Share Button

บทสัมภาษณ์ Retrospect
พิธีกร: อ๊อฟ, พี
สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกแล้วกับรายการจิกกะบาล Talk Show สบายๆสไตล์ จิกกะบาล รายการบันเทิงแนวใหม่ยุค Hi-speed แขกรับเชิญของเราวันนี้พิเศษ หลายคนอาจจะเบื่อเพราะพิเศษ พิเศษทุกตอน หลายๆคนอาจจะเคยเอาเพลงของพวกเค้าไปเล่นในห้องซ้อม แล้วก็จะต้องเล่นเป็นเพลงสุดท้าย เพราะว่าเล่นแล้วตายไปเลย นักร้องเนี่ยจะตายเป็นพิเศษ พบกับเค้าเลยดีกว่า Retrospect

อ๊อฟ : แนะนำตัวกันหน่อย
แน็ป : แน็ป ร้องนำ
บอม : บอม เล่น เบส
น็อต : น็อต กีตาร์ ครับ
เบิร์ท : เบิร์ท เล่น กลอง
อ๊อฟ : ตัวเล็กสุดเลย
เบิร์ท : ตัวเล็กแต่มีพลัง
อ๊อฟ : เฉพาะแขนรึเปล่า
เบิร์ท : หมดเลยครับ มีพลังหมดเลย
อ๊อฟ : มารวมวงกันได้ยังไง เจอกันที่ไหน พบกันเมื่อไหร่
บอม : ไม่เกี่ยวข้องกับดนตรีเลย ผมไปเล่น Counter strike
พี : Counter ที่อยู่รัชดาอ่ะเหรอ
บอม : Counter strike ไปเล่น แล้วก็เจอ แน็ป แล้วก็นั่งคุยกัน อ๋อ ชอบตกปลาเหมือนกันเหรอ คุยกันเดี๋ยวจะไปตกปลา แล้วก็ไปด้วยกัน แล้วก็วันที่ไปตกปลา แน็ปเค้าก็เอาวิทยุไปด้วย แล้วเค้าก็เอาเทปเป็นเพลงร็อคไป แล้วเราได้ยินเค้าเปิด เอ๊ ชอบฟังเพลงแบบนี้เหมือนกันเหรอ มีวงไหม เราเองก้คิดจะทำวงอยู่ แน็ปเค้าบอกว่าไม่มี ก็มาลองรวมๆกันตอนนั้นมี แน็ป ตีกลองแล้วก็ร้องนำด้วย ส่วนผมก็เล่นเบส แล้วมีพี่ชายผม อีกคนนึงเล่นกีตาร์ แล้วผมกับน๊อตเป้นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยม ก็ชวนมา เล่นไปได้สักพักก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันขาดอะไรสักอย่างไป ขาดคน เอ็นเทอร์เทนข้างหน้า มันขาด front man แล้วก็เลยเปิดออดิชั่น รับสมัครมือกลอง ให้ลองมาตีดูบ้าง ส่งเดโม่มาบ้าง มีเข้ามาลองกันเยอะ เหมือนมันไม่โดนอ่ะ มันไม่เข้าล็อคไม่เข้าขากัน มีเพื่อนของแน็ป แนะนำมาบอกว่ารู้จักมือกลองอยู่คนนึง เค้าเอาเดโม่มาให้ ผมก็ฟังแล้วเออ ตีดีผมก็โทรไปหาเค้า ก็นัดเค้ามาซ้อม ปรากฎว่าวันที่มาซ้อม 2 คนนี้เค้าเจอหน้ากันแล้วก็ อ้าว เค้าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยประถมไม่เจอกันมา 10 กว่าปี พี่เค้าไปเรียนต่อ อเมริกา ตอนแน็ปเริ่มมาร้องนำ พี่เค้าก็ไปเรียนต่อ อเมริกา ตอนแรกยังไม่ใช้ชื่อนี้ มันไม่มีชื่อ ไม่ได้ตั้งชื่อ แค่เล่นๆ
0018
พี : ชื่อของ Retrospect มาจากไหน
แน็ป : มาจาก Dictionary วันนั้นเราไม่รู้จะทำไง เราก็เลยเปิด นี่แล้วก็จิ้ม ปรากฎว่าไปลงที่ตัว R ก็เจอคำว่า Retrospect ความหมายของมันก็คือ การ รำลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เผอิญพวกเราชอบเล่นกับคำ พวกเราชอบสวนกระแส เพราะตอนนั้นมันจะมีดนตรีไม่หนักไปเลยก็เบาไปเลย underground ก็ underground ไปเลย เพลงที่เป็น pop ก็ pop ไปเลย บังเอิญเรามี concept อยู่ว่า มีดนตรีที่หนักหน่วง มีเมโลดี้ที่ อ่อนหวาน มีเนื้อหาที่ บาดลึก เราเลยคิดว่า คำว่า Retrospect เหมาะสมที่สุดแล้ว
อ๊อฟ : ตกลงแปลว่าอะไร
บอม : แปลว่า มุมมองกลับ การมองสวนกระแส อย่างที่แน็ป เค้าบอก มันเป็นการสร้างผลงานแบบ ใรยุคที่เพลงแนวอื่นกำลัง ครองตลาด ย้อนไปสมัย 10 กว่าปีมาแล้ว ไม่ต้องกังขาเลย rock ครองประเทศ มีไมโคร หินเหล็กไฟ นูโว ก็มี ร็อค ครองประเทศมากๆ แต่ว่าช่วงที่เราสร้าง Retrospect ขึ้นมาเนี่ย เรารู้สึเหมือนกับว่า แบบ เหมือนวงร็อคมันหายไปเยอะ เราเลยคิดว่ามันเป็นการทำสวนทางกับ main stream
อ๊อฟ : แต่เป็นการสวนกระแสที่เราชอบอยู่แล้วด้วยใช่ไหม แล้วที่เล่นกันตอนแรก เล่นกันทำไม
น็อต : เล่นกันเอง คุยกันว่า บอม เย็นนี้ว่างไหม แน็ปว่าง เบิร์ทว่าง ก้จะไปรวมกันที่บ้าน แน็ป เล่นเพื่อความสุขของพวกเราเอง
อ๊อฟ : เล่นเพื่อความสุข แล้วเคยประกวดกันไหม
บอม : รวมกันไม่เคย ก่อนหน้านั้นเคยประกวดกัน ของผม เคยประกวด Hot wave Music Awards ครั้งที่ 2 กับ 3 ไม่ได้รางวัลครับ แต่เข้ารอบ 10 วงสุดท้าย 2ปีเลย ตอนนั้นยังเด็กอยุ่เลย ผมเพิ่ง ม. 2 เอง ม.2 ม.3 จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นวงที่เด็กที่สุดอยู่ มี ม.3 คนเดียวในวง แข่ง 2 ปีเข้ารอบ 10 วง สุดท้าย 2 ปี แต่ไม่ได้อะไรเลย มันดูน่าเบื่อ พอดีกว่า มันประจวบเหมาะกับที่ว่า ขึ้น ม.4 แล้วก็ย้ายโรงเรียนกันไป ด้วย คือเราไปแข่งเนี่ย พูดตามตรงนะ การแข่งดนตรี ถ้าแข่งเพื่อหวังผลรางวัส คุณจะไม่ได้อะไรจากมันเลย ได้แค่ถ้วย เงิน ถ้าคุณหวังว่าคุณไป เพื่อได้ประสบการณ์ เพื่อมุมมองใหม่ๆ เพื่อได้รู้จักกับเพื่อนๆนักดนตรี คุณได้รางวัลมาก็เหมือนกับ bonus เท่านั้นเอง ได้แค่ประสบการณ์ก็คุ้ม พอแล้ว ก็เลยคิดว่าแข่งมา 2 ปีเราก็เข้าใจอะไรมากขึ้น เรารู้จักพี่ๆวงหลายๆวง ซึ่งตอนนี้เข้าก็อยู่ในวงการหลายๆวง ตอนที่ผมแข่งก็มี ลาบานูน crash กะลา ต่อให้ไม่รู้จักเค้าก็ยังจำได้ว่าเคยเจอกัน
แน็ป : ของแน็ปแข่ง Hot wave ครั้งที่ 5 แต่ว่าไม่ได้เข้ารอบอะไรเลย แต่ว่าเพลงถูกเปิดออกอากาศ ครั้งนึง เพลงตอนนั้นที่ทำ จะเป็น dead metal hardcore แต่ว่าเอาเพลงพี่มอส มาcover สลัดสะบัด ก็ได้ออกอากาศครั้งนึง ก็รู้สึกดีใจมากๆเลย เป็นแบบนี้แหละครับ แต่ไม่มีเมโลดี้เลย ว๊าก ทั้งเพลง
น็อต : ของผมประกวดปีเดียวกับ แน็ป แต่ไม่ได้อะไรเลย นั่งอยู่บ้าน โทรหาบอมให้ฟังเพลง ของ แน็ป ไม่รู้เหตุผลอะไร มาเจอกันมารวมเป็นวงเดียวกันซะอย่างนั้น
บอม : มันเหมือนเป็นพรหมลิขิต
พี : วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณ วง Big ass มากๆๆ
บอม : พูดจริงๆนะ มันเหมือนมีเส้นด้ายอะไรสักอย่าง จูงเราเข้ามา
อ๊อฟ : มีด้านแดงที่นิ้วก้อยป่าว
บอม : อย่าง เบิร์ท กับ แน็ป เค้าก็รู้จักกันมาก่อน อย่างผมกับ แน็ปก็รู้จักกันมาก่อน คบกันมา 7 ปีแล้ว มันมารวมกันด้วยเหตุผลแปลกๆ และ เส้นทางแปลกๆ อยู่ๆก็มารวมกัน มันเกิดขึ้นโดนที่เราไม่รู้ตัว อยู่ๆก็มาถึงวันนี้แล้ว
เบิร์ท : ของผมก็ Hot wave ครั้งที่ 6 ไม่ได้อะไร ถ้าเป็นเด็กมัธยม แล้วเล่นดนตรีต้อง Hot wave ครับ มันเป็นอะไรที่ต้องทำ
บอม : ถ้า เบิร์ท ไม่ได้แข่ง Hot wave ก็คงไม่ได้มารวมกัน เพราะว่า เบิร์ทก็จะไม่มี เดโม่อันนั้น ออกมาก
เบิร์ท : ก้จะไม่มี เดโม่อันที่ส่งมาให้ฟังกัน
พี : จาก Hot wave จนมาถึงเพลง ไม่มีเธอ ที่เราได้ยินกัน มันมาได้ยังไง
แน็ป : หลังจากที่เราเริ่มทำวงกัน เราก็เริ่มสร้างผลงาน เราทำเองทุกขั้นตอนอัดกันเอง บงประมาณก็ไม่มี คอมก็ห่วยๆ ทำเพลงนึงก้ต้องลบเพลงนึง Hard disk มันเต็ม พอเสร็จเพลงนึง ต้องลบทุกอย่างของเพลงก่อนหน้า ต้องเลือกแล้ว
บอม : write ก็ไม่ได้ แต่ก่อนไม่มีเครื่อง write cd ด้วย
พี : แล้วทำไง
บอม : ต้องไปเอาของบ้านคนอื่น ยกไปทั้ง tower เลย
แน็ป : for your ears only หลังจากที่เราทำ EP กันเราก็ไปวางขายกันครั้งแรกที่ งานใต้ดิน งานของเด็กดนตรีที่ฟังเพลงหนักๆ ที่เรียกตัวเองว่า เด็กเสื้อดำ เป็นเด็กฟังเพลงรุนแรง แต่เป็นคนดีครับ พูดถึงน้องๆทุกคน อย่างวัฒนธรรมการดู คอนเสิร์ตของ Retrospect คือจะมีใครลมก็จะจับมือกัน ขอโทษกันตลอด ไม่เคยมีตีกัน จากนั้นก็เล่นคอนเสิร์ตใต้ดิน เล่นไปเรื่อยๆจนไปเจอกับกลุ่มดนตรี spin map ตอนนั้นมี 4 วง ซึ่ง Sweet mullet ตอนนั้นเค้าได้ เซนต์สัญญากับ ค่าย จินนี่ record แล้ว เค้าเลยแนะนำ retrospect ไปคุยกับผู้ใหญ่ในจินนี่ เพราะว่าเค้าต้องการวง ร็อคหนักๆพอดี ก็เลยได้เซ็นสัญญาในเวลาต่อมา
พี : รู้สึว่าประสบความสำเร็จแล้วรึเปล่า
บอม : มันไม่ใช่ประสบควงามสำเร็จแล้ว มันแค่ คือว่า ฝันส่วนนึงเป็นจริง
แน็ป : เรายังพูดกันเล่นๆอยู่เลยว่า ถ้าเราทำวงแล้วได้เซ็นกับแกรมมี่ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น พูดกันเล่นๆสนุกๆ
อ๊อฟ : เริ่มเล่นดนตรีกันมานานรึยัง
เบิร์ท : ของผมประมาณ 16 อยู่ ม.4 ให้แม่ซื้อกลองให้เลย ยังตีไม่เป็น เอากลองมาตั้งแล้วก็ตี จนตำรวจมาจับ ตอนนี้เค้าก้ไม่ใส่ใจแล้ว เค้าชินไปแล้ว
น็อต : เริ่มประมาณ ม.3 -4 เล่นกีตาร์เป็นชิ้นแรก เคยคิดว่าจะเปลี่ยนแต่ก็อย่าเลย ทำอย่างเดียวให้มันดีๆกว่า
บอม : บอม นานอ่ะ น่าจะสัก 10 ปีที่แล้วมั้ง เริ่มเครื่องเป่า เล่นพวกเครื่อง Blass พวก tuba trombone จากวงโย เสร้จมาเล่น double bass
พี : น่าสนใจ ไม่เอา double bass มาใช้กับวง
บอม : ตอนแรกก็คิด แต่จังหวะผู้ใหญ่อยากให้งานเสร็จเร็วๆ เพราะว่าคิวมันต้องออกแล้ว เอาไว้อัลบั้มหน้า
แน็ป : จริงๆแล้วไม่ใช่นักร้อง ไม่ได้อยากเป็นด้วย เล่นกีตาร์มา เล่นกลอง เข้าม. ต้น มาชื่อโรงเรียนสังคีตวิทยา ก็เรียนสายกีตาร์คลาสิค เพื่อนๆทำวงกัน เล่นครบทุกอย่าง สุดท้ายเพื่อนไล่มาร้อง
พี : วิธีการร้องได้มาจากไหน
แน็ป : จากที่ฟังเพลง ร็อค metal ฟังจากวงเมืองนอก ถ้าเราทำได้อย่างเค้ามันจะเจ๋งมากเลย ก็ลองทำดู วันแรกที่ทำ คอพังไปอาทิตย์นึงเลย มันคือการฉีกทฤษฏีการร้องเพลง อย่างหน้ากลัวมากๆ มันคือการทำงายเส้นเสียง แต่ว่าพอหลังจากนั้น 1 อาทิตย์เสียงกลับมา มันมีความแตกมันมีทุกอย่างที่มันไม่เคยมี มันพังไปแล้ว แต่เมโลดียังร้องได้ หลังจากนั้นก้รู้วิธีการ ร้องเสียงยังไง หลบยังไงให้ไม่เจ็บคอ และให้เสียงที่ได้ยินเท่าเดิม เรียนรู้จากตัวเอง กับเพลง cd
พี : แล้วตอนนี้คือ สามารถทำเสียงแตกๆ หรือที่เรียกว่าแหกปาก ได้โยที่ไม่มีการระคายคอ รึเปล่า
แน็ป : มันก้มีบ้าง แต่ไม่ถึงกับเจ็บ ไม่มีเสียงเลย
พี : พูดๆแบบนี้ทำเสียงแตกๆได้ไหม
แน็ป : ได้
พี : ลองสิ สายดีไหมครับ
แน็ป : ผมอาย เขิน จริงๆพูดที่ไหนก็ได้ครับ แต่ถ้ามันอยู่ในตัวเพลงมันจะเพราะ แต่ถ้ามาพูดแบบนี้มันลอย มันประหลาดด้วย
พี : ขำๆ เอาซะหน่อยหนะ แนะนำตัวเป็นภาษาประหลาดหน่อยครับ
แน็ป : ถ้าพูดแบบนี้มันจะดังมาก คือการร้อง ว๊ากมีหลายอย่าง สำหรับตัวผมนะ มันมีแบบ Brutal dead , Hardcore , black Metal , Primo, kiore เอาแบบเป็น deadๆ ละกันนะ เอาร้อง
น็อต : โยนมาเลยอย่างนี้เลยเหรอน้อง
แน็ป : เนี่ยเค้าทำได้เค้าทำได้ดี เอา dead brutal
น็อต : พี่มาซื้อลูกชิ้น แน็ปเป็นแม่ค้าหน่อย
แน็ป : เอาไรดีจ๊ะ
น็อต : เอานี่ เอาอันนี้ แล้วก็ไปนั่งกิน หิว ไม่ไหวแล้ว
บอม : อันนี้เป็นเรื่องจริงนะ ไม่ใช้เค้า
อ๊อฟ : แนะนำน้องๆ ที่อยากจะร้องเสียงแตกแบบนี้
แน็ป : ที่สำคัญที่สุดขอการร้องเพลง คือการพักผ่อนที่ดี พักผ่อนที่เพียงพอ การว๊าก ต้องศึกษาเอาเอง เพราะของมันอยู่ข้างใน ก็นอนพักผ่อนเยอะๆแล้วกัน
อ๊อฟ : นอกจากเป็น Retrospect กันแล้วทำอะไรกันอยู่อีกบ้าง
แน็ป : ของแน็ปก็กำลังจะจบที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลคลอง 6 สาขาถ่ายภาพภาพยนตร์ ส่วนกิจกรรมงานอดิเรก ก็คงจะเป็นขับรถ Off road ไปช่วยน้องๆในป่า น้องๆที่ไม่มีที่เรียน เคยดูรายการโรงเรียนของหนู เอาของไปช่วยน้องๆที่ยากไร้ ขาดแคลนทุนทรัพย์
บอม : บอมจบแล้ว คณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ภาควิชา นิเทศ จากลาดกระบัง จบมาปีกว่าแล้ว
อ๊อฟ : แล้วจะทำงานเกี่ยวกับ ถาปัตไหม
บอม : ภาค วิชา นิเทศศิลป์ สาขาถ่ายภาพ ถ่ายภาพก็เป็นงานอดิเรกมานานแล้ว แต่ว่าตอนนี้ที่อินมากๆเลย ก็ มอไซด์ ก็ขี่มอไซด์ เดี๋ยวคืนนี้ก็ต้องไปแข่ง ที่สนามแข่ง คลอง 5
แน็ป : อันนี้ มอไซด์ใหญ่ 900 CC 1000 CC
บอม : วันนี้ก็พาแน็ปไปซิ่งมา
แน็ป : กลัวตาย วิ่ง 2 วินาที 140 คิดดูแล้วกัน เร็วมาก ต้องโอบ ต้องกอดแบบรัด ไม่ไหวจริงๆ
บอม : เบิร์ท เค้าก็ไปลองมาวันนี้
เบิร์ท : ลองขับก็ ลอย เอาไม่อยู่ ตอนนี้เรียนอยู่ ปี 4 ที่เดียวกับแน็ป คณะ ศิลปกรรมสาตร์ เอก ดนตรี สากล
น็อต : ของน๊อต จบปีนี้ครับ คณะดุริยาคศาสตร์ ศิลปากร จบสักทีนึง ค่าเทอมมันก็เจ็บปวดอยู่เรียนนานๆเดี๋ยวพ่อแม่จะไม่ไหวเอา ต้องรีบเค้นให้จบนิดนึง
พี : พูดถึงอัลบั้มนี้บ้าง
น็อต : จากที่ต้องเคยมาอัดเพลงเอง ตั้งไมค์เอง วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำเอง มันเหมือนมีองค์กรมาช่วยดูแลตรงนี้ให้ ซึ่งก็ดี เพราะมันละเอียดอ่อนมาครับ มันก็จะ เสียรูปแบบการทำงานไปด้วยส่วนนึงแต่ก็ดีที่ค่ายเค้าเปิดโอกาสให้เราทำงานเองทุกอย่างเหมือนเดิมไม่บังคับไม่อะไรเลย เป็นเรื่องที่ดีดีมากๆ
อ๊อฟ : อัลบั้มนี้มีใครมีส่วนร่วมอะไรบ้าง หน้าที่
แน็ป : ทุกคนมีสว่วนร่วมในเนื้อร้อง ทำนอง เมโลดี้ 98 %ส่วนใหญ่เนื้อเริ่มมาจากแน็ป แล้วทุกคนก็จะมาช่วยตบเข้ามา ตรงไหนควรแก้ ตรงนี้ เมโลดี้หนักไป เบาไป ส่วนดนตรีเราทำกันเองหมดอยู่แล้ว เราเริ่มจากการแจมกันในห้องซ้อมอยู่แล้ว
อ๊อฟ : เอาเรื่องราวที่ไหนมาเขียนเพลง
แน็ป : เรื่องราวส่วนใหญ่จะเกิดจากตัวผมเองด้วย คนรอบข้างด้วย จากคำบอกเล่าที่เราได้ยินมาด้วย สมมุติเพื่อนมาเล่า ว่าเค้ากำลังจะเลิกกับแฟน เค้ารู้สึกว่าเค้าต่ำต้อยเหลือเกิน ผู้หญิงคนนั้นเหมือนอยู่บนฟ้าอะไรอย่างเนี่ย ผมก็เอาคำมาตีความแล้วพยามจะ บิ้วเข้าไปในตัวเพลงแล้วให้มันฟังออกมาแล้ว เป็นเพลงที่สุด
อ๊อฟ : มาถึงอัลบั้มกันบ้าง ทำไมชื่อนี้
น็อต : ชื่อว่า อัลบั้ม Unleashed แปลว่าอะไรครับ เบิร์ท
เบิร์ท : แปลว่าการปลดปล่อย สัตว์ร้ายออกมาจากที่คุมขัง
แน็ป : สัตว์ร้าย คือ พลัง อย่างเช่น สิงห์โต เปรียบเสมือนกันเราจะปลดปล่อยพลังของ Retrospect ออกมาถึงคนฟัง
พี : ซีดี Retrorian edition คืออะไร
น็อต : คือ พวกแฟนเพลงของเราเค้าจะเรียกตัวเองว่า retrorian เป็นกล่อง4 เหลี่ยม ทรงยาว เป็นกล่องดีวีดี มี MV แล้วก็ wallpaper แล้วก็จะมี version ธรรมดาด้วย
แน็ป : ส่วนใหญ่ retrorian เค้าจะเอาอันนี้ไว้เก็บ แล้วอีกอันไว้ฟัง
อ๊อฟ : คอนเสิร์ตที่เล่นแล้วประทับใจที่สุด
บอม : เป็นคอนเสิร์ต ตอน Bangkok Music Fest ที่ทาง seeds เค้าจัด เป็นคอนเสิร์ตที่คนดูเยอะที่สุดแล้วเรารู้สึกว่าเค้ารู้จักเราจริงๆ รู้ว่าขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ก้กลัวแต่ไม่ได้คิดอะไรมาก มาอยู่หลังเวทีเห้นคนดูเต็มสนามบอล สั่น จนยืนไม่อยู่ พอขึ้นไปเล่น เค้าร้องเพลงเรา เค้าโยก เค้าสนุกกับมัน มันมีท่อนนึง ที่มันเบาลงไป เค้าร้องเสียงดังกว่า แน็ปร้องอีก ผมยืนอยู่บนเวทีจะร้องไห้ วันนึงเราเล่นดนตรีเพื่อความสนุก เพื่อความสุขของเรา แต่วันนี้มันมีค่าสำหรับคนอื่นด้วย มันเป้นอะไรที่จุดประกายหลายๆอย่างด้วย
น็อต : เมื่อช่วงบ่าย ที่บอมเล่าให้เราฟังเรื่องกระทู้ใน Internet เล่าให้พี่เค้าฟังด้วย เรารู้สึกดีมาก
บอม : ในอัลบั้มนี่มันมีเพลง ชื่อเพลง สุดที่รัก แน็ปแต่งให้พี่เค้าคนนึงที่เสียชีวิต มีน้องคนนึงเค้ามาโพสกระทู้ บน internet ประมาณว่า ขอบคุณครับ อะไรสักอย่าง ว่าเพลงเนี่ย ทำให้เค้านึกถึงพ่อแม่เค้าที่เสียชีวิตไป ไอ้อะไรอย่างเนี่ยแหละที่ทำให้พวกเราอยากทำงานต่อไป มีแรงสู้ทุกครั้งที่เหนื่อย มีคนฟังเพลงแล้วเค้าเห็นค่า เค้ารู้สึกจริงๆ
แน็ป : คอนเสิร์ตเดียวกันครับ ในคอนเสิร์ตเนี่ยเป็นทางยาวสำหรับนักร้องวิ่งไปข้างหน้า คือเราวิ่งไป ตอนจะจบเพลงไม่มีเธอ สะดุดขาตัวเองล้ม เป็นสไตล์ของ retrospect ที่จะล้มเป็นเรื่องธรรมดา เงยหน้าขึ้นมา เสียงคนดูที่ร้องมันกลบตัวเราไปเลย มองไปเห็นมือกำลังตบมือสุดลูกหูลูหตาเลย เป็นภาพที่ต้องจำไว้เป็นครั้งหนึ่งของชีวิตเลย ประทับใจมากๆๆ
เบิร์ท : เป็นที่เดียวกัน ก่อนงานนั้นไม่เคยเจองานใหญ่อย่างนั้น คนเยอะมาก พื้นสะเทือนเลย ประทับใจมาก
น็อต : ถ้าประทับใจคืองานเดียวกัน แต่อีกความทรงจำ คืองานที่เราเล่นแล้วเราถูกไล่ลงจากเวที ตอนนั้นยังไม่ขึ้นมาบนดิน
พี : ทำไมถูกไล่
บอม : ตำรวจครับ
น็อต : มาเลย น้อง เสียงดัง ข้างบ้านเค้าจะนอน เป็นร้านอาหาร วันเกิดของใครสักคนนึง ชวนพวกเราไปเล่น ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ จะไปดีเหรอเป็นร้านอาหาร เล่นได้เพลง 2 เพลง
บอม : มีปู่อายุประมาณ 70 นั่งกินกระเพาะปลาอยู่ข้างหน้า เพลง retro สมัยก่อนไม่ใช่อย่างนี้ แล้วต้องขนของไปเอง มีรถคัดเดียวที่คนได้ คือรถ แน็ป เอาของทุกอย่างที่มีใส่รถ ใส่เข้าไปคือใส่อะไรเข้าไปไม่ได้แล้ว คืออย่างที่บอกเล่นเพื่อความสุขอย่างเดียว
น็อต : ก้อยากให้คุณตำรวจมาดู คอนเสิร์ตตอนนี้
บอม : คุณตำรวจไม่เท่าไหร่ อยากชวนคุณปู่มาอีกที
อ๊อฟ : วันนี้เราก็คุยกันสนุกสนานมากมายแล้ว วันนี้เราก็มีของที่ระลึกที่เค้าทำไว้ให้เราด้วย ใครอยากได้เสื้อตัวนี้ ก็ ส่ง comment เข้ามาที่ comment@jiggaban.com พร้อม เบอร์โทรศัพท์ ที่สะดวกในการติดต่อ
พี : อันไหนของใคร
แน็ป : อันนี้ของ แน็ป ครับ
พี : ทำไมจะไปนอกพิภพละ
น็อต : ของ น็อต ต้องกลับหัวดู
อ๊อฟ : ต้องไปดูกันเอง เกินคำบรรยายจริงๆ ฝากอัลบั้มกันดีกว่า
แน็ป : เราเพิ่งวางแผงไป แต่ขาดตลาดแล้ว
บอม : เราเลยขอให้เค้าออก limited อีกครั้ง แต่ไม่มีอีกแล้ว หมดแล้วหมดเลย ครั้งแรกทำมา 5000 แผ่นแล้วหมดแล้ว
แน็ป : วีซีดี คาราโอเกะ วันที่ 22 พฤษภา นี้ วางแล้ว
อ๊อฟ : ขอขอบคุณ ร้าน riches coffee และร้าน Music center ชั้นใต้ดิน fortune มากๆๆ วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีคะ

Facebook Comments
Share Button