จิกกะบาล ตอนที่ 50 – พอง พอง
วง พอง พอง
เปิดโชว์ด้วยเพลง เพื่อน เพลงประกอบละคร เรื่องเก้าอี้ขาวในห้องแดงแบบ Acoustic
บทสัมภาษณ์ พอง พอง
พี : พวกเค้ากลับมาแล้ว พอง พอง ครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการจิกกะบาล
ชัย พอง พอง : (จิกหัวตัวเองทันที)
พี : จิกเลยในทันทีนะคับ
อ๊อฟ : เป็นเพลงที่ชอบมากเลยนะ
ชัย พอง พอง : สมัย? วัยรุ่น?
ชัย พอง พอง : เด็กๆ ตอนนั้นเด็กๆ
อ๊อฟ : จำได้ว่าเด็กมาก พยามนึกอยู่ว่ากี่ปีแล้วนึกเท่าไหร่ ก็นึกไม่ออก
อ๊อฟ : พยายามท่องเนื้ออยู่ นึกไม่ออกจำได้ว่าไป search มาเมื่อวาน มันบอกว่า “แต่ความจริงแล้วข้างใน” แต่พี่ร้องว่า “แต่ความจริงแล้วในใจ”
ชัย พอง พอง : คือว่าจะร้องสลับกันอยู่สองอันเนี่ยคับ เพราะว่าตัวพี่เองก็ไม่แน่ใจ บางทีร้อง “ในใจ” แล้วก็จะรู้สึกว่า เอ๊ะ มัน “ข้างใน” บางทีร้อง “ข้างใน” ก็จะรู้สึกว่า เอ๊ะ มัน “ในใจ”
อ๊อฟ : แล้วใครเป็นคนเขียนเนื้อร้อง
ชัย พอง พอง : มือเบสคับ คือตอนนี้ วงเหลืออยู่ 3 คน
พี : งั้นแนะนำตัวก่อนเลยดีกว่า ใครเล่นอะไรบ้าง
เค พอง พอง : เค เล่นกีต้าร์ ครับ
พี : เห็นแล้วคับว่าเล่น
อ๊อฟ : แล้วจะถามทำไม
ชัย พอง พอง : เป็นยังงี้นี่เอง รายการนี้ ชัยคับเล่นไมค์
หวาน พอง พอง : หวาน ตีกลองครับ
พี : แล้วพี่มือเบสหายไปไหนแล้วครับ
หวาน พอง พอง : ก็ช่วงนี้เค้า ภารกิจทางด้านเบื้องหลังเค้าเยอะ เค้าเยอะมานานแล้วเค้าก็เลยแบบ ไม่มีเวลา
ชัย พอง พอง : ถ้านับจากอัลบั้ม พอง พอง ที่มีหน้าใส ใส เนี่ย 11 ปี แต่จริงๆแล้วเนี่ย มันก็จะมีผลงานต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ที่ทำด้วยกันบ้าง เป็นโปรเจคที่ชื่อว่า soundsurf บ้างอะไรยังงี้คับ
อ๊อฟ : ยังงี๊พี่ก็แบบไม่เคยโดนเลยสิ CD เถื่อน mp3 อะไรยังงี๊ (เพราะมันตั้งแต่เมื่อ 11 ปีก่อน)
ชัย พอง พอง : ไม่โดนเลยครับ หลังเป็นรูหมดแล้ว โดนหมดแหละคับ
อ๊อฟ : ยังมีคนเอาชุดนั้นกลับมาทำ mp3?
ชัย พอง พอง : อุ้ย ตอนนี้นี่มี “พอง พอง 4 อัลบั้ม ดาวโหลด ได้แล้ว” ไม่รู้มันไปหามาจากไหนถึง 4 อัลบั้ม เห็นแล้วยัง น่าโหลดจังเลย แต่ไม่เอา เราต้องไม่สนับสนุนพวกนี้
ชัย พอง พอง : อัลบั้มแรกชื่ออัลบั้ม ว่า พอง พอง นะคับ ชื่อเดียวกับวง แล้วก็จะมีอัลบั้ม เก้าอี้ขาวในห้องแดง ที่มีเพลง เพื่อน แล้วก็จะมี อัลบั้มรวม อารมณ์นี้มีความรัก ก็จะเป็นพวกเราแต่งตัวใสๆ เด็กแนว ขาวกัน วิ่งกันริมทะเล
พี : ชุดนั้นเพลงอะไร
ชัย พอง พอง : ตอบเธอ รักในซีเมเจอร์คับ ก็จะเป็น Acoustic คับ สบายๆ ก็นั่นล่ะคับ 3 อัลบั้ม เค้าก็คงรวมล่าสุดไปด้วยแล้ว มันเอาจากไหนไม่รู้มารวมปุ๊บ แต่ต่อจากผมนี่เจ็บช้ำกว่า “ชรัส ทั้งชีวิต”
ทุกคนหัวเราะ
อ๊อฟ : เราจะย้อนไปนานเกินไปมั้ย ถ้าจะถามว่าพวกพี่รู้จักกันได้ยังไง ยังจำกันได้มั้ย
ชัย พอง พอง : เป็นความทรงจำที่แจ่มชัดอยู่ตลอดเวลาคับ
อ๊อฟ : มันเป็นเรื่องดีมาก หรือมันเป็นเรื่องผิดพลาดสุดๆคะพี่ ทำไมมันแจ่มชัดขนาดนั้น
ชัย พอง พอง : อะไรที่มันชัดเนี่ย แสดงว่ามันต้องแหลมขึ้นมา
ชัย พอง พอง : ก็เรารวมกันได้เพราะว่าเราเรียนอยู่ที่เดียวกันคับ คือ หอการค้า แล้วก็เราก็ไปอยุ่ในชมรม ดนตรี คราวนั้นก็มีประกวดโค้กมิวสิคอวอร์ด อยู่เลยครับ แล้วก็จะมีรุ่นพี่จากชมรมดนตรีเนี่ย หลายๆ วงที่ประสบความสำเร็จจากการประกวด แล้วได้ออกเทปกันไม่ว่าจะเป็น
หวาน พอง พอง : smile buffalo
เค พอง พอง : blackhead
ชัย พอง พอง : พวกเราก็เลยไปรวมกันแล้วก็ คิดจะทำงานด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นเนี่ย เค กับ หวาน มือเบสพี่เอ๊ะ เค้ารู้จักกัน ด้วยการเล่นกันอยู่แล้ว ผมก็เข้าไปทีหลัง
อ๊อฟ : แล้วพี่ไปรู้จักเค้าได้ยังไงล่ะคะ
ชัย พอง พอง : ก็ผมแระกวดร้องแบบร้องคนเดียวอะคับ แล้วก็เลยรู้สึกว่าสนุกดี เลยไปฝากชื่อไว้ที่ชมรมดนตรีสากลว่า ถ้าใครอยากจะรวมวงอะไรยังงี้ ผมอยากจะร้องเพลง แล้วก็ไปเจอเค เค้าโทรมาชวน ว่าทำวงกันมั้ย ตอนนั้นเค้าก็บรรยายหลายอย่าง น่าสนใจมาก
อ๊อฟ : เช่น สาวตรึม
ชัย พอง พอง : ประเด็นนั้นถ้ามีมาเร็วกว่านี้อีก
ชัย พอง พอง : เค้าบอกว่าตอนนั้นเค้าแบบ ทำวงนะคับ มีเพลงแล้ว เสนอ music x ซึ่งมีพี่ อู๋ ธรรพ์ณธร เค้าบอกเค้าเล่น backup อยู่ให้พี่อู๋ แล้วก็ทางค่ายเนี่ยก็ร็จักกัน แล้วเราทำเนี่ยเราจะไปเสนอค่ายนี้ ตอนนั้นเราก็เห็นว่า music x เป็นค่ายที่คุณภาพมาก เพราะว่า อย่างมีพี่อู๋ออกมาเนี่ย ก็ดีทุกเพลงแล้วก็เป็นอัลบั้มร๊อคที่ดีมาก ก็เลยรู้สึกว่า เออ เราอยากจะทำกัน ก็เริ่มแจมกันในห้องซ้อม อะ หวานเล่าบรรยากาศการแจม
หวาน พอง พอง : ถ้าพูดถึงเรื่องการแจมก็โดยยุคแรกเริ่มก็คือ ก่อนที่จะเริ่มสร้างงานเนี่ย เราก็ บางทีก็มีผมคนเดียว ตีกลอง สักพักนึงก็มีเพื่อนๆมา คือชมรมเนี่ยจะเปิดทั้งวัน
ชัย พอง พอง : ค่าไฟที่หอการค้ามันแพงเพราะไอ้ชมรมเนี่ยแหละ
หวาน พอง พอง : แล้วก็ใครมา อยากเล่นอะไรก็จะจอยกันตลอดทั้งวัน
พี : เอ๊ะ แล้วไม่ต้องไปเรียนบ้างเหรอคับ
หวาน พอง พอง : ไม่ไปคับ
ทุกคนหัวเราะ
หวาน พอง พอง : แล้วก็หลังจากนั้นคือเรื่องช่วงที่แบบเริ่มสร้างงานกันแล้วเนี่ย พี่เอ๊ะ หรือว่า เค ก็จะแบบ เป็นคอร์ดแล้วก็เมโลดี้มา แล้วก็เราก็จะมาแจมกันว่า คอร์ด เมโลดี้ แบบเนี้ย rhythm ควรจะเป็นยังไง แล้วก็จอยกันไปเรื่อยๆจนแบบ…
ชัย พอง พอง : เอ๊ะ ช่วงนั้น มรึงตีได้ rhythm เดียวไม่ใช่เหรอ
ทุกคนหัวเราะ ยกเว้นพี่หวาน
หวาน พอง พอง : พอมันถึงขั้นสุดท้ายก็คือแบบว่า ทั้งหมดโอเคมันได้แล้ว มันไม่มีอะไรจะเพิ่มแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องเอาออก แล้วก็เอาอันนั้นแหละ อัดลงเทป
ชัย พอง พอง : เป็นเทคโนโลยีที่ดีมาก คือ ซาวเบาท์ อันนึง ให้คนที่มีความรู้ที่สุดกรอมาให้จบ
พี : ต้องมีความรู้ด้วยเหรอ
ชัย พอง พอง : คือ รู้ ว่าเทปที่เราเอามาเนี่ย อยากฟังเพลงไหน ไอ้เพลงไม่อยากฟังเนี่ย ทับมันไปเลย อัดเสร็จ เป็นไงวะ (ทำท่าเอาหูแนบซาวเบาท์) แบบว่ามามุงๆ กัน
พี : ทำไมไม่ใช้อันที่มันมีหูฟังล่ะคับ
ชัย พอง พอง : มันฟังได้คนเดียว
พี : อ๋อ ต้องมาฟังด้วยกัน
ชัย พอง พอง : ตอนนั้นรู้สึกจะของ เค ใช่มั้ย
เค พอง พอง : หลายเครื่องแล้ว
หวาน พอง พอง : ยุคนั้นก็เป็นยุคสุดท้ายของ cassette tape ที่เค้าทำเดโมกัน เพราะว่าคงไม่มีใครทำยังงั้นกันอีกแล้ว มีวงเราเนี่ยแหละ เป็นยุคของยุคนั้นจริงๆ
ชัย พอง พอง : หลังจากนั้นที่เราเจอกันครบทุกคนแล้วเนี่ย เรามีเพลงแล้ว เราเรียบเรียงกันเสร็จใส่ซาวเบาท์ไปเนี่ย ก็โบกแทกซี่กัน ไปค่าย music x เพื่อที่จะเอาไปให้ ไปเจอตัวพี่ไก่ วันนั้นให้หวานเข้าไป แล้วทุกคนก็คือลุ้นกัน อยู่แถวหน้ามหาลัย
อ๊อฟ : แล้วไม่ไปด้วยล่ะคะ
ชัย พอง พอง : ไม่ไปคับ
อ๊อฟ : แท็กซี่นั่งได้ตั้งหลายคน
ชัย พอง พอง : ตอนนั้นหวานมีความสามารถในการจ่ายค่าแท็กซี่
เค พอง พอง : เป็นวันเกิดพี่เค้าคับ
อ๊อฟ : เป็นวันเกิดพี่หวานพอดี
หวาน พอง พอง : มันบังเอิญไปตกวันนั้นพอดี
อ๊อฟ : นึกว่าจะแบบพี่คับ วันนี้วันเกิดผม ผมอยากได้ของขวัญ
ชัย พอง พอง : ผมคิดว่าไม่มีใครจะปฏิเสธผม
ทุกคนหัวเราะ
ชัย พอง พอง : อ้ะ เอาไปเสนอคับ
หวาน พอง พอง : วันนั้นไม่ได้เจอพี่ไก่ แต่ว่าเจอกับพี่น้อย
พี : พี่น้อยวงพรู?
หวาน พอง พอง : ไม่ใช่
ชัย พอง พอง : ถ้าผมเล่นก่อนนี่ตายเลยนะเนี่ย
หวาน พอง พอง : คือวันนั้น เจอป้าน้อย แล้วก็คือ นั่งฟังกัน นั่งคุยกัน แล้วก็พี่น้อยเอาไปให้พี่ไก่ฟัง หลังจากนั้นเราก็เข้าไปหาพี่น้อยที่บ้านอีกที ก็โทรศัพท์คุย แล้วพี่ไก่เค้าโอเค
อ๊อฟ : เค้าชอบเลย เพลงนั้นเลยปะคะ
หวาน พอง พอง : ทั้งหมดเลย ไม่ใช่เพลงเดียว
ทุกคนหัวเราะ
อ๊อฟ : ไร้ที่ติยังงั้นเลยนะ พี่เค้าฟังทั้งหมดเลยเหรอคะ
ชัย พอง พอง : ทั้งหมดเลยคับ ละเอียดด้วยคับ แล้วก็ที่ติเพียบด้วยคับ
อ๊อฟ : เพลงนั้นได้อยู่ในอัลบั้มมั้ยพี่
เค พอง พอง : ได้อยู่คับ แล้วก็มาทำเพิ่มกันอีกโดยการที่ ไปเช่าหอพักร่วมกัน สนุกตอนนี้แหละ
อ๊อฟ : จะทำเพลงด้วยกันนี่ ต้องเช่าหอพักร่วมกัน
เค พอง พอง : เป็นอย่างแรกเลยคับที่ต้องทำ ต้องเรียนรู้ซ฿งกันและกันให้ดียิ่งขึ้น
พี : ซื้อสบู่เยอะๆ
ชัย พอง พอง : โยนกันให้ทั่วเลย นกแก้วนี่ละลาย ย๊าก ยาก
ทุกคนหัวเราะ
ชัย พอง พอง : ก็ไปเช่าหออยู่ด้วยกันคับ เพื่อที่จะ ทำงานด้วยกันแบบเจอหน้ากัน 24 ชม. ประมาณว่านอนเขียนอยู่ แล้วก็โยนให้เพื่อนเขียนต่ออะ เขียนไม่ได้แล้ว แล้วก็นอน
หวาน พอง พอง : ตอนนั้นก็คือแบบไม่มีวันหยุด ทำกันเรื่อยๆ แล้วก็ใครไม่ไหวก็นอนไป
อ๊อฟ : แล้วไปเรียนมั้ยคะ
ชัย พอง พอง : ก็คือเรียนคับ เรียนเสร็จแล้วก็กลับมากัน ส่วนใหญ่ก็จะเรียนกันแบบ
หวาน พอง พอง : ใครใคร่เรียนเรียน
ชัย พอง พอง : ใครใคร่นอน นอน แต่ต้องเกิดงานขึ้นมา
อ๊อฟ : งานเนี่ยที่ 1
ชัย พอง พอง : ตอนนั้นเป็นหนักถึงขั้นดรอปเรียนกัน เพื่อที่จะไปทัวร์คอนเสิร์ต
ชัย พอง พอง : ตอนนั้นคือเพื่อที่จะได้คุยกันทุกว่าว่า เฮ้ย อันนี้เป็นอย่างนี้ แล้วหวาน เค้าก็จะมีหลายๆเพลง หลายๆแนวมาให้เราฟัง แล้วก็มีวิทยุของเค ก็จังหวะอย่างนี้มันก็สนุกดี อะไรยังงี้ก็ฟังหลายๆอย่าง
พี : แล้วก๊ก๊อป
ชัย พอง พอง : ก๊อปๆๆๆ ก๊อปแมร่งเลย (ทำท่าตีกอล์ฟ)
ทุกคนหัวเราะ
ชัย พอง พอง : ไม่ใช่คับ ไม่ใช่
ชัย พอง พอง : หลังจากนั้นก็มีอัลบั้มออกมา
อ๊อฟ : หลังจากที่เช่าอยู่ด้วยกัน ได้เสียกันเรียบร้อย
พี : แล้ววิทยุตัวนั้นมันยังอยู่มั้ยอะ มันน่าจะเป็นอุปกรณ์ประวัติศาสตร์ไปแล้ว
ชัย พอง พอง : ยังอยู่มั้ย?
เค พอง พอง : พังแล้ว
พี : ทำไมทุกอย่างเป็นของพี่เค หมดเลย ซาวเบาท์ วิทยุ
ชัย พอง พอง : เพราะว่าเคเนี่ยอยู่หอมาก่อน แล้วเคมีวสดุ อุปกรณ์ในการอยู่หอ
อ๊อฟ : แล้ว รูมเมทพี่เคละคะ หรืออยู่คนเดียว
เค พอง พอง : ตอนนั้นมีเพื่อนอยู่คนนึงก็เลยลาเพื่อนมาอยู่กับพวกนี้ เพื่อนก็น้อยใจกันไปพักนึง
อ๊อฟ : เช่าหออยู่ด้วยกันเพื่อทำดนตรี ที่บ้านไม่ว่าอะไรมั่งเหรอ
ชัย พอง พอง : ที่บ้านผมไม่ว่าอะไรนะ
หวาน พอง พอง : ถ้าว่าก็คงไม่ได้ทำ
ชัย พอง พอง : ที่บ้านก็แล้วแต่เราตัดสินใจ แต่จริงๆแล้วคือไม่รู้
พี : อะไรที่ที่บ้านไม่รู้มันก็ไม่ผิด
ชัย พอง พอง : คือเราดูด้วยตัวเองว่ามันเหมาะสมมั้ย
เค พอง พอง : ตอนนั้นผมปิดข่าวก่อน
ชัย พอง พอง : ถ้าตอนนั้นมี gossip กันพวกเราตาย
ชัย พอง พอง : อยู่ไปได้สัปดาห์เดียวโดนเตือนแล้ว
หวาน พอง พอง : ผมว่าไม่น่าจะถึงนะ
ชัย พอง พอง : ห้องข้างๆเพื่อนกันหมด ก็ไม่ได้ว่าอะไร
ชัย พอง พอง : ชั้นอื่นเค้ามาเตือนว่าเสียงดังเกินไปนะ อย่าร้องกันดังนัก
พี : ตอนที่เรียนหอการค้าเรียนอะไรกันคับ
หวาน พอง พอง : ผมเรียนบัญชี
ชัย พอง พอง : ผมเรียนการตลาด
เค พอง พอง : มนุษยศาสตร์ ไม่เกี่ยวเลย
พี : ไม่ได้ไปเรียนแล้วจำได้ด้วยเหรอคับ
หวาน พอง พอง : ที่บัตรนักศึกษามันจะมีคณะระบุอยู่
หวาน พอง พอง : คือทุกวันก่อนเข้ามหาลัย เราก็จะดู อ๋อ เราเรียนคณะบัญชี
ทุกคนหัวเราะ
พี : ชื่อวงชื่อแรกมีมั้ย
ชัย พอง พอง : ตอนแรกเรารวมกันก็มีชื่อในใจ อยู่ไม่กี่ชื่อ พอง พอง ก็เป็นชื่อนึงที่ชอบ มีอะไรอีกนะ
เค พอง พอง : ซีฟู๊ด
ชัย พอง พอง : จำได้ไงวะ
ทุกคนหัวเราะ
พี : มีที่มามั้ยคับ
เค พอง พอง : คิดไปเรื่อยๆก่อนน่ะคับ แล้วค่อยมาระดมว่าใครชอบอะไร แล้วก็ตัดให้มันน้อยลงๆ
พี : แต่ไม่ได้มีที่มาแบบเป็นตำนาน
หวาน พอง พอง : คงไม่เว่อร์ขนาดนั้นคับ
ทุกคนหัวเราะ
ชัย พอง พอง : ในความหมายก็คือ เป็นอัลบั้มแรกของเรา และมันเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจ มันก็ทำให้เราเหมือนปลานีโม่ หัวใจพองโต คือ ความหมายนี่คือเกี่ยวกับความภูมิใจ การดีใจในงาน ก็เลยเป็นพอง พอง
ชัย พอง พอง : แต่อยู่ไปอยู่มาเนี่ย สภาพตัวมันพองเอง
อ๊อฟ : อัลบั้มประสบความสำเร็จขนาดนั้นทำไมไม่ออกมาเรื่อยๆ ไปทำอะไรมา
หวาน พอง พอง : จุดนึงคือเราไม่ได้ บ้าเห่อเหมือนวงอื่นๆ
อ๊อฟ : เว้
ทุกคนหัวเราะ
ชัย พอง พอง : จริงๆ วงเราเหลือสองคนนะคับ (ชี้ไปที่พี่เค)
หวาน พอง พอง : ตั้งแต่ออกช่วงนั้นไปแล้วเราก็มีช่วงนึงที่ ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะมีความรู้สึกรึปล่าว คือว่าแบบ เบื่อที่จะต้องไปเล่นทุกวัน เพราะว่าทุกวัน มันทำงานทุกวันแล้วก็ไม่มีเวลา
หวาน พอง พอง : เราขาดความเป็นตัวของตัวเอง เราก็เลยพอดีกว่า ไม่ใช่ ประมาณอย่างนั้น แต่ไม่ถึงขนาดนั้น
พี : คือเหมือนมีความรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปรึปล่าว อะไรยังงี้ แล้วเพื่อนๆล่ะคับ รู้สึกบ้างมั้ย
ชัย พอง พอง : ตอนนั้นคือ เหมือนกับว่า อาจจะอยู่ในช่วงของเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก แล้วก็หลังๆออกมาเนี่ยก็ อาจจะทำยอดได้ไม่เท่ากับอัลบั้มแรก มันก็จะมีเรื่องของพวกนี้เข้ามาด้วยคับ แล้วก็ค่าย music x ก็ใช้เงินลงทุนไปกับรายการโทรทัศน์เยอะ ก็เลยจำเป็นต้องปิดค่ายไป
อ๊อฟ : คือหลายๆอย่างผสมลงกัน
ชัย พอง พอง : ในปี 40 อะไรนะ เศรษฐกิจมันเป็นฟองสบู่นกแก้วแตก
เค พอง พอง : ก็คล้ายๆ กับเพื่อนน่ะคับ คือเกิดอาการที่ เออ เราควรจะใช้ชีวิตวัยรุ่นกันบ้าง ออกไปหาประสบการณ์กันไปก่อน
อ๊อฟ : ไปทำอะไรกันมาบ้างล่ะคะ
เค พอง พอง : เตะบอล
ทุกคนหัวเราะ
เค พอง พอง : ว่ายน้ำ
ชัย พอง พอง : หมากรุก
เค พอง พอง : เล่นวินนิ่งนี่แหละ เอาเวลาเราไปเยอะมาก
หวาน พอง พอง : ไปจอยกับนักดนตรีคนอื่น อะไรพวกเนี้ย ซึ่งแบบ
ชัย พอง พอง : คือหวานเค้าจะคิดว่า ณ วันนั้นเราก็เล่นอยู่ เพลงเท่านั้นน่ะ ในคอนเสิร์ตนึง 40 กว่า 50 นาที มันก็เล่นอยู่แค่นั้น เราก็ ทุกคนก็ต่างเริ่มแบบ เฮ้ย ก็มีอยู่แค่นี้ เอ่อ หน้าเวทีก็ สนุกกันแหลก แต่พอกลับมาถึง เอ๊ะ เราได้อะไรจากตรงนี้บ้าง นอกจากเงิน
หวาน พอง พอง : คือทุกคอนเสิร์ตก็คือสนุก แฮปปี้ แล้วก็เป็นคอนเสิร์ตที่ดี ทุกๆครั้งที่ได้เล่น แต่ว่า อีกจุดนึงเราก็ต้องคิดว่า เออ ในอนาคตข้างหน้า ที่เราอยู่ถนนสายนี้ เราจะมีอยู่แค่นี้เหรอ ก็เลยหยุดแล้วก็ไปจอยกับคนอื่น หาประสบการณ์
อ๊อฟ : จริงๆแล้ว ประเด็นคืออยากเล่นเพลงคนอื่นบ้าง เล่นเพลงตัวเองอย่างเดียวเบื่อแล้ว
หวาน พอง พอง : ผมเล่นเพลงคนอื่นผมก็ไม่ได้เล่นเหมือนแผ่นนะ ผมมั่วอย่างเดียวเลย
พี : ทีนี้ก็มาถึงเวลาแล้วที่เค้ามาออกอัลบั้มกันอีก
หวาน พอง พอง : ก็หลังจากที่มั่วมาเยอะแล้วนะคับ
พี : อยากเล่นอะไรที่มันไม่มั่วบ้าง
ชัย พอง พอง : อยากมีอะไรที่มันเป็นเรื่องเป็นราวบ้าง
หวาน พอง พอง : หลังจากไปยำเพลงคนอื่นมาเยอะแล้ว เราก็อยากมายำเพลงตัวเองบ้าง
พี : เพราะว่าพอมาเป็นเพลงตัวเองเนี่ย จะตีมั่วยังไงก็เพลงกรู มีผิดที่ไหน
ชัย พอง พอง : อ้า ยังงี๊แสดงว่ารู้จริง
ทุกคนหัวเราะ
หวาน พอง พอง : นี่ เหมือนเคยทำเลยรึปล่าวเนี่ย (ชี้ไปที่พี)
อ๊อฟ : แล้วช่วงเวลาพอดีเลยเหรอคะ ใครเป็นคนเอ่ยปากก่อน แบบว่า
พี : เรากลับมาคืนดีกันนะ
หวาน พอง พอง : จริงๆแล้วมันก็คือ พวกเราก็ยังอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันถึงเวลาที่มันเสร็จสมบูรณ์ ถ้ามันยังไม่เสร็จสมบูรณ์เราก็ยังไม่ออก
พี : คือ เหมือนว่าทำมาเรื่อยๆ คือไม่ได้หายไปไหน ทำเพลงกันตลอด
หวาน พอง พอง : ใช่ คือยังรวมตัวกันทำอยู่ เหมือนกับว่า ขี้เกียจบ้างแบบ เฮ้ย ยังไม่อยากออก ไม่รีบ ไม่เร่ง ไม่เป็นไร
หวาน พอง พอง : แต่ว่าจุดนึงก็คือแบบ เราก็ทนไม่ได้ที่แบบผ่านมาระยะเวลานานแล้ว แฟนเพลงก็ยังฟังเพลงเดิมๆอยู่ ก็เลยต้องเอาซะหน่อย
อ๊อฟ : แล้วพี่รู้ได้ไงว่าเค้ายังฟังเพลงพี่อยู่ล่ะคะ
หวาน พอง พอง : ก็ที่บ้านผมมีวิทยุ ผมได้ยินเพลงผมในวิทยุ
อ๊อฟ : เวอร์ชั่นของพี่ เบน ชลาทิศ รึปล่าว
หวาน พอง พอง : ไม่ใช่คับ ผมได้ยินในเวอร์ชั่นที่เป็นของพอง พอง ก่อนที่เบน เค้าจะเอาไปร้อง
อ๊อฟ : เห็นมะ เค้าเรียกว่าดังมาจนถึงขั้นว่า คนอื่นเอาไปทำใหม่ รู้สึกยังไงบ้าง
ชัย พอง พอง : ทำดีจังเลย เพร๊าะ เพราะ
อ๊อฟ : ทำไมเราไม่คิดได้ยังงี๊
ทุกคนหัวเราะ
ชัย พอง พอง : รู้สึกดีใจครับ ที่ถูกเลือกไปร้อง ไปทำใหม่ มีพี่หนุ่มด้วยครับ เคยได้ยินมั้ย พี่หนุ่มเนี่ยเค้ากันผมตลอดเลย
พี : อ้อ พี่หนุ่ม กรรชัย
ชัย พอง พอง : อ้า พูดถูก มาร้องเพลงของผมอีกหน้าใสๆ ก็ดีครับ
พี : be my guest
ชัย พอง พอง : ก็ดีคับเหมาะสมกับพี่หนุ่มดี ดีในแบบของเค้า
อ๊อฟ : เค้าหน้าใสนี่
พี : หน้าใสซี่ ไม่งั้นเค้าจะมี
ชัย พอง พอง : อ้า (ทำท่าขับรถ เปิดประตู ยื้อยุด)
อ๊อฟ : นี่ลูกอิจฉานะคะ ลูกประมาณว่า เอ๊ะ เพื่อนก็น่ารักนะ อะไรยังงี๊
พี : มาถึงอัลบั้มนี้แล้ว
ชัย พอง พอง : ให้ความรักครับ
พี : ชื่อหวานแบบนี้ เพลงเป็นยังไงบ้างคับ
ชัย พอง พอง : หวานแน่นอน
พี : ทุกเพลงเลย จะเป็นเพลงเกี่ยวกับความรักทั้งหมด?
ชัย พอง พอง : ไม่ครับ
อ๊อฟ : แล้วแนวเพลงเหมือนกับอัลบั้มก่อนๆ มั้ยคะ
เค พอง พอง : ต่างเยอะทีเดียวคับ เพราะว่าอัลบั้มแรกๆของเราจะเน้นไปทาง acoustic ซะเยอะ แล้วก็ทำให้พวกเรารู้สึกว่า อาจจะดูมองว่าเป็นวงแบบ acoustic บางเพลงอาจจะดูเป็นบอยแบนด์ด้วยซ้ำ ไปเดินกันชายหาด ถือ ไมค์คนละอัน
ชัย พอง พอง : เคยมีคนสงสัยว่า เล่นกันได้จริงรึปล่าว อะไรยังงี๊
เค พอง พอง : เลยพยายามพัฒนาแนวดนตรีให้ดูเข้มข้นขึ้นในทุกๆเครื่อง
พี : ใครทำอะไรกันบ้างครับ แบบเนื้อร้องที่เคยมีคนทำ คราวนี้กลายเป็นใครล่ะครับ
ชัย พอง พอง : ช่วยกันครับ
เค พอง พอง : หนักไปทางนักร้องเลยครับ ชัยเขียน 80 90 เปอร์เซ็นต์
หวาน พอง พอง : คือ จริงๆแล้ว งานเราตั้งแต่อัลบั้มแรก ทุกคนทำกันเองอยู่แล้ว แต่ว่ามี produce เป็น head ให้เราอีกทีนึง
อ๊อฟ : แล้วตอนนี้ก็ทำเองหมดเลย produceเองด้วย?
ชัย พอง พอง : ใช่ครับ มีตำแหน่งอะไรเยอะแยะกันไปหมดเลยครับ เติมตำแหน่งกันสนุกสนาน แต่ก็มีอยู่สามคน
อ๊อฟ : หวังกับอัลบั้มนี้แค่ไหน เมื่อก่อนดังกันแบบตูมๆๆ
ชัย พอง พอง : พอมันได้ออกเนี่ยคือ มันถึงจุดสุดยอดแล้วคับ มันกลับมาจุดนี้แล้วคับ จุดที่ผมดีใจที่สุดคือ พวกเราได้กลับมานั่งคิดงานกันแบบ คิดกันแบบไม่มีหรอกมากำหนดว่า มันจะต้องเสร็จเมื่อไหร่ คือคิดกันให้ดีให้ทุกคนพอใจ แก้ แก้ แก้ ทำกันจนแบบ ลงตัวที่สุด อันนี้คือแบบดีใจมากแล้ว ในยุคนี้นะครับ แล้วก็มีน้องๆ ถามถึงหลายคนว่า เอ้อ พวกพี่เมื่อไหร่จะออก เราก็ตอบได้อย่างเต็มปากว่า เสร็จแล้วชุดนี้ทำกันร้อยเปอร์เซ็นต์เลย
อ๊อฟ : อย่างนี้ต้องถามว่าในอัลบั้มนี้จริงๆแล้วเนี่ย ใช้ระยะเวลาในการทำมานานรึยัง ถ้าบอกว่าแบบแต่งมาเรื่อยๆ
หวาน พอง พอง : ถ้าพูดถึงว่ามันนานรึปล่าว มันไม่นานหรอก เพราะว่า มันอยู่ที่ว่าเราจะเอาเพลงไหนเข้ามามากกว่า
อ๊อฟ : จริงๆคือมีเยอะ
หวาน พอง พอง : ก็หลังจากอัลบั้ม เมื่อตอนนู้นเลยเนี่ยเรา ก็ยังทำ ยังมีอยู่อีกเยอะ ซึ่งแบบเราก็ไม่กล้าเอาเปิดฟังกันเองอีก
ทุกคนหัวเราะ
หวาน พอง พอง : ก็คือแบบเราก็ทำกันไปเรื่อยๆ อันไหนบางทีก็มีเขียนเพลงด่าคนก็ยังมีเลย
ชัย พอง พอง : ด่ากันเองครับ
หวาน พอง พอง : เขียนเพลงด่ากัน ก็ยังมีอีกเยอะแยะ ก็นั่งฟังกัน ฮา ฮา แต่ทำจริงๆนะ ซีเรียส ไม่ใช่ว่าแบบเขียนมาด่ากันเล่นๆ ทำซีเรียสด่าจริงๆ แต่ไม่ให้ใครฟัง
อ๊อฟ : นึกว่า ซีเรียส นี่ทำเพลงซีเรียส แต่ที่ซีเรียสเนี่ยคือ ด่า
ชัย พอง พอง : ด่าจริงๆ
ทุกคนหัวเราะ
อ๊อฟ : เฮ้ยๆ มีเพลงใหม่มาเสนอว่ะ เฮ้ย เป็นการหลอกด่า
อ๊อฟ : ยังงี๊ก็นอกจากเพลงเสร็จแล้ว ออกมาเรียบร้อย MV ก็ออกมาแล้วด้วย ผลตอบรับล่ะคะ
ชัย พอง พอง : สนิทครับ
ทุกคนหัวเราะ
ชัย พอง พอง : ก็มีกระแสตอบรับที่ดีคับ
อ๊อฟ : สนิทกับดีมันยังไงๆ อยู่นะคะ
ชัย พอง พอง : คืออาจจะโปรโมทไม่ได้เยอะเท่าขนาดในยุคนู้นๆ แต่ว่า เวลาไป ผมไปที่ไหนเนี่ยก็ ได้มีโอกาสร้องเนี่ย ก็จะเอาเพลงใหม่ไปร้องให้ฟัง
อ๊อฟ : ก็คือคนก็ชอบเพลง แต่ก็ไม่ได้โครมครามเหมือนเมื่อก่อน
ชัย พอง พอง : ใช่ ซึ่งเราไม่ได้คาดหวังว่า อู้หู กรูกลับมานี่ ตองมายืนอยู่ในจุดโด่งดัง ไม่ใช่ตรงนั้นเลย
หวาน พอง พอง : เราก็เข้าใจว่า ณ ปัจจุบันนี้ก็ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เราก็อายุมากขึ้นกว่าเดิมซักปี สองปี…
อ๊อฟ : ฮ๊า..
พี : หายไป 11 ปี อายุมากขึ้น ปี สองปี
หวาน พอง พอง : คือด้วยระบบของอย่างๆ เอาง่ายๆ พวกวิทยุ ในปัจจุบันมันก็เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน ซึ่งเราเป็นเหมือนกับ วงเล็กๆ วงนึง เราต้องทำใจ
อ๊อฟ : อายุเท่าไหร่แล้วคะ
หวาน พอง พอง : ก็พึ่งผ่านไป สองปี
ชัย พอง พอง : เท่ากันหมดแหละคับ
หวาน พอง พอง : เท่ากันหมดพึ่งผ่านไปสองปี
อ๊อฟ : อันนี้แปลว่า เราคงไม่ได้คำตอบอะไรออกมาแน่
ชัย พอง พอง : แหม จินตหรา เป็นนางยังพึ่งรู้เมื่อไม่กี่วันนี้เลย
อ๊อฟ : แหม เค้าแต่งมา 20 ปีแล้ว
พี : เค้าจำไม่ได้ไง เลยไม่ได้บอกใคร
ชัย พอง พอง : เค้างานยุ่งยังงั้นเลยเหรอ ไม่ได้ใช้บัตรประชาชนยังงั้นเลย
อ๊อฟ : งั้น เอาใหม่ มีแฟนกันรึยังคะ
ชัย พอง พอง : อุ้ย โสด
หวาน พอง พอง : หวานมีครับ
เค พอง พอง : ก็มีแล้วครับ
ชัย พอง พอง : เค นี่ advance ครับ แต่งงานแล้วด้วย
อ๊อฟ : มีลูกยังคะ
เค พอง พอง : ยังคับ
อ๊อฟ : เร็วๆนี้ปะคับ
เค พอง พอง : อ่า ยังไม่พร้อมคับ
หวาน พอง พอง : เค บอกรออัลบั้มนี้ขายดี ก็จะมีลูก
อ๊อฟ : อ๋อ นี่ไงทุนการศึกษา
อ๊อฟ : แต่เมื่อกี๊ คนนี้บอกโสดใช่ปะ (ชี้ที่พี่ชัย)
ชัย พอง พอง : อะไรเมื่อกี๊พูดงั้นเหรอ เช็คเทปสิ เช็คเทป
พี : นี่มันไม่ใช่ NFL
อ๊อฟ : แต่มีแหวน อยู่นิ้วนางมือซ้าย
ชัย พอง พอง : แหวนใส่นิ้วเดียว อันนี้คุณแม่ซื้อให้
อ๊อฟ : แม่ใครไม่รู้ล่ะ อะ ปล่อยนักร้องนำเอาไว้คนนึง เอาไว้ให้เด็กกรี๊ด
ชัย พอง พอง : โห มีแต่เด็กโห่ระยะหลังๆ มาทำไมเนี่ย
อ๊อฟ : แต่ ยังดีนะ เค้ารู้จักไง
พี : เค้ารู้จักว่านี่คือ พี่อู๋ อู๋ ธรรพ์ณธร
พี : คือ ขับรถเข้ามาในหมู่บ้านนี้นะคับ คือที่นี่เป็นบ้านของพี่ชัย พี่ชัยบอกว่าให้บอกยามไปเลยว่า ไปบ้านพี่อู๋ ไอ้เราก็ ทำไมบอกว่าไปบ้านพี่อู๋
ชัย พอง พอง : ถ้าบอกเค้าว่า ไปบ้านพี่ชัย บ้านไหนคับ ไม่เข้าใจ ถ้าเปิดกระจกแอด บ้านพี่อู๋ ตะเบ๊ะแล้วสวัสดีคับ ยังงี๊เลยคับ
พี : เค้านึกว่า พี่ชัยคือพี่อู๋ ธรรพ์ณธร นะคับ
ชัย พอง พอง : เพราะว่า สนิทกัน พี่อู๋มาบ่อย
อ๊อฟ : อย่างนึงที่เราอยากรู้มากเลย เพลงที่พวกพี่คิดว่าดังที่สุด ประทับใจที่สุด ของตัวเอง
หวาน พอง พอง : ผมชอบเพลงเพื่อน อารมณ์ แล้วก็ทุกๆอย่างมันดีที่สุด ทุกเพลงมันดีหมดแหละ แต่เราชอบที่สุด
พี : พี่ชัยล่ะคับ เอ้ย พี่อู๋
ชัย พอง พอง : อู๋ชอบหน้าใสๆ (ทำเสียงแหบเลียนแบบ พี่อู๋) ชอบหน้าใสๆ นะ อู๋ว่ามันลงตัว ผมชอบหน้าใสๆ เพราะว่า ตอนนั้นเป็นเพลงที่ทำสบาย เป็นเพลงที่ทำให้เรารู้จักแฟนเพลงหลายๆคน
พี : พี่เคล่ะคับ
เค พอง พอง : ชอบเพลง จะบอกเขา คับ เพราะเป็นเพลงแรกในชีวิตที่ได้เปิดในวิทยุ เป็น MV แนะนำตัวเราในยุคนั้นด้วย
อ๊อฟ : แล้วอัลบั้มใหม่ล่ะคะ เริ่มจากพี่เคบ้าง
เค พอง พอง : อัลบั้มใหม่เหรอ ก็ชอบ ให้กับความรัก นี่ล่ะคับ เพราะว่าตรงกับชีวิตพวกเรามากๆ ในช่วงที่ยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย
อ๊อฟ : จำได้เหรอคะ
เค พอง พอง : ครับ เราพยายามย้อนรำลึกไปถึงว่า เอ๊ะ ตอนนั้นเราทำอะไรกันอยู่
ชัย พอง พอง : อู๋ ชอบ แฉ อะ(เสียงพี่อู๋อีกแล้ว) ชอบเพลง แฉ คับ มันสนุกดีคับ เป็นเพลงที่มันส์ดี
พี : พี่หวานล่ะคับ
หวาน พอง พอง : ส่วนผมก็ หลายเพลงในอัลบั้มนี้ผมชอบนะคับ เพลง สัปดาห์ละครั้ง ดาดฟ้า คือเพลงที่แบบ ไม่ค่อยได้ถูกโปรโมทเนี่ยผมจะชอบมาก
อ๊อฟ : ทำไมล่ะคะ
หวาน พอง พอง : คืออย่างผมเป็นคนเล่นกลอง เป็นคน rhythm ใช่มั้ยคับ คือ rhythm เหล่านั้นมันจะแบบ ผมชอบมันสนุกแล้วก็ ได้อารมณ์ดี ต้องลองฟังดู
อ๊อฟ : นี่เราก็แนะนำไปหลายเพลงแล้วก็ต้องลองฟังดูว่าจะออกมาเป็นยังไง ถ้าสมัยนี้ไม่มี mp3 ก็อาจจะดังเปรี้ยงปร้างอีกก็ได้ต้องไปลองฟังดู
หวาน พอง พอง : จริงๆ ก็ไม่ซีเรียสนะครับ ก็ถ้าหาซื้อลำบากก็แวะพันทิพย์ไป ก็สบายๆ
อ๊อฟ : คืออัลบั้มนี้ก็ไม่กะจะได้ตังอยู่แล้ว
หวาน พอง พอง : ก็อยากได้ตังแต่ว่าก็มันลำบาก ยังงั้นก็ไม่เป็นไร
พี : คืออยากให้คนฟังเค้าฟังกัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
หวาน พอง พอง : ก็ลองฟังดูก่อน ถ้าชอบแล้วก็ ค่อยว่ากันอีกที
ทุกคนหัวเราะ
อ๊อฟ : วันนี้เราก็แบบว่าได้มาย้อนรำลึกนะ น้องๆที่เล่นอินเตอร์เน็ทสมัยนี้นะคะ ถ้าไม่รู้จักพวกพี่เค้านะคะ ไม่ต้องตกใจไป เพลงเค้ายังหาฟังได้อยู่เรื่อยๆ ชุดใหม่ก็ฟังแล้วถ้าชอบ ก็กลับไปหาชุดเก่า หาได้อยู่มั้ยเนี่ย
ชัย พอง พอง : มีรวมแล้วครับ มีผู้หวังดีรวมให้
หวาน พอง พอง : ก็ถ้าถูกใจก็ซื้อเก็บไว้ที่บ้านคนละแผ่น
อ๊อฟ : แผ่นเดียวเองเหรอ ไม่ซื้อเก็บแผ่นนึง ฟังแผ่นนึง
ชัย พอง พอง : คือจริงๆ แล้วเนี่ยแผ่นนึงพวกพี่ไม่ได้ๆ อะไรเลย ไม่ได้ได้อะไรมากมายแบบ เพียงแต่ว่าอยากให้เก็บเป็นที่ระลึก เพื่อความทรงจำที่ดีของพวกเราจะได้อยู่ด้วยกัน
อ๊อฟ : ไปดูศิลปะบนผืนผ้ากันมั่ง
พี : อธิบายเสื้อหน่อยคับ อะไรที่เป็นแกะดำในภาพนี้
ชัย พอง พอง : หนวดคับ ความหมายของรูปนี้นะคับ ยากมาก อันนี้เปรียบเหมือนตาที่กลมโต ทุกอย่างตอนนี้เปลี่ยนไปละ เราต้องมองให้มันกว้างขึ้น ซ้าย ขวานี่คือ ตา เหล่ ไม่ใช่ มันคืออาการของการตื่นตัว ความตั้งใจดูคับ ความตั้งใจคือคิ้ว หนวดหมายถึงว่า อายุของงาน
หวาน พอง พอง : เหมือนดูหมอเลยนะเนี่ย เราวิเคราะห์งาน มาดูซิปีหน้ามันจะเป็นยังไง
ชัย พอง พอง : อ้า อันนี้อะ ดาวเสาร์ขย่มดาวศุกร์อยู่ ในวงโคจร วงจะดังมาก ฟันธง!
อ๊อฟ : ถ้าอยากได้เสื้อตัวนี้ ส่ง comment เข้ามา แล้วส่ง เบอร์ที่ติดต่อได้มาที่ comment@jiggaban.com
อ๊อฟ : เรามีเสื้อให้พี่ๆเค้าด้วย
อ๊อฟ : ถ้าไปหาตามแผงเทปให้หา ที่มันเป็นรูปโป๊ะไฟนะคะ เพราะมันไม่มีหน้าพี่เค้าเลย
หวาน พอง พอง : แค่บอกเค้าว่าอัลบั้มพอง พอง ชุดใหม่
ชัย พอง พอง : เค้าก็จะหยิบออกมาจากใต้เก๊ะ
ทุกคนหัวเราะ
ชัย พอง พอง : เอ้ย อันนี้เรื่องจริง เดินผ่าน 3 รอบ ไม่มีเว้ย พยายามมองหน้าสบตาคนขาย มันจำกรูไม่ได้ โทษนะคับ มีพอง พอง มั้ยคับ พอง พอง เหรอ(คิดนานมาก) เดินไปถามน้องข้างๆ อ๋อๆ มี (ทำท่าล้วงใต้แผง) นี่คับ ครับ เอาหมดเลยครับ มันยังไม่เฉลียวใจว่าเป็นเจ้าของ
อ๊อฟ : สุดท้ายละ ช่วยฝากเหตุผลที่คนต้องฟัง
หวาน พอง พอง : เหตุผลเพราะว่าชุดนี้เยี่ยม แนะนำเพลงพวกนี้ที่ไม่ได้ถูกโปรโมท ถ้าคนชอบดนตรี ชอบฟังเพลงน่าจะชอบ เพราะเพลงเหล่านั้นก็แบบ mood มันจะต่างจากเพลงตลาดทั่วไปที่เคยได้ยินลองฟังกันดู
ชัย พอง พอง : อันนี้สำหรับคนชอบของแปลกนะครับ สำหรับผมนะครับ ใครที่เคยเป็นเพลงของพองๆ ก็กลับมาทำอัลบั้มกันอีกครั้งนึงหลังจากหายไปนาน ก็อยากจะให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกคับ
เค พอง พอง : ก็อยากจะฝากให้พวกรุ่นน้องๆครับ ช่วยฝากไปบอกรุ่นอาๆ ของน้องๆ แต่ละคนด้วยว่า พอง พอง กลับมาออกอัลบั้มอีกแล้วเพราะบางทีอาๆ ทั้งหลายอาจจะไม่มีเวลาจะมาเล่นอินเตอร์เน็ท ไม่รู้ข่าว เลยไม่ได้ซื้อ
หวาน พอง พอง : นึกว่าเค จะบอกว่า ฝากถึงน้องๆ แฟนเพลง ถ้าจเอกันแล้วสวัสดีกันด้วย
พี : ขอบคุณพอง พอง มากๆ เลยวันนี้ ร่ำลาเลยละกันนะ
(ส่งท้ายด้วยเพลง ให้กับความรักแบบ acoustic สดๆ)