Share Button

บทสัมภาษณ์ บอย ชีวิน โกสิยพงษ์

สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วกับรายการจิกกะบาล Talk show สบายๆ สไตล์ จิกกะบาล แขกรับเชิญของเราวันนี้ อ้างจาก คำพูดของ คุณ เบน ชลาทิศ นักแต่งเพลงที่เก่งที่สุดในประเทศไทย บอย ชีวิน โกสิยพงษ์

พี จิกกะบาล : ชอบดนตรีตั้งแต่เมื่อไหร่
บอย โกสิยพงษ์ : มันค่อยๆมา แค่ชอบแต่งเพลง ก็ 10 ขวบต้นๆ แต่ไม่ได้คิดว่ารัก แต่งเพลงประกอบการ์ตูน หน้ากากเสือ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ได้เอาไปใช้ประกอบการ์ตูนจริงๆไหม
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่แต่งเองร้องให้เพื่อนฟัง
อ๊อฟ จิกกะบาล : เพราะไหม
บอย โกสิยพงษ์ : ก็ในความคิดว่ผม ก็ว่าใช้ได้ เพื่อนๆก็ร้องด้วยกัน อีกคนก็แต่งไอ้มดแดง แต่งกันเล่นๆ แล้วก็โตขึ้นก็แต่งเพลงกันมากขึ้น รวมกันเป็นวง รักตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ก็แต่งมาเรื่อยๆ
อ๊อฟ จิกกะบาล : 10 ขวบเราก้ทำอะไรกันอยู่นะ พี่เค้าแต่งเพลงแล้ว เรายังเล่นหมากเก็บ วิ่งไล่จับ
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่ผมก็ทำอะไรอย่างอื่นด้วยที่ไม่ได้เรื่องอ่ะ
พี จิกกะบาล : ตัดสินใจที่จะเรียนต่อด้าน การ์ตูนด้วย
บอย โกสิยพงษ์ : แต่มีอุบัติเหตุไม่สามารไปได้ ครอบครัวที่จะไปอยู่ด้วยที่ญี่ปุ่น ทางแม่ก็บอกว่าให้เลือกไปประเทศอื่นที่ใกล้ๆการ์ตูน ก้เลยเลือกที่จะเป็นศิลปะ ทำ graphic ก็ไปเรียนที่อังกฤษ โดยการติดต่อของภรรยาผม สมัยก่อนเป็นเพื่อนกัน ก็มาช่วยติดต่อ อยู่ๆก็รู้สึกว่า อังกฤษ มันทึมๆ มันต้องเหงาแน่ๆเลย ก็เลยไม่ไป ก็ทั้งๆที่จอที่เรียนไว้แล้ว มีคนไปด้วยแล้วด้วยอ่ะ สุดท้ายเค้าก็โทรกลับมาว่า เอ้ย ยังไง
สุดท้ายก็ไปเรียนที่อเมริกา พอดีมีพี่สาวอยู่ที่นั่น ก้บอกว่าที่นี่มีเรียนเรื่องเพลงนะ มีเกี่ยวกับบริหาร บริษัทเพลง แต่งเพลง เราก็สนใจอยู่
พี จิกกะบาล : แล้วตอนที่อยู่อเมริกานี่ ถึงขั้น ขายรถที่ใช้เลย ทำไม
บอย โกสิยพงษ์ : ตอนไปอยู่ 2-3 ปี แล้ว ใช้เงินเยอะมาก ไม่ทันยั้งคิดอะไรทั้งสิ้น คือ ผมเป็นคนชอบของเล่น แล้วที่โน้นจะมีของเล่นที่เราชอบๆ แล้วเค้าก็สั่งของที่เราชอบๆมา แล้วเราก็จะหมดไปกับของเล่นเยอะ แล้วก็ไม่ได้ยั้งคิด พอมารู้อีกที จากที่พี่ชายบอก ตอนนั้นคุณพ่อก็เริ่มร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ใกล้จะเกษียณ แล้วแม่ก็เป็นประเภทไม่บอกอะไรเลย ตอนหลังได้มีโอกาสได้คุยกับพี่ชาย พอรู้จำนวนก็ถึงกับอึ้ง เลยบอกพี่ชายว่า ส่งมาเเดือนละจำนวนนึง แล้วจะอยู่ให้ได้ แต่ตอนที่พูดก็ไม่ได้คิด ว่าจะอยู่รอดไหม ซึ่งมันทรมานมาก ผมใช้เดือนละ 2000 เหรียญ เหลือเป็น 800 เหรียญ ต่อเดือน พอดีช่วงนั้นเราคิดว่าอยากทำห้องอัดที่บ้าน ที่เมืองนอก ก็เลยขอตังมาเพิ่มอีกก้อน มันจะไม่ใช่ลูกผู้ชาย ก็เลยขายรถดีกว่า ตอนนั้นขับเบนซ์ เอาไปขายได้ตังทำห้องอัดเลย ซื้อรถใหม่ เป็น Honda can มันเล็กมากๆๆ เก่ามากๆ แม้แต่ seat belt มันไม่ work เลย ผมต้องคอยดึงมาแล้วทำให้มันแนบๆตัว เพื่อให้ตำรวจไม่จับ แต่จริงๆแล้วมันไม่ work แอร์ก็ไม่มี แต่มีความสุขมาก
พี จิกกะบาล : กลับมาที่เมืองไทยแล้วทำอะไร
บอย โกสิยพงษ์ : ทำเพลง เริ่มเป็นนักแต่งเพลงอิสระก่อน ก็อิสระอยู่ 2 อาทิตย์ แล้วก็ไปทำค่าย เบเกอรี่
พี จิกกะบาล : เคยฟังสัมภาษณ์คุณสุกี้ ว่าเจอพี่บอยครั้งแรก พี่มาร้องแรป
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่เหมือน ยิ่งสมัยก่อนยิ่งสุภาพมากกว่านี้อีก ร้องเพราะไม่มีคนร้อง ร้องเพราะเป้นคนแต่ง
อ๊อฟ จิกกะบาล : จำได้ไหมสักนิดนึง
บอย โกสิยพงษ์ : จำได้แต่มันไม่เอา
อ๊อฟ จิกกะบาล : ทำลงไปได้ยังไงวันนั้น
บอย โกสิยพงษ์ : ทำลงไปด้วยความคะนอง
อ๊อฟ จิกกะบาล : ฟังอีกรอบเป้นยังไงคะ
บอย โกสิยพงษ์ : รู้สึก จ๋อย
พี จิกกะบาล : อัลบั้ม rhythm & boyd ดังมาก รู้สึกเป็นยังไง
บอย โกสิยพงษ์ : รู้สึกดีใจมาก เพราะผมยืมตังค์ พ่อแม่ไปทำอัลบั้ม ดีใจที่ได้คืน
พี จิกกะบาล : ถนัดจากนั้นมี Simplify
บอย โกสิยพงษ์ : อารมณ์ใกล้ๆกัน แต่เป็นช่วงจะแต่งงานละ อย่าง rhythm & boyd เป็นช่วงวัยรุ่น อันนั้นอารมณ์จะ settle ละ
เป็น soul มากขึ้นนิดนึง
พี จิกกะบาล : ค่ายนี้ CD ราคาแพงกว่าปกติ
บอย โกสิยพงษ์ : อย่าเรียกว่าแพง ต้องเพรียกว่าราคาสูง ถ้าแพงแปลว่าไม่คุ้มค่า
พี จิกกะบาล : แล้วชอบออก single แบบ 2 เพลง แล้วยังเป็นเพลงเดียวกันคนละ version อีก
บอย โกสิยพงษ์ : แล้วซื้อไหมตกลง
พี จิกกะบาล : ไม่ได้ซื้อครับ
บอย โกสิยพงษ์ : แสดงว่าไม่รักจริง ผมไปละ

พี จิกกะบาล : ถนัดจากนั้นก็จะมี Million ways to love
บอย โกสิยพงษ์ : แต่ระหว่างทางก็จะมี single ซึ่ง single ก็จะไม่มีในอัลบั้มด้วย
พี จิกกะบาล : ก็ได้ข่าวมาอีกว่า ช่วงที่ทำ มันลำบาก
บอย โกสิยพงษ์ : ใช่ อยู่ในช่วงที่สถานการณ์ในชีวิต ทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีความสุข ช่วงที่ก่อนหน้านั้น แต่งเพลงทุกวัน เพื่อที่จะ supply ไปใน line การผลิต ซึ่งแต่งมากๆ ทำให้เรากลายเป็นมีแต่แผนที่ ไม่มีหัวใจ เหมือนกับว่า รู้สูตร และช่วงนั้นครอบครัวไม่สบาย ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่มี แค่แต่งก็กลายเป้นหุ่นยนต์แล้ว ที่บ้านก็ไม่สบายเป็นห่วงอีก ที่เคยชุ่มชื้นก็แห้งไปเลย ก็ช่วงนั้นรู้สึกว่าจะเลิกแล้ว ทำมามันไม่กินใจเหมือนที่เคย จนได้พบพระเจ้า ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ได้มาจากสติปัญญา มันมาจากสิ่งที่พระเจ้าจะประทานให้มา ไม่ประานให้ก็ไม่ได้ อย่าไปขาดหวัง ทำให้มันดีที่สุด ตอนเด็กๆนับถือพระเจ้า แล้วก็กลับมาพบพระเจ้าอีกครั้ง
อ๊อฟ จิกกะบาล : กำลังลุ้นว่า ถ้าแต่งเพลงตามอารมณ์ชีวิต ถ้าวันไหนเศร้ามากๆ ก็ไม่ได้ฟังเพลงแล้วดิ
บอย โกสิยพงษ์ : 7thscene ยังมีให้ฟังนะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : พูออย่างกับว่า พี่แต่งไม่ได้ 7thscene ก็แต่งได้
บอย โกสิยพงษ์ : ใช่ๆ
พี จิกกะบาล : package เท่ห์มาก
บอย โกสิยพงษ์ : ถ้าต่อได้ภายใน 10 วินาทีมารับรางวัลได้
อ๊อฟ จิกกะบาล : พี่บอยแต่งเพลงมากี่เพลงแล้ว
บอย โกสิยพงษ์ : เยอะเลย
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วจำได้ไหม มีแบบว่า บันทึกไว้ไหม
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่มีก็อาศัยซื้อหนังสือ ที่เค้ามีรวมไว้ แล้วก็นับเอา
อ๊อฟ จิกกะบาล : มีคนบอกว่าเป็นเจ้าพ่อเพลงรักรู้สึกยังไงบ้าง
บอย โกสิยพงษ์ : ดีใจ ยังไงชมดีกว่าด่าอยุ่แล้ว เราแต่งเพลงให้กำลังใจ เพลงอื่นๆ แต่คนจำได้ในแนวนี้มากกว่า
พี จิกกะบาล : หลังจากนั้นก็ยังมี Rhythm & Boyd 11 หลังจากนั้นมี Boyd pod
บอย โกสิยพงษ์ : ก่อนจากนั้นมี อัลบั้ม Kindly de light เป็นอัลบั้มบรรเลง รวมเพลงบรรเลง
พี จิกกะบาล : แล้วมาถึง บอย ป๊อด พูดถึงนิดนึง
บอย โกสิยพงษ์ : ด้วยคุณภาพ การร้อง การแสดงเสียงของป๊อดเค้าดีมากๆๆ ผลตอบรับดีใจมาก
พี จิกกะบาล : พูดถึงนักร้องที่พี่บอย เลือกเข้ามาเนี่ย แต่ละคนสุดยอดมากเลย เลือกยังไง
บอย โกสิยพงษ์ : คิดว่าทุกอย่างขีดไว้แล้ว
พี จิกกะบาล : เคยฟังจากพี่ บอย ตรัย ว่าเอาซีดี ไปยื่นที่เบเกอรี่ เสร็จแล้วก็กลับ สักไม่กี่ชั่วโมง พี่บอย ก็โทรไปหาบอกว่าชอบ อยากได้เพลง 1 เพลง ภายใน 2 ชั่วโมง ทำไมช่างเป็นบททดสอบที่
บอย โกสิยพงษ์ : มันถึงจะสนุก จะทำเพลงมันต้องพร้อม
พี จิกกะบาล : แล้วก็กลับมาพร้อมเพลง ความลับ
บอย โกสิยพงษ์ : เค้าเล่าให้ฟังว่าเค้านั่งแต่งหน้าร้านกาแฟที่บริษัท แต่วิธีการของเรากับนักแต่งเพลงที่ทำด้วยกัน เราทำอย่างนี้ เพราะว่ามันจะได้อารมรณ์จริงๆไม่มีการเสแสร้ง
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วพี่แต่งเร็วสุดกี่นาที
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่นาน อาจจะ 10-15 นาที
อ๊อฟ จิกกะบาล : อีกอย่างที่ต้องพูด ไม่พูดไม่ได้ คือ concert ktc loveis ประทับใจมากเพราะเห็นพี่บอย อยู่บนเวทีตลอดเวลา เราก็มี Clip Concert KTC Loveis ที่เขาใหญ่ให้ดูกันด้วย
บอย โกสิยพงษ์ : 7thscene สนับสนุนโดย 7thscene
อ๊อฟ จิกกะบาล : ทำไมพี่ถึงอดทนขนาดนั้น
บอย โกสิยพงษ์ : ง่วงมากครับ แต่คนที่มา ตั้งใจ แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ยิ่งเห็นแบบนั้นเราก็จะยิ่งต้องเต็มที่ ให้สุด ให้ทำอะไรก็ทำ


พี จิกกะบาล : วันนั้นน่าจะตะโกนขึ้นไปมากกว่านั้นอีก แค่เต้นมันยังน้อยไป ดูเต้นแล้ว น่าจะแสบมากๆ ดูเต้นเป็น
บอย โกสิยพงษ์ : พูดจริงเหรอ เดี๋ยวไปเอาดีทางเต้นละ
พี จิกกะบาล : แล้วการ์ตูนที่เคยรักละ
บอย โกสิยพงษ์ : ก็ทำหนังสือ แครช ทำกับพี่สมเกียรติ พี่สมเกียรติดูฝ่าย Fashion พี่ก็ดูการ์ตูน
พี จิกกะบาล : ที่มีผู้หญิงน่ารักๆ
บอย โกสิยพงษ์ : ใช่ หลังจากนั้นบริษัทก็พัฒนาขึ้น ตอนนี้ก็มาทำหนัง นาค animation
อ๊อฟ จิกกะบาล : นาค นี่คือ นางนาคไหม
บอย โกสิยพงษ์ : แค่คาเรคเตอร์นาค
อ๊อฟ จิกกะบาล : ไม่ใช่ พี่มาก จ๋า น่ากลัวไหม
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่ นาคเราสะบัดมือแล้ว มือ ปุ๊บๆๆๆ
อ๊อฟ จิกกะบาล : เหมือน ดาซิม street fighter
บอย โกสิยพงษ์ : ชื่อ บีบอย ซีจี
อ๊อฟ จิกกะบาล : ที่เราได้ยินเสียงอยู่ คือน้อง ใจดี เลยอยากถามว่า แอบได้ข่าวว่าเรียนดนตรีตั้งแต่อายุน้อยๆ แล้วน้องละ
บอย โกสิยพงษ์ : เค้ายังไม่เรียน แต่เค้าก็ตามพี่สาวเค้า พี่สาวเค้าเรียนเปียโน แต่ไม่ค่อยชอบ ก็เริ่มเรียนร้องเพลง แล้วเค้าจะคอยดูพี่สาวเค้าเรียนแล้วก็ร้องตาม แต่ไม่ได้บังคับลูก
อ๊อฟ จิกกะบาล : ตอนสมัยพี่โดนบังคับให้เรียนไหม
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่ผมไปของเรียน แม่ให้ครูมาสอนพี่ชาย พี่สาว ผมไปขอเรียน อยากเรียนเพลงหน้ากากเสือ แต่ครูเค้าสอนพวก classical อ่ะ
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้ววาดฝันให้น้องโตขึ้นเป็นนักแต่งเพลง ไหม
บอย โกสิยพงษ์ : ถ้าดีใจ หรือ ใจดี ไม่มีงานอื่นทำ ผม แนะนำแต่งเพลง เนี่ยมีความสุขที่สุด
อ๊อฟ จิกกะบาล : ใครร้องคะ
บอย โกสิยพงษ์ : น้องใจดี
อ๊อฟ จิกกะบาล : พี่ว่าเป็นพรสวรรค์ไหม หรือฝึกได้
บอย โกสิยพงษ์ : คิดว่าต้องฝึกให้พร้อม แล้วรอพระเจ้าให้พรสวรรค์มาแล้วก็จะทำได้
พี จิกกะบาล : พี่บอยไม่เปิดรับศิษย์บ้างเหรอ
บอย โกสิยพงษ์ : จริงๆผมมี workshop ประปลาย ปีนี้ยังไม่ได้ทำเลย ไม่ได้ทำมา 2 ปี แล้ว มันวุ่นมาก ก็อยากทำ รับสมัครผ่านทาง website ได้ไหม
พี จิกกะบาล : ได้ มีผมลงชื่อแล้วคนแรก
บอย โกสิยพงษ์ : รับอยู่ 3
อ๊อฟ จิกกะบาล : ได้ข่าวว่าไปช่วยช้างที่ ม.ช. มา แล้วที่เท่ห์คือของขวัญที่พี่บอยให้
บอย โกสิยพงษ์ : ไปมาเหรอ
พี จิกกะบาล : ไม่ใช่ครับ นี่ช้าง
บอย โกสิยพงษ์ : ที่ถูกช่วย
อ๊อฟ จิกกะบาล : พี่บอย แจกรางวัล ให้ดู concert loveis ตลอดชีวิต
บอย โกสิยพงษ์ : หรือจนกว่าเราจะเจ๊ง
อ๊อฟ จิกกะบาล : 2 ที่นั่งอ่ะ
พี จิกกะบาล : อยากได้ด้วย
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่มี
อ๊อฟ จิกกะบาล : พี่บอย คิดเอง ทีมงาน งง เป็นแถว แล้วพี่บอยก็จะบันทึกไว้ว่าเป็นใคร ก็เลย
บอย โกสิยพงษ์ : ถ่ายรูปไว้ แต่ถ่ายไม่ได้ เพราะว่า ถ่ายไม่เป็น มันเป็นวีดีโอแทน แต่ทีมงานถ่ายไว้เรียบร้อยแล้ว
พี จิกกะบาล : แล้วต้อง update รูปถ่ายทุก 6 ปีไหม
บอย โกสิยพงษ์ : ถ้าเค้ามาบ่อยๆ คงเจอหน้ากันแล้วจำกันได้
อ๊อฟ จิกกะบาล : นึกยังไงถึงแจก
บอย โกสิยพงษ์ : เพราะความน่ารักของแฟนเพลงเชียงใหม่ เค้าให้เกียรติพวกเรามาก เราก็รู้สึกอยากตอบแทนอ่ะ เมื่อมีโอกาสก็
อ๊อฟ จิกกะบาล : ตอนแรกแจ้งว่าไปไม่ได้
บอย โกสิยพงษ์ : เพราะว่าป่วย แต่ไปได้ก็อยากไป เราไม่ได้จัดกันเองด้วย น้องๆที่ ม.ช. จัดให้
อ๊อฟ จิกกะบาล : คุณสมบัติ ศิลปินที่ดี
พี จิกกะบาล : ศิลปินที่เข้ามาค่ายนี้แต่ละคน
บอย โกสิยพงษ์ : อ้วน ดูโน้น
พี จิกกะบาล : พี่บอย ตรัย
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้ว พี่ หนึ่ง ละ
บอย โกสิยพงษ์ : ก็เค้ามีอ้วนคนนึงแล้วถือว่าใช้ได้
พี จิกกะบาล : เบน ชลาทิศ พี่แชมป์ พี่ตู่
อ๊อฟ จิกกะบาล : รวมกันกับ พี่แชมป์ ไง 7thscene เลยนานเลยไง
บอย โกสิยพงษ์ : เป็นวงที่แปลกประหลาดเลยออกช้า หน้าตาดีเกินไป
พี จิกกะบาล : นอกจากอ้วนแล้วละ
บอย โกสิยพงษ์ : ร่างใหญ่ จริงๆ คือต้องคุยถูกคอกัน คุยกันรู้เรื่อง คือในท้องของพี่จะมีเครื่องมือวัดอย่างนึง คือ ท้องเราจะมวนเวลาฟังเค้าร้องเพลง นั่นแหละ ใช่
อ๊อฟ จิกกะบาล : เวลา เพี้ยนมากๆ ก็อาจจะมวนก็ได้นะ
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่ใช่ มันจะต้องมวน
พี จิกกะบาล : ส่วนมากก็ไปเก็บมาจากตามโบสถ์
บอย โกสิยพงษ์ : ก็มีหลายหลายที่มา
พี จิกกะบาล : ผมนับถือ เฮ่งเจีย
บอย โกสิยพงษ์ : จริงเหรอ
พี จิกกะบาล : กินแต่กล้วยอย่างเดียว
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่เคยเห็นคนไหว้ลิง
อ๊อฟ จิกกะบาล : มีคนที่เค้านับถือ พี่บอยเป็นอาจารย์ด้วย อย่าง ampm
บอย โกสิยพงษ์ : ผมก็ชื่นชอบเค้า 2 คน
อ๊อฟ จิกกะบาล : มีส่งลูกในค่ายไปช่วยร้องด้วย
บอย โกสิยพงษ์ : ใช่ ลูกคนนั้นยังพูดไทยไม่ค่อยได้ ส่งไปฝึกกับเค้าหน่อย เดี่ยวนี้เก่งขึ้นเยอะเลย หลังจากไปร้องกับ แมค ก็ขอบคุณมากแล้วก็ดีใจที่ให้เกียรติพี่ มีอะไรก็เหมือนเดิม โทรมา
พี จิกกะบาล : เคยได้ยินว่า หลังจาก บอย ป๊อด แล้ว จะมี บอย อย่างอื่นตามมา
บอย โกสิยพงษ์ : ใช่ ครับ ก็จะมี บอย นภ บอย บุรินทร์ เบน ก้ทำชุดเดี่ยวให้เค้า นักร้องที่ผมชอบๆเนี่ยจะทำไล่ไปเลย แล้วก็ทำ Million ways to love ภาค 2
พี จิกกะบาล : เคยได้ยินว่า มันต้องมี คู่กัน 2 อัน
บอย โกสิยพงษ์ : 3 อย่าง Rhythm & Boyd ก็มี 2 เป็น eleven อย่าง simplify ก็มี บอยกับ นภ เป็นภาค 2 แล้ว Million ways to love จะเป็นหลังจาก บอย บุรินทร์ แล้วก้จะไล่จนทุกอย่างมี 3 ทั้งหมด จะได้เหมือน star war
อ๊อฟ จิกกะบาล : loveis จะอยู่จนครัง ไตรภาค
บอย โกสิยพงษ์ : ขึ้นอยู่กับจะมีคนสนับสนุนอยุ่รึเปล่า
อ๊อฟ จิกกะบาล : แต่ความตั้งใจจะมีครบ 3
บอย โกสิยพงษ์ : เริ่มจาก อันนี้เลย

อ๊อฟ จิกกะบาล : ได้ข่าวว่า บอย ป๊อด จะมี คอนเสิร์ตด้วย พี่จะทำอะไรบ้างใน concertไหมคะ เพราะในอัลบั้ม พี่บอยยังไม่ได้ทำอะไรเลย
บอย โกสิยพงษ์ : แต่งยังไม่พออีกเหรอ ผมทำงานมาหนักแล้ว ผมหนักตอนต้นๆไง ป๊อดเค้าหนักตอนปลาย
อ๊อฟ จิกกะบาล : พี่บอยไม่คิดจะเต้นหน่อยเหรอ
บอย โกสิยพงษ์ : ต้องรอดู
อ๊อฟ จิกกะบาล : ต้องระวัง มันเร็วมากอย่างตอน KTC Loveis
บอย โกสิยพงษ์ : อย่าไปดูอีกเลย ภาพตอนนั้นเป้นการเต้นด้วยความเครียด
พี จิกกะบาล : อัลบั้มนี้จะมี คาราโอเกะด้วย ทั้งๆที่ปกติ ไม่ทำ
บอย โกสิยพงษ์ : ใช่
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วพี่จะเล่นด้วยไหม
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่บอก พี่ไม่กำกับ นั่งดูผู้กำกับอีกที
พี จิกกะบาล : นาค เนี่ย ผู้กำกับก็ไม่ธรรมดา
บอย โกสิยพงษ์ : 6 เทพ อสูรมังกรฟ้า นี่เค้าเพิ่งส่งมาให้เป็น presenter ของ Mitsubishi
พี จิกกะบาล : แอร์ ครับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : อ้า แล้วพี่บอยไม่คิดจะเอาน้องออกเทป ตอนเด็กๆก่อนเสียงแตกเหรอ
บอย โกสิยพงษ์ : ผู้หญิงมีเสียงแตกด้วยเหรอ
อ๊อฟ จิกกะบาล : เปลี่ยนนะพี่ แต่ตอนนี้เราไปฟังเพลงพร้อม ศิลปะจากพ่อลูกกัน
พี จิกกะบาล : อันนี้ พี่บอยวาด ถามน้องใจดีกว่าเอาอะไร ยีราฟ ได้ ยีราฟ เอา เสือ ได้ สิงโต
บอย โกสิยพงษ์ : เค้าบอกเอาสิงโต ด้วย
พี จิกกะบาล : ลายเซ็นต์
บอย โกสิยพงษ์ : จับมือพ่อเขียน
พี จิกกะบาล : ถ้าอยากได้ต้องทำไง
บอย โกสิยพงษ์ : ซื้อ 7thscene ครบ 10 แผ่น
อ๊อฟ จิกกะบาล : แล้วถ่ายรูปเรียงกัน ยืมเพื่อนมาต่อๆก็ได้ แล้วถ่ายรูปเรียงกันส่งมา
บอย โกสิยพงษ์ : ผมจะให้โล่เลย
อ๊อฟ จิกกะบาล : พี่บอย พูดแล้วนะ
บอย โกสิยพงษ์ : พูดเล่นๆ
อ๊อฟ จิกกะบาล : ส่ง comment เข้ามาที่ comment@jiggaban.com นะ เอาซีดี ของใครก็ได้ที่เป็นของจริงอ่ะ เรียงๆกัน แล้วถ่ายรูปส่งเข้ามาที่ comment@jiggaban.com นะ
บอย โกสิยพงษ์ : ที่หลังฝากวาด 7thscene ด้วยนะครับ

พี จิกกะบาล : มองวงการเพลงไทยเป็นยังไงบ้าง
บอย โกสิยพงษ์ : มองว่าเป้นช่วง transit กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ในรูปแบบใหม่
อ๊อฟ จิกกะบาล : ดีขึ้นหรือแย่ลง
บอย โกสิยพงษ์ : มองให้ดีก็ดี มองให้แย่ก็แย่ ถ้ามองว่าการเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีขึ้น ก็ดี
อ๊อฟ จิกกะบาล : คิดว่าจะไปในทางไหน
บอย โกสิยพงษ์ : คิดว่าเป็น digital คิดว่าการส่งผ่าน internet หรือ download ผ่านมือถือ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
พี จิกกะบาล : เรากำลังจะพูดถึงเพลง แสงหนึ่ง
บอย โกสิยพงษ์ : ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายการนี้นะครับ คำพูดไม่เหมาะสมทั้งนั้นเลย
พี จิกกะบาล : เพลง แสงหนึ่ง ซึ่งเป็นเพลงประกอบนิทัศการณ์เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา อยากให้พูดถึงเพลงนี้นิดนึงในฐานะเป็นคนแต่
บอย โกสิยพงษ์ : อยากจะพูดเรื่อง เพลงนี้เป็นพระดำริของ ท่านผู้หญิง ทัศนาวลัย ซึ่งเป็นพระธิดา ของ พระพี่นาง แต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อประกอบนิทัศการ แสงหนึ่งคือรุ้งงาม เริ่มเมื่อปีที่แล้วตอนเดือน พฤษภาคม เพื่อจะเล่าพระจริยวัตร และ พระกรณียกิจต่างๆ เป็นเพลงประกอบนิทัศการนั้น ก็ทราบซึ้งใจที่พระองค์ทำหลายสิ่งหลายอย่างถึงแม้ว่าเราจะมองไม่เห็น แต่ก็ทราบซึ้งใจ
อ๊อฟ จิกกะบาล : อัลบั้มนี้ พี่บอย เกี่ยวอะไรบ้าง
บอย โกสิยพงษ์ : ก็แต่งเพลงให้ กลับไปให้ได้ จับเวลา
อ๊อฟ จิกกะบาล : ตอนแรกเรากะจะถามว่า เมื่อไหร่จะได้ออก
บอย โกสิยพงษ์ : ก็ผมบอกแล้วว่า
พี จิกกะบาล : ไม่ให้ออก ไปเพิ่มน้ำหนักมาก่อน
บอย โกสิยพงษ์ : ครับ ก็จริงๆแล้วถ้าเจอ art เค้าก็ทำน้ำหนัก ขึ้นแล้ว
พี จิกกะบาล : ขอนิดนึงนะ
บอย โกสิยพงษ์ : ไม่ได้ ให้ผมแต่งเพลงใช่ไหม ไม่ได้
พี จิกกะบาล : เอ้ สอนก็ได้ แบบขอเป็น tip & trick
บอย โกสิยพงษ์ : แต่บ่อยๆครับ
อ๊อฟ จิกกะบาล : บ่อยๆไม่ได้จะแปลว่าดีหนิ
บอย โกสิยพงษ์ : มันจะดีขึ้นเอง เหมือนขับรถ อย่างน้อยตอนแรกก็จะตะกุกตะกั๊ก แล้วแผนที่ในสมองก็จะมีเยอะขึ้น ไม่ต้องทำให้มันเก่งมากก็ได้ แต่ทำบ่อยๆ จะดีขึ้นเอง
อ๊อฟ จิกกะบาล : ขอบคุณ พี่บอยมากเลย
บอย โกสิยพงษ์ : ยินดีครับผม เอ้ย เอานี่ ไป download ไหม แต่ผมทำไม่เป็นนะ
พี จิกกะบาล : งั้นรำลาก่อน
สวัสดีครับ
https://youtu.be/K5zW5CPOYQs

Facebook Comments
Share Button