้ามันคิดถึงเธออย่างนี้
อยากบอกกับอ้ายคือกัน ทุกทุกวินาที ซูมื้อนี้ ก็คิดฮอดอ้ายถ่อนั้น
เหลียวมองข้างฝาก็เห็นแค่หน้าของเธอ เก็บเอาไปเพ้อไปนอนละเมอในฝัน
ซนโต๋ของน้องนั้นเด้ คึดหลายพอปันกัน ถ้าอย่างงั้นเราจะต้องแก้ยังไง

* อยู่ตัวคนเดียวมันก็คงเหงาใจ เหี่ยวแห้งตาย..ปล่อยทิ่มไว้จังซั่น อาการอย่างนี้ คงต้องมาฮักกัน อ้ายนั้นพอซอยได้บ่ เฮามาฮักกันไว้ดีกั่ว

ฉันก็ไม่รู้เธอเป็นเหมือนกันหรือเปล่า? จะอยู่เหงาเหงา ให้เสียเวลาทำไม สรุปจังซี่ละกัน บ่ต้องให้วุ่นวาย ตกลงไหมเฮามาเป็นแฟนกันเถาะ

สรุปสถานะเฮาสองคนต่อไป ขอใช้คำว่าแฟน

เพลง คนนอกหัวใจ Ost. มนต์รักหนองผักกะแยง

ศิลปิน : เมลดา สุศรี
คำร้อง/ทำนอง : จอร์น ขวัญชัย
เรียบเรียง : จอร์น ขวัญชัย/วชิระ จำปาหอม/ณัฐภูมิ คุ้มวงษ์
มิกซ์มาสเตอร์ : วชิระ จำปาหอม

เขาสิฮู้บ่ว่า มีคนถ่าอยู่หม่องนี้ ในเขตพื้นที่ ที่เขาอาจบ่เคยเห็น อยู่อย่างไร้ตัวตน บ่เคยมีความจำเป็น แต่เฮาชัดเจน เป็นเขาตลอดเวลา

* เคยมีน้ำตา แต่ว่าเก็บอาการ เคยไหวหวั่น แต่บ่ให้ไผฮู้
เรื่องความฮักบ่มีทางต่อสู้กับเขา ได้เลย

** คนนอกหัวใจ จังใดเขากะบ่ฮัก แม้คิดฮอดเขาหลายคัก เฝ้าคอยดูแลห่วงใย แต่บ่เป็นหยัง อยู่เพียงลำพังกะได้
ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ คนนอกหัวใจสิเจ็บส่ำใดกะยอ
(ซ้ำ */**)

ชวนน้องเฮ็ดนา (เวอร์ชั่น เกี่ยว) Ost.มนต์รักหนองผักกะแยง

ศิลปิน : ณเดชน์ คูกิมิยะ
คำร้อง/ทำนอง : บอย เขมราฐ
เรียบเรียง : โป๋ง สุรกิต

*อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด เฮ็ดนาส่อยกัน

ไถนากับเธอ อยากสิไถนากับเธอ เฮ็ดนากับเธอ อยากให้เธอมาส่อยเฮ็ดนา พ่อแม่เฮาพาเฮ็ดกันมาตั้งแต่ไหน เฮาคนรุ่นใหม่ เลยต้องไถ ต้องส่อยกันปลูก

**บ่ว่านาท่งน้อย-ท่งใหญ่ ส่อยกันไถส่อยกันฟูมฟัก
ข้าวออกรวงพร้อมกับความรัก มาเกี่ยวเอาฮัก อ้ายไปเก็บไว้..

เกี่ยวเอาสิ.. เกี่ยวเอาสิ.. เกี่ยวเอาสิเอาข้าว เกี่ยวเบาเบา.. เกี่ยวเบาเบา..เกี่ยวเอาข้าวไปขาย เกี่ยวลึกลึก.. เกี่ยวลึกลึก.. เกี่ยวให้ลึกถึงใจ เกี่ยวเอาไป.. เกี่ยวเอาไป.. มัดใจเฮารวมกัน

**เกี่ยว/เกี่ยว/เกี่ยว.. มาส่อยกันเกี่ยว/เกี่ยว/เกี่ยว..
มาส่อยกันเกี่ยว/เกี่ยว/เกี่ยว.. มาส่อยกันเฮ็ด
เฮ็ด/เฮ็ด/เฮ็ด.. มาส่อยกันเฮ็ด/เฮ็ด/เฮ็ด..
มาส่อยกันเฮ็ด/เฮ็ด/เฮ็ด..มาส่อยกันเกี่ยว

หลูโตนอ้ายแหน่ อยากให้หลูโตนอ้ายแหน่ คั่นพ่อกับแม่น้องบอกว่า มาส่อยเกี่ยวข้าว เสร็จจากปลูกนา เฮากะพากันปลูกฮัก คือสิดีคัก ได้ปลูกฮักนำกันกับเจ้า..
(ซ้ำ */**/***)

สะละล่า

เพลง ชวนน้องเฮ็ดนา (เวอร์ชั่นหยอด) Ost.มนต์รักหนองผักกะแยง

ศิลปิน เมลดา สุศรี, เต๋า ภูศิลป์, อนุสรา วันทองทักษ์, แดนนี่ ลูเซียโน่, นับตังค์ นันท์ณภัส
คำร้อง/ทำนอง บอย เขมราฐ
เรียบเรียง ไก่ กีตาร์

อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด เฮ็ดนาส่อยกัน
อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด เฮ็ดนาส่อยกัน
ไถนากับเธอ อยากสิไถนากับเธอ เฮ็ดนากับเธอ อยากให้เธอมาส่อยเฮ็ดนา
พ่อแม่เฮาพาเฮ็ดกันมาตั้งแต่ไหน เฮาคนรุ่นใหม่ เลยต้องไถ ต้องส่อยกันปลูก
คำโบราณชาวนาเพิ่นว่าไว้ ปลูกอันได๋สิได้อันนั้น ปลูกต้นฮัก บ่ได้ดั่งฝัน ถ้าบ่ขยัน หยอดน้ำหยอดปุ๋ย

หยอดถี่ๆ หยอดถี่ๆ หยอดทุกวี่ทุกวัน หยอดนานๆ หยอดนานๆ มันจังสิแตกใบ หยอดหน่ำๆ หยอดหน่ำๆ ใส่ปุ๋ย-น้ำลงไป ต้นน้อยๆ จังสิใหญ่ ใส่ใจก็ต้องหยอด

หยอด หยอด หยอด สักพัก.. ก็หยอด หยอด หยอด
สักพัก.. ลืมหยอดหยอด หยอด สักพัก.. เลยเฮ็ด
เฮ็ด เฮ็ด เฮ็ด สักพัก.. ก็เฮ็ด เฮ็ด เฮ็ด สักพัก.. ลืมเฮ็ดเฮ็ด เฮ็ด สักพัก.. เลยหยอด
อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด เฮ็ดนาส่อยกัน อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด เฮ็ดนาส่อยกัน

หลูโตนอ้ายแหน่ อยากให้หลูโตนอ้ายแหน่ คั่นพ่อกับแม่น้องบอกว่า มาส่อยเกี่ยวข้าว
เสร็จจากปลูกนา เฮากะพากันปลูกฮัก คือสิดีคัก ได้ปลูกฮักนำกันกับเจ้า..

คำโบราณชาวนาเพิ่นว่าไว้ ปลูกอันได๋สิได้อันนั้น
ปลูกต้นฮัก บ่ได้ดั่งฝัน ถ้าบ่ขยัน หยอดน้ำหยอดปุ๋ย

หยอดถี่ๆ หยอดถี่ๆ หยอดทุกวี่ทุกวัน
หยอดนานๆ หยอดนานๆ มันจังสิแตกใบ
หยอดหน่ำๆ หยอดหน่ำๆ ใส่ปุ๋ย-น้ำลงไป
ต้นน้อยๆ จังสิใหญ่ ใส่ใจก็ต้องหยอด

หยอด หยอด หยอด สักพัก.. ก็หยอด หยอด หยอด
สักพัก.. ลืมหยอดหยอด หยอด สักพัก.. เลยเฮ็ด
เฮ็ด เฮ็ด เฮ็ด สักพัก.. ก็เฮ็ด เฮ็ด เฮ็ด สักพัก.. ลืมเฮ็ดเฮ็ด เฮ็ด สักพัก.. เลยหยอด

อยากชวนน้องมาเฮ็ด อยากชวนน้องมาเฮ็ด
อยากชวนน้องมาเฮ็ด เฮ็ดนาส่อยกัน

สะละล่า